Ticket to Paradise คุณพ่อคลูนีย์ vs. คุณแม่จูเลีย ศึกผัวเมียละเหี่ยใจ รอมคอมที่เราคิดถึง
เราอยู่ในยุคสมัยที่หนังโรแมนติก คอมเมดี้ แห้งเหือดเป็นอย่างมากกับการเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ การมาถึงของสตรีมมิ่งบวกกับ ปัจจัยค่าตั๋วภาพยนตร์แพง ยิ่งทำให้ผู้ชมเลือกดูแต่หนังฟอร์มยักษ์ จนแทบไม่เหลือพื้นที่ให้หนังเบาสมองเหล่านี้ได้ทำเงิน จนสตูดิโอยักษ์ใหญ่แทบจะไม่สร้างหนังสไตล์นี้ เพื่อเข้าฉายในโรงภาพยนตร์กันเลย ไม่แน่นะการมาถึงของ Ticket to Paradise อาจจะจุดกระแสหนังรอมคอมที่เราคิดถึงให้กลับมาอีกครั้งก็เป็นได้
เกาะสวรรค์และการโคจรมาเจอกันของผัวเมียละเหี่ยใจ
คงไม่มีอะไรน่าเบื่อและน่ารำคาญมากไปกว่าแฟนเก่า แต่ยิ่งกว่านั้นคือการเป็นคู่สามี ภรรยาที่หย่าร้างและเลิกลากันไปต้องนานนม แต่จำเป็นต้องกลับมาเจอกันอีกครั้ง เดวิดและจอร์เจีย ทั้งสองพบว่าลูกสาวของตัวเองกำลังจะเข้าพิธีแต่งงาน ท่ามกลางความรู้สึกที่ว่า ลูกสาวของตัวเองกำลังจะตกอยู่ในวังวนแบบเดียวกับทั้งคู่สมัยยังเป็นวัยรุ่นคลั่งรัก และการตัดสินใจโดยใช้อารมณ์นำเหตุผล อาจจะนำมาซึ่งความผิดพลาด จนกลายเป็นความผิดหวัง และนำไปสู่การหย่าร้างในเวลาต่อมา ทั้งคู่จึงเดินทางมายังเกาะสวรรค์เพื่อหยุดยั้งงานแต่งงานของลูกสาว โดยที่ทั้งคู่ไม่รู้เลยว่าบางทีแล้ว นี่อาจจะเป็นการจุดถ่านไฟเก่าระหว่างความสัมพันธ์ที่พังไม่เป็นท่าเมื่อนานมาแล้ว ให้กลับมาสวยงามอีกครั้งก็เป็นได้
ยุคสมัยเปลี่ยนความนิยมเปลี่ยน
หนังโรแมนติกคอมเมดี้จากห้วงเวลาที่หนังได้รับความนิยมเป็นอย่างสูงโดยเฉพาะ ช่วงทศวรรษที่ 1930s จนมีการให้นิยามหนังประเภทนี้ว่าเป็น "เรื่องตลกแบบพ่อแง่แม่งอน" ก่อนที่หนังในสไตล์นี้จะเริ่มมีวิวัฒนาการ พัฒนารายละเอียดให้มีมิติทางตัวละคร บริบทฉากหลัง ในแง่มุมต่างๆมากขึ้น จนเราอาจจะกล่าวได้ว่าในช่วงยุค 1990s จนถึงช่วงต้นๆปี 2000 หนังรอมคอมได้รับความนิยมอย่างถล่มทลาย ใครจะไปเชื่อว่าหนังสไตล์นี้จะทำเงินเกิน 100 ล้านเหรียญฯ
หลังจากนั้นไม่นานภาพยนตร์แนวโรแมนติกคอเมดี้ก็ค่อยๆ เลือนหายไปจากจอใหญ่ ทำให้ผู้กำกับอย่าง โอล ปาร์คเกอร์ (Mamma Mia! Here We Go Again และ Now Is Good) มองว่าโลกในยุคหลังโรคระบาดอย่างโควิด ผู้ชมหลายคนโหยหาหนังในสไตล์โรแมนติก คอมเมดี้ฟอร์มกลางๆที่มีดาราชื่อดังอยู่ในจอกันบ้างล่ะ ทว่าสิ่งที่ตัวผู้กำกับเคยเขียนบทเอาไว้ในช่วงเวลานั้นกลับกลายเป็นเรื่องล้าสมัยในทันที เขาเลยรับรู้ว่าโลกของเราตอนนี้ มุมมองของผู้คนได้เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมแล้วอย่างสิ้นเชิง เขาจึงตัดสินใจที่จะเขียนเรื่องราวบางอย่างที่จะสร้างความสุขให้กับผู้ชม สิ่งอันเป็นเรื่องน่ายินดีและมองโลกในแง่บวก ซึ่งมีจังหวะที่พอเหมาะพอเจาะในการเข้าฉายในโรงภาพยนตร์
สตูดิโอที่อยู่เบื้องหลังหนังรักเรื่องดังที่เป็นตำนาน
โอล ปาร์คเกอร์ ตัดสินใจนัดกินข้าวเพื่อแลกเปลี่ยนไอเดียกับซาราห์ ฮาร์วีย์ ระหว่างนั้นเองซาร่าห์ได้เล่าเรื่องราวราวประสบการณการหย่าร้างของเธอให้กับโอลฟัง และในขณะที่เล่าเขามองว่านี่อาจจะพัฒนาไปสู่บทภาพยนตร์ที่น่าสนใจได้ และยิ่งถ้าหนังเรื่องนี้มีนักแสดงนำอย่างจอร์จ คลูนีย์และจูเลีย โรเบิร์ตส์ มารับบทคู่สามีภรรยาที่หย่าร้างกันมายาวนาน ซึ่งในระหว่างที่พยายามป้องกันลูกสาวของพวกเขาจากการแต่งงานที่หุนหันพลันแล่น ได้ค้นพบว่าประกายไฟที่จุดประกายความสัมพันธ์ของพวกเขาเองเมื่อหลายสิบปีก่อน อาจจะยังไม่ดับลงอย่างสมบูรณ์ก็เป็นได้
หลังจากที่ทั้งสองคนได้ตกตะกอนพล็อตหนังเรียบร้อย ทั้งสองได้ติดต่อมือเขียนบทแดเนียล ปิ๊ปสกี้ เพื่อเขียนบทของ Ticket to Paradise ให้เสร็จสมบูรณ์เพื่อที่ว่าพวกเขาจะได้นำบทนี้ไปเสนอให้กับสตูดิโออย่างเวิร์คกิ้ง ไตเติล ก่อนที่จะนำเสนอมันให้กับยูนิเวอร์แซลอนุมัติในลำดับต่อไป
เมื่อเราลองย้อนเวลากลับไปในช่วง 1990s และ 2000s เวิร์คกิ้ง ไตเติล เป็นผู้อยู่เบื้องหลังภาพยนตร์โรแมนติกคอเมดีระดับบล็อกบัสเตอร์ที่โด่งดังที่สุดในยุคนั้นมากมาย ซึ่งรวมถึง Four Weddings and a Funeral, Notting Hill, Bridget Jones's Diary และ Love Actually และอื่นๆ อีกมากมาย ไม่มีบริษัทไหนที่เหมาะสมกับโปรเจ็กต์นี้มากกว่าพวกเขาอีกแล้ว
อย่างที่เรารู้กันดีว่าปัจจุบันนี้มีหนังโรมแมนติดคอมเมดี้ทุนต่ำสร้างออกมามากมายสำหรับการออกฉายทางสตรีมมิ่ง แต่เราปฏิเสธไม่ได้เลยว่าคุณภาพของเนื้องานไม่ว่าจะเป็นบทภาพยนตร์ การกำกับ และการแสดงนั้นไม่สามารถเทียบเคียงกับบรรกาหนังโรแมนติกในความทรงจำของผู้ชม ผู้ง่ายๆ ดูจบก็ลืมกันไปเลยและลืมไปเสียด้วยซ้ำว่ามันเคยสร้างขึ้นมาและเราเคยดูกันไปแล้ว!
สิ่งที่ตรงข้ามกับความรัก และเรื่องราวหลังการแยกทาง
สิ่งที่ตรงกันข้าวกับเรื่องความรัก หลายคนอาจจะมองว่ามันคือความเกลียดชัง แต่อันที่จริงไม่ใช่สิ่งนั้นเลย มันคือความไม่แยแส ตัวละครเอกของเรื่องทั้งสองคน พวกเขาชังน้ำหน้ากันตลอดและพลังแห่งความไม่ชอบขี้หน้ากันก็ยังคงรุนแรงเหมือนเดิม ในขณะที่เมื่อไหร่ที่ความรุนแรงนั้นจืดจางจนหายไป เมื่อนั้นความรักก็จบสิ้นลง หนังเรื่องนี้จึงให้ความรู้สึกคล้ายกับหนังภาคต่อจองหนังที่ไม่เคยมีการสร้างมาก่อน มันควรจะเป็นคู่รักที่เรารู้จักในฐานะคู่รักอยู่แล้วนั่นเอง
ร่วมติดตามชมเคมีระหว่างพระนางอย่างจอร์จ คลูนีย์ และจูเลีย โรเบิร์ตส์ ซึ่งทั้งคู่เคยผ่านการร่วมแสดงขึ้นจอเดียวกันมาแล้วใน Confessions of a Dangerous Mind ซึ่งคลูนีย์กำกับ, Money Monster และ Ocean's 11 และ 12 แต่การกลับมาครั้งนี้ ถือเป็นมุดหมายครั้งสำคัญที่บรรดาคนยุค 1990-2000s ต้องไม่พลาดชม Ticket to Paradise ในโรงภาพยนตร์วันที่ 6 ตุลาคม 2565 นี้