ตำนานแห่งความบรรลัย Dragonball Evolution โดย ตั๋วร้อน ป๊อปคอร์นชีส

ตำนานแห่งความบรรลัย Dragonball Evolution โดย ตั๋วร้อน ป๊อปคอร์นชีส

ตำนานแห่งความบรรลัย Dragonball Evolution โดย ตั๋วร้อน ป๊อปคอร์นชีส
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

Dragonball Evolution คือหนังที่พังทลายสายอาชีพในวงการของทุกๆ คนที่เกี่ยวข้อง มีเพียง โจวเหวินฟะ (Chow Yun-fat) ที่รอด แต่ถ้าว่ากันตามทฤษฎีของฮอลลีวู้ดแล้ว โจวเหวินฟะเองก็ไม่รอด เพราะนี่คือหนังฮอลลีวู้ดเรื่องสุดท้ายของเขา

  • เดิมทีนี่คือโปรเจ็กต์ยักษ์ใหญ่ที่ 20th Century Fox พยายามจะสร้างมาตั้งแต่ยุค 90 เฉินหลง หรือ หลี่เหลียนเจี๋ย คือสองตัวเลือกที่จะมารับบท โกคู
  • ทาเคชิ คาเนชิโร่ (จินเฉิงอู่) ก็คือหนึ่งในตัวเลือกในเวลาต่อมา หลังจากเฉินหลงเริ่มมีอายุแล้ว
  • อ.อากิระ โทริยามะ (Akira Toriyama) ชอบเฉินหลงมาก นี่คือคนที่เหมาะสมที่สุด ด้วยเพราะความที่บู๊ก็ได้ ตลกก็ดี
  • เวลาล่วงเลยไม่ได้สร้างเสียที มาจนถึงช่วงต้นยุค 2000 โปรเจ็กต์เริ่มถูกพัฒนา โจวซิงฉือ (Stephen Chow) ถูกคัดเลือกให้มากำกับ จากการที่เขาสร้างชื่อในผลงาน Kung fu hustle นี่จึงเหมือนจะเป็นหนังฮอลลีวู้ดเรื่องแรกของเขา

  • ทว่า โจวซิงฉือ มีแนวคิดขัดแย้งกับ 20th Century Fox อย่างมาก เขาออกจากโปรเจ็กต์ โดยให้เหตุผลว่า เขาจะไม่สร้างหนังที่ไม่ได้มาจากพล็อตเรื่องของตัวเอง (แต่เขาก็สร้างไซอิ๋วนะ) ซึ่งชื่อของเขาก็ยังถูกห้อยไว้ขายในฐานะโปรดิวเซอร์อยู่ เหตุผลด้านการตลาดภาคพื้นเอเชีย แต่ความเป็นจริงเขาแทบไม่ได้ทำอะไรเลย
  • Ben Ramsey ผู้ดัดแปลงบทจากมังงะ ไม่ได้เป็นแฟนมังงะหรืออนิเมชั่นเรื่องนี้ เขารับงานเพราะเงิน ซึ่งเป็นงานเผือกร้อนหลังจากที่ โจวซิงฉือ ลาออกจากโปรเจ็กต์ไป
  • James Wong ผู้กำกับก็ไม่ได้เป็นแฟนมังงะหรืออนิเมะ แต่ก่อนมารับงานเขาก็ตั้งใจอ่านและดูจนจบภาคตัวร้าย Frieza เขาคือผู้กำกับที่สร้างชื่อมาจากหนังโกงตายสุดมันส์อย่าง Final Destination แต่ชีวิตในวงการก็มาบรรลัยเพราะ Dragonball Evolution นี่เอง เขาไม่มีผลงานกำกับหนังใหญ่อีกเลยนับแต่นั้น
  • Justin Chatwin ผู้รับบทโกคู คือผู้ที่เอาจริงเอาจังกว่าใครทั้งหมด เขาทั้งอ่าน ทั้งดูซ้ำ และลงทุนไปใช้ชีวิตในบางประเทศแถบเอเชียหลายเดือน เพื่อฝึกวิชาการต่อสู้และฝึกสมาธิ เรียกได้ว่าอินสุดๆ

  • หนังยิ่งทำยิ่งออกอ่าวออกทะเล มีการตัดตัวละครที่ไม่ควรตัดออก เช่น คุริริน หรือ เท็นชินฮัง เมื่อเนื้อเรื่องเริ่มมั่ว พวกเขาใช้วิธีการห้อยท้ายชื่อหนังด้วยคำว่า Evolution ที่แปลว่า การวิวัฒนาการ ไม่ยึดติดกับสิ่งเดิมๆ
  • ที่โกคูเข้าโรงเรียนนั้นคือ Ben Ramsey ผู้เขียนบทหยิบยืมเอาความเป็นโกฮังมาใส่ในตัวคุณพ่อ
  • อ.อากิระ โทริยามะ ไม่ได้รับอนุญาตให้แทรกแซงการผลิตหรือออกไอเดียใดๆ อาจารย์เองก็ไม่ได้กังวลอะไร เพราะคิดว่าทีมงานระดับฮอลลีวู้ดไม่น่าจะทำอะไรสั่วๆออกมา แต่พอมาดูอีกทีตอนหนังเสร็จ อาจารย์ถึงกับอึ้งรับประทาน พวกคุณทำอะไรลงไปกับงานของผม
  • อ.อากิระ โทริยามะ โกรธถึงขนาดสร้างภาคใหม่ Dragon Ball Z : Battle of Gods มาเยียวยาจิตใจ โดยควบคุมการผลิตเอง ทั้งที่ผ่านมาเขาจะปล่อยให้ทีมอนิเมะทำงานกันไป
  • โจวเหวินฟะ (Chow Yun-fat) กับ Justin Chatwin ถูกหลอกมาเล่นเรื่องนี้ เพราะเดิมทีทั้งสองคิดว่านี่คือหนังทุน 120 ล้านเหรียญ สุดอลังการ แต่ความจริงพวกเขามาอยู่ในกองถ่ายง่อยๆที่ใช้โรงงานกางเกงยีนส์ในเม็กซิโกดัดแปลงเป็นโรงถ่าย ทั้งคู่ไม่สามารถออกจากโปรเจ็กต์ได้ เพราะเซ็นสัญญาไปแล้ว

  • อย่างที่เกริ่นไป หนังทำลายอาชีพทั้งของผู้กำกับ ผู้เขียนบท และนักแสดง ในช่วงแรกๆที่หนังเข้าฉาย Emmy Rossum ต้องดิ้นรนอย่างหนักเพื่อแก้ตัว เพราะก่อนหน้านั้นเธอมีผลงานดีๆที่จะทำให้เธอโด่งดังอย่าง Mystic River , The Day After Tomorrow , The Phantom of the Opera ล้วนแล้วแต่เป็นงานที่จะทำให้เธอก้าวสู่การเป็นดาราหญิงแถวหน้าทั้งนั้น แต่ผลจาก Dragonball Evolution มันหนักหนากว่าที่เธอคิด เธอไม่สามารถกลับมาอยู่บนเส้นทางดาราหญิงแถวหน้าได้อีกเลย
  • Justin Chatwin จากเด็กหนุ่มอนาคตไกลที่เคยประกบระดับ Tom Cruise ใน War of the Worlds มาแล้ว อนาคตดับวูบทันที
  • Ben Ramsey ผู้เขียนบทออกมาขอโทษในสิ่งที่ทำพลาดไป แล้วชีวิตของเขาก็ไม่หวนกลับมาเขียนบทหนังอีกเลย เพราะเขาคิดว่าได้ดูแคลนจิตวิญญาณคนเอเชียจากการดัดแปลงบทเรื่องนี้ อันที่จริงงานเขียนบทเก่าๆเขาเป็นหนังที่สนุกใช้ได้ The Big hit สี่โหดโคตรอันตราย นั้นทั้งมันส์ทั้งขำ

  • อันที่จริงหนัง Dragonball Evolution เตรียมจะมีภาคต่อที่เล่าถึง เบจิต้า และผู้เฒ่าเต่าต้องโกนหัวแล้วในภาคต่อนี้ แต่หนังภาคแรกออกมาไม่ดี โครงการจึงถูกเก็บเข้ากรุ
  • Disney เข้าซื้อกิจการ 20th Century Fox และลิขสิทธิ์การสร้าง Dragonball จึงตกเป็นของ Disney ไม่แน่ว่าเราอาจจะได้เห็นซีรีส์เรื่องนี้ในอนาคต ซึ่งพูดกันตามตรง ไม่มีใครเหมาะทำเรื่องนี้เท่า โจวซิงฉือ อีกแล้วล่ะ เพราะเขาคือแฟนเดนตายเรื่องนี้ นั่นคือเหตุผลที่เขารับงานตั้งแต่แรก แต่เหมือนจะมีญาณวิเศษรับรู้ล่วงหน้าว่าบทหนังห่วยแน่ จึงถอนตัวก่อนหนังเละเทะอีก
  • หนังลงทุนไป 30 ล้านเหรียญ เก็บรายได้ทั่วโลกได้แค่ 58.2 ล้านเหรียญ เท่านั้น พร้อมๆกับคำวิจารณ์แบบสาปส่ง บรรลัยไปตามๆกันทั้งทีมงานและนักแสดง

อัลบั้มภาพ 7 ภาพ

อัลบั้มภาพ 7 ภาพ ของ ตำนานแห่งความบรรลัย Dragonball Evolution โดย ตั๋วร้อน ป๊อปคอร์นชีส

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook