Seoul Vibe หนังเกาหลีรวมแก๊งนักซิ่งสุดฮาที่ดูได้ทั้งครอบครัว
Seoul Vibe: ซิ่งทะลุโซล หนังธีมเกาหลียุค ‘80s สุดโบ๊ะบ๊ะ กับแก๊งนักแสดงมากฝีมือ ที่จะทำให้คุณได้รับความเพลิดเพลินตลอดทั้งเรื่อง
นักแสดงจากภาพยนตร์เรื่อง Seoul Vibe: ซิ่งทะลุโซล เข้าร่วมงานแถลงข่าวเมื่อวันที่ 23 สิงหาคมที่ผ่านมา ที่ Grand InterContinential Seoul Parnas นำทีมโดย ยูอาอิน, โกคยองพโย, อีคยูฮยอง, พัคจูฮยอน, องซองอู, มุนโซรี กำกับโดย มุนฮยอนซอง
Seoul Vibe: ซิ่งทะลุโซล พาเราย้อนไปสู่เกาหลีใต้ในช่วงเวลาที่ผู้คนกำลังวิ่งไล่ตาม American Dream ในรูปแบบของเกาหลีเอง โดยมี “ซังกเยดงซูพรีมทีม” แก๊งนักซิ่งวัยรุ่นสุดฮิปแห่งยุคสมัย มาเป็นตัวหลักในการเดินเรื่อง หลังจากพวกเขาได้รับข้อเสนอที่ไม่อาจปฏิเสธได้จากอัยการอัน และจับพลัดจับผลูเข้าไปพัวพันกับคดีเงินทุนสกปรกของกลุ่มคนระดับวีไอพี
ยูอาอิน กล่าวในงานแถลงข่าวว่า “Seoul Vibe: ซิ่งทะลุโซล เป็นภาพยนตร์ที่เล่าย้อนกลับไปยังกรุงโซลในปี 1988 ซึ่งบอกเล่าเรื่องราวที่สดใส สนุกสนาน และลุ้นระทึกของวัยรุ่นแก๊งซิ่งรถที่เต็มไปด้วยแพชชั่นครับ”
ธีมหลักของเรื่องย้อนไปยุค ‘80s หรือใน 1988 “อย่างที่หลายๆ คนน่าจะทราบกันดี ผมคิดว่าปี 1988 เป็นยุคที่ประชาชนในสังคมเกาหลีขัดแย้งกันอย่างรุนแรง” ผู้กำกับมุนฮยอนซองกล่าว “แต่ในขณะเดียวกันก็มีการร่วมมือกันมากที่สุด ถ้าได้เพิ่มคอนเซ็ปต์หรือไอเท็มที่มีกลิ่นอายฮิปฮอปเข้าไป น่าจะเกิดเป็นภาพยนตร์ที่แปลกใหม่และเหนือความคาดหมายก็ได้ นั่นเป็นจุดเริ่มต้นของภาพยนตร์เรื่องนี้ครับ ผมอยากให้ลองชมว่าพื้นหลังของยุคสมัยนั้นจะเข้ากันได้ดีกับคอนเซ็ปต์ที่พวกเราวาดไว้อย่างไร แล้วผู้ชมน่าจะเข้าใจได้ง่ายขึ้นครับว่าทำไมพวกเราถึงเลือกพื้นหลังเป็นปี 1988”
ในครั้งนี้ ยูอาอิน บอกว่าบทที่ได้รับแตกต่างจากตัวเขาเองอย่างสิ้นเชิง
“ดงอุค เป็นตัวละครที่แตกต่างจากตัวจริงของผมอย่างลิบลับเลยครับ รูปลักษณ์ภายนอกเขามีความรุงรังด้วยจินตนาการและใฝ่ฝันเกี่ยวกับกับวัฒนธรรมตะวันตกในสมัยนั้น แต่ถึงอย่างนั้นก็เป็นเด็กหนุ่มที่มีความมุ่งมั่นที่พร้อมจะไล่ล่าความฝันของตัวเอง” แถมเขายังยอมรับว่าตัวจริงเอาไม่ค่อยคุ้นเคยกับรถยนต์นัก “ผมมีใบขับขี่รถยนต์แบบธรรมดานี่แหละครับ แต่เพื่อภาพยนตร์ผมก็พยายามทำความคุ้นเคยกับรถอย่างเต็มที่ โดยได้ไปที่สนามเซอร์กิตและเรียนรู้เกี่ยวกับการใช้อุปกรณ์และการดริฟท์จากนักดริฟท์ตัวจริง”
โกคยองโพ ผู้รับบท ดีเจ จอห์น อู กล่าวว่า “ตัวละครที่ผมได้รับเป็นดีเจที่เรียกตัวเองว่าสายลับครับ เป็นตัวละครสำคัญของภาพยนตร์ที่ขาดไม่ได้ ผมได้ลงทุนซื้อเซตอุปกรณ์ดีเจไว้ที่บ้านเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับบทนี้ อุตส่าห์เซ็ตไว้อย่างดีเลย แต่เนื่องจากตารางถ่ายทำที่ยุ่งมาก เลยไม่ค่อยได้ซ้อมมากเท่าที่ควร ทำให้ตอนเล่นจริงมือแข็งกว่าตอนซ้อมมาก ภาพยนตร์เรื่องนี้ทำให้ผมเกิดแรงบันดาลใจและหวังว่าสักวันจะได้โชว์การเป็นดีเจให้ทุกคนได้เห็นกันในโอกาสหน้าครับ”
บทของ บกนัม พี่คนโตประจำแก๊ง แสดงโดย อีคยูฮยอง “ผมแสดงเป็นพี่คนโตประจำแก๊งซูพรีมทีมที่คอยดูแลเรื่องสภาพจิตใจและความเป็นอยู่ของเด็กๆ ในแก๊ง นอกจากนั้นยังรับหน้าที่เป็นเนวิเกเตอร์ประจำกลุ่มอีกด้วยครับ ในสมัยนั้นยังไม่มีเนวิเกเตอร์ แต่ด้วยประสบการณ์การขับรถแท็กซี่ทำให้เขาชำนาญเส้นทางในกรุงโซล เพื่อการนำทางที่เหมาะสมผมได้ลองฟังเสียงเนวิเกเตอร์จากหลายๆ ที่เพื่อที่จะได้สื่อออกมาได้ดีที่สุดครับ”
ส่วนนักแสดงสาวเข้าบทบาท พัคจูฮยอน รับบทเป็น ยุนฮี “ยุนฮีเป็นประธานสมาคมรถจักรยานยนต์แห่งกรุงโซล ในความคิดฉัน ฉันคิดว่ายุนฮีต่อสู้เก่งที่สุดในแก๊งนะคะ เธอเป็นคนมั่นใจและเถรตรง แต่ก็มีน้ำใจและมีความน่ารักน่าเอ็นดู ถือเป็นตัวละครที่คอยช่วยเหลือพวกพี่ๆในสถานการณ์ที่ต้องใช้พละกำลังค่ะ”
จุนกิ น้องเล็กประจำแก๊ง นำแสดงโดย องซองอู “ผมเป็นน้องเล็กมือทอง (น้องเล็กทองคำ) ที่น่ารักน่าเอ็นดู เป็นทั้งมาสคอตประจำแก๊งและช่างซ่อมอัจฉริยะฝีมือฉกาจ นอกจากจะเป็นน้องเล็กที่คอยสร้างรอยยิ้มแล้ว ก็ยังรับหน้าที่ดัดแปลงรถให้เท่ห์พร้อมใช้ในภารกิจพิเศษครับ”
ปิดท้ายด้วยนักแสดงสาว มุนโซรี ผู้รับบทเป็น คังฮโยจอง “คังฮโยจองเป็นคนจัดสรรเงินทุนของเหล่าผู้มีอิทธิพล และเป็นเจ้าแม่ปล่อยเงินกู้แห่งมยองดง ฉันได้จ้างแก๊งซูพรีมทีมเพื่อไปส่งของ แต่ระหว่างส่งของดันเกิดเหตุการณ์วุ่นวายขึ้นมาค่ะ”
นอกจากสไตล์เรโทรลุค ‘80s ที่เป็นจุดที่น่าสนใจของหนังเรื่องนี้แล้ว เพลงประกอบก็เจ๋งไม่แพ้กันเพราะได้ ซงมินโฮ (MINO) และ Gaeko จาก Dynamic Duo มาช่วยเรื่องเพลงประกอบภาพยนตร์
“มีทั้งเพลงฮิปฮอปที่ฮิตมากๆ ในอเมริกาตั้งแต่ก่อนยุคปี 1988 ส่วนช่วงครึ่งหลังของเรื่องก็จะเป็นเพลงฮิปฮอปที่ฮิตในเกาหลีในยุคนั้นครับ” ผู้กำกับ มุนฮยอนซองกล่าว “พวกเราอยากจะทำมิกซ์เทปออกมาให้หลากหลาย และก็ได้รับความช่วยเหลือจากซงมินโฮ (MINO), Gaeko, ดีเจโซลสเคป และทีมทำดนตรีครับ”
เพลงฮิปฮอปกับเรื่องราวของแก๊งนักซิ่งที่มาพร้อมกับความแพรวพราว มุกตลกจากตัวป่วนที่ทำให้คุณหัวเราะได้ และแฟชั่นย้อนยุคที่ทำให้คุณหวนนึกถึงวันเก่าๆ เป็นส่วนผสมที่ลงตัวของ Seoul Vibe: ซิ่งทะลุโซล ที่พร้อมให้คุณได้สัมผัสกับตัวเองแล้ววันนี้ ใน Netflix
อัลบั้มภาพ 20 ภาพ