3 แอนิเมชั่น 1 ไลฟ์แอ็คชั่น ส่งท้ายปี ไม่ดูไม่ได้แล้ว

ตามธรรมเนียมในช่วงปลายปี ถ้าเป็นสมัยก่อน เดือนตุลาคมจะเป็นช่วงเวลาที่การ์ตูนดิสนีย์ชอบเข้าฉาย (แม้ว่าอเมริกาจะเข้าฉายมาแล้วหลายเดือน) เพราะประเทศไทยอยู่ในช่วงเวลาที่เด็กๆปิดเทอม แต่เมื่อวัฒนธรรมในการดูแอนิเมชั่นเปลี่ยนแปลงไป การ์ตูนหลายๆเรื่องเข้าฉายพร้อมๆกับฝั่งตะวันตก ในวันเวลาไล่เลี่ยกัน มาลองดูกันว่าตั้งแต่เดือนตุลาคมปีนี้ ยาวไปจนถึงสิ้นปีมีแอนิเมชั่นเรื่องไหนที่ควรค่าแก่การไปชมในโรงภาพยนตร์บ้าง

 

โดราเอมอน ตอนสงครามอวกาศจิ๋วของโนบิตะ

กำหนดเข้าฉาย 6 ตุลาคม 2565

ใช่แล้วโดราเอมอนกับสงครามอวกาศ คือหนึ่งในการ์ตูนโดราเอมอนฉบับยาวๆ ที่เราเคยดูกันทางวิดีโอเทปสมัยเด็กๆมีความยาวทั้งสิ้น 97 นาที ซึ่งถือเป็นตอนที่ 6 ของโดราเอมอนฉบับภาพยนตร์ ออกฉายครั้งแรกในประเทศญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 16 มีนาคม ค.ศ. 1985 ได้รับการปัดฝุ่นนำกลับมาสร้างใหม่อีกครั้ง ภายใต้การกำกับดูแลของ ชิน ยามากูจิ รวมถึงได้ศิลปินนักร้องอย่าง Official Hige Dandism มารับหน้าที่ร้องเพลงประกอบภาพยนตร์ในชื่อเพลง Universe อีกด้วย

เรื่องราวโดราเอมอนภาคนี้ บอกเล่าการผจญภัยของโนบิตะ ได้เจอพบมนุษย์ต่างดาวตัวจิ๋วอย่างปาปิ เขาได้เดินทางลี้ภัยออกมาจากการตามล่าของดราโกลูลู วายร้ายที่ต้องการจะยึดดวงดาวปิริกะ ซึ่งได้จับพี่ปีนะ พี่สาวของปาปิไปเป็นตัวประกัน ด้วยความเป็นห่วงและอยากช่วยเหลือของโนบิตะและผองเพื่อน ทุกคนจึงรวมตัวกันเพื่อช่วยเหลือปาปิให้สามารถเอาชนะดราโกลูลูให้จงได้

 

Strange World ลุยโลกลึกลับ

กำหนดเข้าฉาย 24 พฤศจิกายน 2565

แอนิเมชั่นแนวผจญภัยอันแสนตื่นเต้น ท้าทายทุกจินตนาการ เมื่อครอบครัวตระกูลเคลด ต้องออกเดินทางไปยังดินแดนที่อยู่เหนือมิติเวลาและอวกาศ พื้นที่อันแสนลึกลับ แปลกประหลาดและไม่เคยมีมนุษย์คนไหนย่างกรายเข้ามาถึง พวกเขาต้องเผชิญหน้ากับอันตรายรอบตัว เหล่าสัตว์วิเศษที่พิลึกพิลั่น ทำให้พวกเขาต้องผนึกกำลัง สานสัมพันธ์กันให้เหนียวแน่นกว่าเดิม เรียนรู้ช่องว่างระหว่างวัย ในการเดินทางครั้งนี้

Strange World เป็นผลงานการกำกับของดอน ฮอลล์ เขาได้รับแรงบันดาลใจมาจากหนังผจญภัยในอดีตตั้งแต่หนังฟิล์มขาวดำ อีกทั้งยังระดมดาราชื่อดังในฮอลลีวูดมาให้เสียงพากย์ตัวละครในเรื่องอย่างคับคั่งอาทิ เจค จิลเลนฮาล, เดนนิส เควด ,จาบูกี ยัง-ไวต์, เกเบรียล ยูเนียน,เมอริเดียน เคลด, ลูซี ลิว สิ่งที่น่าจับตาคือ ดอน ฮอลล์ เคยเป็นผู้กำกับที่คว้ารางวัลออสการ์มาจาก Big Hero 6 (สาขาภาพยนตร์แอนิเมชั่นยอดเยี่ยมมาครอบครอง)

 

Lyle, Lyle, Crocodile ไลล์ จระเข้ตัวพ่อ.. หัวใจล้อหล่อ

กำหนดเข้าฉาย 1 ธันวาคม 2565

จากวรรณกรรมเยาวชนสุดคลาสสิกของเบอร์นาร์ด เวเบอร์ ได้รับการตีพิมพ์ออกมาตั้งแต่ปี 1965 ซึ่ง Lyle, Lyle, Crocodile เป็นนิทานเยาวชนที่ครองใจผู้อ่านมาหลายยุคสมัยและในปีนี้ วรรณกรรมเรื่องดังถูกหยิบมาดัดแปลงให้กลายเป็นภาพยนตร์ขนาดยาวในรูปแบบมิวสิคัล ผลงานการกำกับของจอช กอร์ดอนและวิล สเปค

Lyle, Lyle, Crocodile เล่าเรื่องราวของครอบครัวพริมม์ ที่โยกย้ายบ้านมาอยู่ในมหานครนิวยอร์ก โดยจอช (วินสโลว์ เฟกลีย์) เด็กชายผู้มีปัญหาในการเข้าสังคมในโรงเรียน เขามีโอกาสได้พบกับไลล์ (ให้เสียงพากย์โดยชอว์น เมนเดส) จระเข้ร้องเพลงที่ชื่นชอบการอยู่ในอ่างอาบน้ำและขับขานร้องเพลง ทั้งสองกลายเป็นเพื่อนกันอย่างรวดเร็ว จอชได้ตัดสินใจแอบซ่อนไลล์เอาไว้ที่ห้องใต้หลังคา จนกระทั่งเพื่อนบ้านอย่างมิสเตอร์กรัมป์ (เบรตต์ เกลแมน) พยายามคุกคามไลล์ ทำให้ครอบครัวพริมม์ต้องร่วมมือกับเฮกเตอร์ (ฆาเวียร์ บาร์เดม) เจ้านายเก่าของไลล์ ในการทำให้ทั้งโลกรู้ว่า จระเข้ร้องเพลงได้ไม่ใช่เรื่องผิดแผกแปลกประหลาดยอย่างที่ทุกคนคิด

 

Puss in Boots: The Last Wish

กำหนดเข้าฉาย 29 ธันวาคม 2565

หลังจากที่เป็นตัวละครที่อยู่ในจักรวาลของแอนิเมชั่น Shrek มาหลายปี ก่อนหน้านี้ Puss in Boots เคยมีโอกาสมีหนังภาคแยกเป็นของตัวเองในปี 2011 มาแล้ว โดยการกลับมาครั้งนี้ในภาค Puss in Boots: The Last Wish จะเป็นภาคสุดท้ายที่ปิดตำนานของเจ้าเหมียวจอมเท่และสายตาอ้อนไปในเวลาเดียวกัน

ทิ้งห่างจากหนังภาคก่อนถึง 11 ปี การกลับมาครั้งนี้ไม่ธรรมดาเมื่อเจ้าเหมียวในรองเท้าบูตได้พบว่าตัวเองใช้ชีวิตทั้งเก้าได้หมดไปแล้วเป็นที่เรียบร้อย เขาจึงต้องพยายามต่อชีวิตของตัวเองให้กลับมามีเก้าชีวิตดังเดิมอีกครั้ง ด้วยการเดินทางเข้าป่าทมิฬ เพื่อตามหาดวงดาววิเศษที่จะสามารถขอพรอันใดก็ได้ แต่เมื่อข่าวเกี่ยวกับชีวิตทั้งเก้าของเจ้าเหมียวได้แพร่กระจายออกไป บรรดานักล่าค่าหัวที่เคยฟาดฟันกับเจ้าเหมียวในรองเท้าบูตจึงออกตามล่าเขา ไม่ว่าจะเป็นหมาป่าใจร้าย หนูน้อยจอมแสบและเจ้าหมีสามตัว เจ้าเหมียวจึงต้องร้องขอความช่วยเหลือจากซอฟต์ พอว์ อดีตคนรักเก่าให้กลับมาช่วยเหลือเขาอีกครั้ง

Puss in Boots: The Last Wish ยังได้อันโตนิโอ บันเดรัส กลับมาให้เสียงเป็นเจ้าแมวในรองเท้าบูทอีกครั้ง โดยหนังได้โจล ครอว์ฟอร์ด จาก The Croods: A New Age มานั่งแท่นผู้กำกับหนังเรื่องนี้

เอาเป็นว่าสายแอนิเมชั่นต้องปักหมุดทั้ง 4 เรื่องนี้ไว้ อย่าพลาดชมในโรงภาพยนตร์นะครับ