15 ซีรีส์เกาหลีใน Netflix ที่ได้รับความนิยมสูงที่สุดในปี 2022

26 ต.ค. 65 (19:17 น.) พิมพ์

แชร์เรื่องนี้

แชร์เรื่องนี้Line Twitter Facebook

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าสมาชิก Netflix ในประเทศไทยและทั่วโลกเป็นแฟนซีรีส์เกาหลีจำนวนไม่น้อย นอกจากนี้ใน Netflix เองก็มีซีรีส์เกาหลีที่เป็น original series ใหม่ๆ เข้ามาเรื่อยๆ เช่นเดียวกัน และแต่ละเรื่องก็ได้รับผลตอบรับค่อนข้างดีด้วย

ในปี 2022 (ข้อมูลถึงวันที่ 24 ตุลาคม) มีซีรีส์เกาหลีเรื่องใดใน Netflix บ้างที่ได้รับความนิยมจากผู้ชมทั่วโลกมากที่สุด

Juvenile Justice

อันดับที่ 15 Juvenile Justice

เริ่มฉาย: 25 กุมภาพันธ์

จำนวนตอน: 10

ออริจินัลซีรีส์เกาหลีจาก Netflix ว่าด้วยเรื่องราวการขึ้นโรงขึ้นศาล พิจารณาคดีอาชญากรรม ซึ่งโดยปกติแล้วตัวละครที่กระทำความผิดมักจะเป็นผู้ใหญ่วัยบรรลุนิติภาวะ แต่ซีรีส์เรื่องนี้เลือกจะเล่าในมุมจำกัดให้กระชับลงมา ว่าถ้าหากอาชญากรเหล่านี้เป็นเพียงเยาวชน ผู้พิพากษาคดีจะพลิกเกมและเอาผิดพวกเขาอย่างไร

Juvenile Justice ผู้พิพากษา VS.เด็กเปรต ในมุมชีวิตการทำงานของนางมารร้าย

อันดับที่ 14 All of Us Are Dead

เริ่มฉาย: 28 มกราคม

จำนวนตอน: 12

ซีรีส์ All of Us Are Dead (มัธยมซอมบี้) ซีรีส์ที่เต็มไปด้วยเรื่องราวเหนือความคาดหมาย เพราะมากับฝูงซอมบี้สุดแหวกแนวที่ออกจะต่างไปจากซีรีส์ซอมบี้เรื่องอื่นๆ เพราะเป็นซอมบี้เวอร์ชั่นอัปเกรด มีลักษณะทางกายภาพที่เหนือกว่ามนุษย์ รวมไปถึงการแสดงออกว่าพวกมันสามารถคิดและพูดได้เหมือนมนุษย์ นอกจากนี้ยังคราคร่ำไปด้วยนักแสดงวัยรุ่นคลื่นลูกใหม่ที่น่าจับตามองเพียบ

อันดับที่ 13 Sh**ting Stars

เริ่มฉาย: 22 เมษายน

จำนวนตอน: 16

เรื่องราวกวนอารมณ์แกมป่วนใจ เมื่อหัวหน้าฝ่ายประชาสัมพันธ์คนเก่งต้องทำงานร่วมกับคู่ปรับตัวแสบที่เป็นลูกค้าระดับซูเปอร์สตาร์ของเธอ เพราะเธอเคยทำงานผิดพลาดจนทำให้ชื่อเสียงของซูเปอร์สตาร์หนุ่มต้องเสื่อมเสีย เขาจึงคอยหาเรื่องแกล้งเธอทุกครั้งเมื่อมีโอกาส แต่นานวันเข้าความสัมพันธ์ของทั้งคู่กลับเริ่มพัฒนาไปในทางที่ดีมากขึ้นโดยไม่รู้ตัว

อันดับที่ 12 Squid Game

เริ่มฉาย: 22 กันยายน

จำนวนตอน: 9

ถ้าคุณเป็นคอซีรีส์ แทบจะไม่มีใครไม่รู้จักเรื่องนี้ เพราะติดอันดับ 1 ของ Netflix กว่า 90 ประเทศทั่วโลกกันเลยทีเดียว Squid Game เป็นเรื่องเกี่ยวกับการนำคนที่มีหนี้สินมหาศาลจำนวน 456 คน มาเล่นเกมสมัยเด็กทั้งหมด 6 เกม เพื่อหาผู้ชนะและคว้าเงินรางวัลจำนวนมากถึง 45.6 ล้านวอน หรือราว 1,300 ล้านบาทกลับบ้านไป การที่ Squid Game เล่าถึงเรื่องของตัวละครแต่ละตัวที่ล้วนแล้วแต่มีปัญหาใหญ่ๆ อย่างการเป็น “หนี้” ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ที่แก้ไม่ตกในสังคมของทุกชนชาติ จึงทำให้ทุกคนเข้าถึงบทบาทของตัวละครแต่ละตัวได้เป็นอย่างดี

อันดับที่ 11 The Sound of Magic

เริ่มฉาย: 6 พฤษภาคม

จำนวนตอน: 6

Annarasumanara: โอม รักเอยจงมา (The Sound of Magic) ซีรีส์มิวสิคัลแนวแฟนตาซีที่เล่าถึงเรื่องของเด็กหญิงที่สูญเสียความฝันเมื่อเผชิญโลกแห่งความจริง กับเด็กหนุ่มผู้โดนกดดันให้ไล่ตามความฝัน และเรื่องราวเหนือความคาดหมายที่แสนมีเสน่ห์น่าหลงใหลที่เกิดขึ้นเมื่อทั้งคู่ได้พบกับนักมายากลลึกลับ

อันดับที่ 10 Ghost Doctor

เริ่มฉาย: 3 มกราคม

จำนวนตอน: 16

ซีรีส์หมอที่ผสมความเป็นแฟนตาซีเข้าไปด้วย เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับคุณหมอคนเก่งที่ประสบอุบัติเหตุจนวิญญาณหลุดออกจากร่าง แล้วอยากช่วยเหลือคนไข้ เลยไปสิงร่างนักศึกษาแพทย์ปี 1 แทน ความแตกต่างของทั้งสองคนทำให้เกิดเรื่องวุ่นวายขึ้นมากมาย

อันดับที่ 9 My Liberation Notes

เริ่มฉาย: 9 เมษายน

จำนวนตอน: 16

เรื่องราวของสามพี่น้องที่ยังอาศัยอยู่ในเมืองเล็กๆ ที่หลายคนยอมย้ายออกไปเพราะห่างไกลความเจริญ แต่ชีวิตของพวกเขาต้องเปลี่ยนไปเมื่อจู่ๆ ก็มีชายขี้เมาลึกลับที่เต็มไปด้วยความลับหลงเข้ามาในหมู่บ้าน และน้องสาวคนเล็กของบ้านนี้ดันพาเขาเข้ามาพัวพันกับบ้านนี้ด้วย

อันดับที่ 8 Little Women

เริ่มฉาย: 3 กันยายน

จำนวนตอน: 12

มาแรงแซงโค้งสำหรับซีรีส์ Little Women เรื่องราวสามสาวพี่น้องที่ขัดสนเงินทองแต่ยังมีกันและกันเป็นที่พึ่ง แม้ว่าความฝันของพวกเธอช่างเรียบง่าย แค่การมีชีวิตที่ธรรมดาๆ แต่อำนาจของเงินก็สำคัญ และพวกเธอดันเกิดเข้าไปพัวพันในแผนสมรู้ร่วมคิดที่เชื่อมโยงกับกลุ่มคนรวยและผู้มีอำนาจ ที่ภายหลังได้ทำให้ชีวิตของพวกเธอเปลี่ยนไปตลอดกาล

อันดับที่ 7 Business Proposal

เริ่มฉาย: 28 กุมภาพันธ์

จำนวนตอน: 12

เรื่องราวของหญิงสาวที่มีเหตุทำให้ต้องไปนัดบอดแทนเพื่อน เป้าหมายของเธอคือต้องทำให้เขาปฏิเสธให้ได้ แต่แผนดันผิดพลาดเธอดันไปเดตกับ ซีอีโอหนุ่มที่เป็นเจ้าของบริษัทที่เธอเป็นพนักงานอยู่ด้วย เรื่องราวโรแมนติกคอมเมดี้ของคนทั้งคู่เกิดขึ้นจากความรู้สึกที่ดี ถึงแม้ทางฝ่ายหญิงจะแปลงโฉมจนเกิดความเข้าใจผิดก็ตาม

อันดับที่ 6 Through The Darkness

เริ่มฉาย: 14 มกราคม

จำนวนตอน: 12

ซีรีส์แนวสืบสวนสอบสวนที่ชวนมาทำความเข้าใจกับจิตใจของอาชญากร เผยให้เห็นถึงการทำงานของทีมวิเคราะห์พฤติกรรมของอาชญากรอย่างจริงจัง โดยเนื้อเรื่องอ้างอิงมาจาก Those Who Read the Minds of Evil หนังสือสารคดีที่เกี่ยวกับนักสร้างโปรไฟล์อาชญากรคนแรกของเกาหลีใต้ด้วย

อันดับที่ 5 Our Blues

เริ่มฉาย: 9 เมษายน

จำนวนตอน: 20

ซีรีส์ที่เล่าถึง 8 เรื่องราวความรักหวานปนขมท้าทายคลื่นลมแห่งชีวิตของผู้คนที่อยู่อาศัย และทำงานบนเกาะเชจูที่คึกคักมีชีวิตชีวา แต่เรื่องราวของแต่ละคู่กลับมีทั้งเรื่องราวดีๆ แสนอบอุ่น ไปจนถึงดราม่าหนักๆ ที่ชวนให้ร้องไห้

อันดับที่ 4 Twenty-Five Twenty-One

เริ่มฉาย: 12 กุมภาพันธ์

จำนวนตอน: 16

เรื่องราวเกี่ยวกับเส้นทางชีวิตและการเติบโตของกลุ่มวัยรุ่นที่สูญเสียความฝันให้กับวิกฤตเศรษฐกิจในปี 1998 และเรื่องราวของคนคู่หนึ่งที่พบกันครั้งแรกเมื่อตอนอายุ 22 และ 18 ปี กระทั่งพวกเขาอายุ 25 และ 21 ปี ได้เริ่มตกหลุมรักและดึงดูดเข้าหากัน นอกจากนี้ ซีรีส์จะยังชวนให้ย้อนนึงถึงความทรงจำอันบริสุทธิ์และเปี่ยมไปด้วยไฟฝันของกลุ่มวัยรุ่น 5 คนที่พบเจอกับความอ่อนไหวและความสัมพันธ์ที่แตกต่างกันออกไป

อันดับที่ 3 Tomorrow

เริ่มฉาย: 1 เมษายน

จำนวนตอน: 16

ซีรีส์จากเว็บตูนที่เป็นเรื่องราวของชายคนหนึ่งที่บังเอิญเจอคนที่กำลังจะฆ่าตัวตาย และเห็นการปรากฏตัวของยมทูตชายหญิงคู่หนึ่ง จนเกิดเรื่องราวกันขึ้นจนทำให้เขาพลาดตกลงไปในแม่น้ำ เขาฟื้นขึ้นมาในสภาพจะตายแหล่ไม่ตายแหล่ แต่เขากลับถูกยื่นข้อเสนอจากคู่ยมทูตให้ช่วยชีวิตคน

[รีวิว] Tomorrow ซีรีส์เกาหลียมทูตสวยหล่อสุดแฟนตาซี ดีเด่นที่ฉากว้าวและปมปริศนา

อันดับที่ 2 Alchemy of Souls

เริ่มฉาย: 18 มิถุนายน

จำนวนตอน: 20

ซีรีส์ดราม่าแฟนตาซีของเมืองที่ไม่มีอยู่ในแผนที่และเต็มไปด้วยเหล่าจอมเวทย์ที่โชคชะตาเปลี่ยนแปลงอย่างสิ้นเชิงจากวิชาแปรวิญญาณ เรื่องราววุ่นๆ เกิดขึ้นเมื่อจอมเวทหญิงพลังแกร่งกล้าผู้หนึ่งใช้ร่างหญิงตาบอดโคจรมาพบกับคุณชายตระกูลสูงศักดิ์ ที่ร้องขอให้เธอช่วยเปลี่ยนโชคชะตา

อันดับที่ 1 Extraordinary Attorney Woo

เริ่มฉาย: 29 มิถุนายน

จำนวนตอน: 16

เรื่องราวของเด็กสาวที่เกิดมาพร้อมกับอาการออทิสติกที่ดันเป็นอัจฉริยะไอคิว 164 จำข้อกฎหมายได้ตั้งแต่เด็กๆ สอบผ่านเป็นทนายที่มีอาการออทิสติกเป็นคนแรกของเกาหลี ยืนหนึ่งตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย แต่สมัครงานบริษัทไหนก็ไม่มีใครรับเพราะอาการของเธอ สุดท้ายได้เข้ามาทำงานที่สำนักกฎหมายแห่งหนึ่งและต่อสู้ในชั้นศาลด้วยความรู้ข้อกฎหมายทั้งหมดของเธอที่มีในหัวชนิดที่เพื่อนทนายในทีมคนอื่นๆ ต้องทึ่งกันไปเลย