ลายแทงสายออสการ์ จากเวนิสถึงลอสแองเจลิส โดย ก้อง ฤทธิ์ดี
ขณะนี้ เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเวนิสครั้งที่ 79 กำลังดำเนินอยู่ที่เกาะลิโด เมืองเวนิส แต่ไหนแต่ไรมา ความสำคัญของเทศกาลนี้คือ “เทศกาลภาพยนตร์ที่เก่าแก่ที่สุดในโลก” เก่ากว่าเทศกาลหนังเมืองคานส์ที่ตอนนี้ทุกคนมักจะตื่นเต้นกัน (จริง ๆ แล้วคานส์ก่อตั้งขึ้นเพื่อแย่งแสงจากเวนิส) แต่ในช่วง 10 ปีหลัง ความสำคัญของเทศกาลเวนิส กลายการเปิดตัวหนังออสการ์ หรือ หนังอเมริกันที่หวังรางวัลในช่วงฤดูกาลปลายปี เช่นในปีที่ผ่าน ๆ มา หนังออสการ์ที่มาเปิดตัวที่นี่มีเช่น The Power of the Dog หรือย้อนไปก็เป็น Nomadland, La La Land และ The Shape of Water
ปีนี้ก็เช่นกัน เทศกาลเวนิสเป็นเวทีเปิดตัวหนังหวังกล่อง ที่นอนมาแน่ ๆ ตอนนี้คือเรื่อง Tar หนังของผู้กำกับทอด์ ฟีลด์ ว่าด้วยคอนดัคเตอร์หญิง ลิเดีย ทาร์ (เป็นตัวละครสมมุติ) นักแต่งเพลงและวายาทกรหญิงผู้เก่งกล้าและหลงตัวเอง จากเสียงสะท้อนที่ออกมาจากเวนิส เชื่อว่า เคท แบลนเชทท์ ที่รับบทเป็น ลิเดีย ทาร์ ยังไง ๆ ก็คงต้องเข้าชิงออสการ์ แน่นอนว่าความสามารถของแบลนเชทท์ไม่มีอะไรให้กังขา แต่นอกจากตัวเธอเองประเด็นเรื่องสตรีแถวหน้า และประเด็นที่ว่าโลกของดนตรีคลาสสิกแทบไม่มีวาทยากรหญิงที่ดังระดับโลก น่าจะยิ่งเพิ่มแรงส่งให้กับTar ในเวทีออสการ์
สลับมาทางฝั่งนักแสดงชาย แน่นอนว่าสัปดาห์ที่ผ่านมามีแต่ข่าว แบรนดอน เฟรเซอร์ นักแสดงขวัญใจยุค 90 ที่หายหน้าไปนาน และตอนนี้กลับมาเรียกเสียงเชียร์ได้จากหนังเรื่อง The Whale หนังดรามาว่าด้วยชายผู้มีนำหนักเหยียบ 300 กิโลกรัม และความสัมพันธ์ร้าวฉานของเขากับลูกสาว (แสดงโดย ซาดี ซิงค์ จาก Stranger Things) แบรนดอน เฟรเซอร์ ไม่ได้ตัวใหญ่มหึมาอย่างที่เราเห็นในภาพจากหนัง แต่เขาใช้เมคอัพและอุปกรณ์พรอสเททิก เพื่อทำให้ดูตัวใหญ่ราวกับปลาวาฬตามชื่อเรื่อง การกลับมาในบทดรามาจริงจังของเขาหลังจากแทบจะหมดอนาคต กลายเป็นประเด็นใหญ่จากเทศกาลเวนิส จนตอนนี้เชื่อกันว่าเขาน่าจะไปได้ไกลถึงออสการ์ ส่วนหนังเรื่อง The Whale เอง เป็นงานของผู้กำกับ ดาเรน อารอนอฟสกี (Mother และ The Fountain) ที่ปกติมีทั้งคนรักคนเกลียด ไม่เชียร์เป็นศิลปินใหญ่ก็สาปส่ง ด้วยลีลาการกำกับที่มักจะท้าทายความคาดหวังของคนดูอยู่เสมอ
ดาราชายที่เรียกเสียงฮือฮาเสมอทุกเทศกาลหนัง จะเป็นใครเสียอีกนอกจาก ทิโมธี ชาลาเมต์ นอกจากแฟชั่น “โสร่งแดงพันคอ” ที่พรมแดง ชาลาเมต์ได้รับคำชมจากการแสดงนำในเรื่อง Bones and All ของผู้กำกับ ลูกา กัวดานินโญ่ (ผู้ร่วมปั้นชาลาเมต์จาก Call Me By Your Name) ในหนังเรื่องใหม่ Bones and All ที่ว่ากันว่าเป็นหนัง coming of age ผสมกับหนังสยองขวัญเลือดสาดอันมีเรื่องเกี่ยวกับการกินเนื้อคน ชาลาเมต์แสดงเป็นคนจรที่เร่ร่อนเดินทางข้ามประเทศกับเด็กสาวไร้บ้านอีกคน ทิโมธี ชาลาเมต์นี่เป็นกุมารทองแห่งยุคจริง ๆ ในแง่ที่ว่าไม่ว่าเล่นหนังเรื่องไหน จะหนังตลาดหรือหนังอาร์ทก็ตาม สามารถผลักหนังให้ดูดีมีสตอรี่ และมีเสน่ห์ดึงดูดในวงกว้างอย่างน่าประหลาด รอดูกันว่าจะไปถึงออสการ์ตามที่กระแสว่าไว้รึเปล่า
นี่เพิ่งเป็นหนังเปิดหัวเทศกาลรางวัล หลังจากเวนิส และก่อนจะถึงสิ้นปี ยังมีเทศกาลโตรอนโต้ ที่เป็นอีกหนึ่งเวทีเปิดตัวหนังออสการ์ และยังมีหนังใหญ่รออยู่อีกอย่าง Blonde หนังมารีลิน มอนโร ของ Netflix หรือหนังใหม่ที่ยังไม่เปิดตัวของสตีเวน สปีลเบิร์ก
แต่ถึงกระนั้น เทศกาลเวนิสได้กลายเป็นปรอทวัดกระแสที่สำคัญของวงการหนังโลก ส่วนหนึ่งเพราะตารางเทศกาลที่มาอยู่ช่วงเกือบปลายปี อันเป็นช่วงหนังรางวัลออกฉาย และด้วยสายสัมพันธ์อันดีกับโปรดิวเซอร์ของฮอลลีวูด ที่พร้อมเอาหนังข้ามมาเปิดตัวที่นี่
รอดูกันไปว่า Tar รวมทั้ง The Whale และ Bones and All จะไปไกลแค่ไหน จะยืนระยะได้หรือเปล่าหลังจากนี้ และหลังจากที่หนังตัวเต็งอื่น ๆ ทยอยฉายตามมา ลายแทงออสการ์ยังมีตอนต่อไปแน่นอน