สัมภาษณ์คังฮานึล, ฮาจีวอน, จองจีโซ, โนซังฮยอน จาก Curtain Call ถึงบทสุดท้าทายและโมเมนต์ในกองสนุกๆ

สัมภาษณ์คังฮานึล, ฮาจีวอน, จองจีโซ, โนซังฮยอน จาก Curtain Call ถึงบทสุดท้าทายและโมเมนต์ในกองสนุกๆ

สัมภาษณ์คังฮานึล, ฮาจีวอน, จองจีโซ, โนซังฮยอน จาก Curtain Call ถึงบทสุดท้าทายและโมเมนต์ในกองสนุกๆ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

คุยกับนักแสดงซีรีส์ Curtain Call ถึงการเตรียมตัวรับบทสุดท้าทาย และโมเมนต์สนุกๆ ในกองถ่าย

Curtain Call (พลิกบทบาททายาทหมื่นล้าน) ซีรีส์สุดเข้มข้นชวนติดตามจาก Prime Video มาพร้อมพล็อตเรื่องที่น่าสนใจ และทัพนักแสดงมากฝีมือที่แต่ละคนเป็นที่คุ้นหน้าค่าตากันดีสำหรับคอซีรีส์เกาหลีชาวไทย

Curtain Call (พลิกบทบาททายาทหมื่นล้าน) เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับ “จากึมซุน” หญิงชราจากเกาหลีเหนือ ที่มีความปรารถนาสุดท้ายก่อนตายที่จะได้เจอหน้าค่าตาหลานชายตัวจริงที่หายสาบสูญไป เหตุการณ์ต่างๆ บีบบังคับให้ “ยูแจฮอน” นักแสดงหนุ่มถูกว่าจ้างให้หลอกลวงหญิงชราโดยแกล้งสวมบทบาทเป็นหลานชายที่เธอแทบจะไม่รู้จักแต่ใฝ่ฝันที่จะได้พบ แต่เขาต้องพยายามอย่างหนักที่จะปกปิดสิ่งที่เขากำลังหลอกลวงนี้ไว้ ในขณะเดียวกันเขาเริ่มที่จะตกหลุมรัก “พัคเซยอน” หญิงสาวผู้น่าทึ่ง คนที่เขาจะให้ล่วงรู้ความลับนี้ไม่ได้อย่างเด็ดขาด นำแสดงโดย คังฮานึล, ฮาจีวอน, จองจีโซ และ โนซังฮยอน

นอกจากบทเข้มข้นไม่เหมือนเรื่องใดๆ แล้ว การเตรียมตัวรับบทของแต่ละคนก็น่าสนใจ และทำการบ้านกันหนักมาก Sanook พามาคุยกับ 4 นักแสดงนำในเรื่องกันว่า เบื้องหลังการถ่ายทำซีรีส์เรื่องนี้จะสนุกแค่ไหน

 


Curtain Call (พลิกบทบาททายาทหมื่นล้าน)

หลังจากอ่านบนแล้ว อะไรที่ทำให้คุณประทับใจมากที่สุดและตัดสินใจที่จะรับเล่นซีรีส์เรื่องนี้

คังฮานึล: ผมคิดว่าหลายคนคงจะรู้สึกแบบเดียวกัน ธีมของเรื่องนี้แปลกใหม่ไม่ซ้ำใคร และคุณจะไม่ได้เจอบทแบบนี้บ่อยๆ เรื่องราวจะลงเอยอย่างไร ผมคิดไปอ่านไป แต่พออ่านบทไปเรื่อยๆ ผมก็สามารถเข้าใจการดำเนินเรื่องและค่อยๆ หลงรักเรื่องราวในเรื่องนี้ครับ

ฮาจีวอน: ฉันก็เหมือนกันค่ะ ตอนฉันอ่านบทฉันรู้สึกว่ามันแปลกใหม่มาก โครงสร้างของเนื้อเรื่องก็เหมือนกัน มันทำให้ฉันอยากรู้ด้วยว่าฉันจะทำอย่างไรถ้าเหตุการณ์เดียวกันนี้เกิดขึ้นกับฉัน ฉันรู้สึกว่าเรื่องนี้จะต้องสนุกมากๆ ค่ะ

จองจีโซ: อย่างแรกเลยและเป็นเหตุผลสำคัญที่สุด นี่เป็นโอกาสเรียนรู้ที่ยอดเยี่ยมสำหรับฉัน ในการทำงานร่วมกับนักแสดงท่านอื่นๆที่มากด้วยประสบการณ์ นี่จึงเป็นโอกาสที่ดีมาก และฉันต้องเล่นในซีรีส์เรื่องนี้ให้ได้ อีกทั้งเรื่องราวในเรื่องนี้ก็ยังแปลกใหม่มากๆ สำหรับฉัน ฉันรู้สึกเซอร์ไพรส์กับเรื่องราวที่เกิดขึ้นในเรื่องและอยากจะเล่นเรื่องนี้จริงๆ ค่ะ

โนซังฮยอน: ผมเองก็เหมือนกันครับ ธีมและเรื่องราวแปลกใหม่และน่าสนใจ และบทบาทที่ผมได้รับการแนะนำจากผู้กำกับก็แตกต่างจากบทอื่นๆที่ผมเคยรับมาก่อน ซีรีส์เรื่องนี้จะทำให้ผมสามารถแสดงด้านใหม่ๆ ของผมออกมาได้ ผมจึงอยากลองท้าทายกับบทบาทนี้ครับ

 คังฮานึล รับบท ยูแจฮอน

คุณคังฮานึล องค์ประกอบที่น่าสนใจที่สุดอย่างหนึ่งของตัวละครยูแจฮอน คือการพูดสำเนียงเกาหลีเหนือ อย่างไรก็ตามมีชั้นการแสดงของแจฮอนที่เป็นนักแสดงเกาหลีใต้ต้องแสดงเป็นคนเกาหลีเหนือด้วย สิ่งนี้ส่งผลต่อวิธีที่คุณออกแบบและตีความสำเนียงของตัวละครอย่างไร และช่วยเล่าให้เราฟังเพิ่มเติมเกี่ยวกับกระบวนการนี้ได้ไหม

คังฮานึล: ผมไม่เคยเรียนรู้วิธีการพูดสำเนียงเกาหลีเหนือมาก่อนเลย ผมมีครูสอนและเขาช่วยอัดเสียงบทพูดมาให้ฟัง การยึดติดกับสำเนียงเกาหลีเหนือแท้ๆ อย่างเคร่งครัดเกินไป ทำให้ความหมายและความตั้งใจเดิมของบทหายไป ดังนั้นผมเลยปรึกษากับผู้กำกับและครูเพื่อขัดเกลาและปรับแต่งสำเนียงให้กลืนไปกับซีรีส์และเพิ่มคำพูดที่คุ้นเคยมากขึ้นครับ

 

นี่เป็นครั้งที่สองที่คุณได้แสดงร่วมกับรุ่นพี่โกดูชิม ช่วยเล่าประสบการณ์การแสดงร่วมกับเธอให้เราฟังหน่อย และอะไรที่คุณได้เรียนรู้จากเธอเมื่อได้ร่วมงานกัน

คังฮานึล: ผมไม่สามารถบอกถึงสิ่งต่างๆ ที่ได้เรียนรู้จากคุณโกดูชิมออกมาได้ แต่ทุกช่วงเวลาที่ได้ร่วมงานกับเธอ ผมรู้สึกมีความสุขมาก ผมแน่ใจว่าทุกคนรู้สึกได้ เธอมีพลังที่ทำให้ผู้คนรอบตัวเธอรู้สึกสบายใจเป็นอย่างมากครับ

 

แต่ละคนมีการเตรียมตัวอะไรเป็นพิเศษเพื่อเข้าถึงตัวละครหรือไม่

คังฮานึล: จริงๆแล้วเวลาผมแสดง ผมพยายามใช้ตัวเองเป็นพื้นฐาน ตัวละครต่างๆที่ผมเล่นจะมีความคล้ายกับตัวผมในทางใดทางหนึ่ง ลักษณะหรือช่วงเวลาหนึ่งที่แจฮอนเหมือนผมมากที่สุดในซีรีส์คือ เมื่อมีฉากของแจฮอนในโรงละครเล็ก ฉากเหล่านั้นเกือบจะเหมือนกับตอนที่ตัวผมเองอยู่ในโรงละครเล็ก บทละครในเรื่องนี้ถูกเขียนขึ้นอย่างละเอียดมาก ดังนั้นผมจึงทำให้มันง่ายขึ้นโดยการจำลองประสบการณ์จริงตอนที่ผมอยู่ในโรงละครเล็กครับ

จองจีโซ: ทุกครั้งเวลาที่ฉันอ่านบทที่แตกต่างกัน ฉันก็จะรู้สึกแตกต่างกันไป หมายความว่าฉันจะสวมเลนส์ที่แตกต่างกันในการแสดงเป็นตัวละครของฉัน การตีความของฉันในขณะที่อ่านบททำให้ฉันได้ค้นพบตัวละครใหม่ ดังนั้นฉันจึงอยากที่จะถ่ายทอดเอกลักษณ์นั้นในการแสดงของฉันด้วย ฉันอยากแน่ใจว่ามันแสดงให้เห็นในการแสดงของฉัน ซึ่งฉันคิดว่าทำให้ฉันแตกต่างไม่เหมือนใครค่ะ

โนซังฮยอน: ผมทุ่มเทเวลาและความพยายามอย่างเต็มที่ในการพูดสำเนียงเกาหลีเหนือและแสดงฉากแอ็กชันให้ออกมาสมบูรณ์แบบ มันแตกต่างจากบทบาทที่ผมเคยเล่นมาก่อน อย่างเช่นในเรื่อง Pachinko ตัวละครของผมจะเป็นคนอบอุ่นและอ่อนหวาน นี่ทำให้ผมคิดว่าตัวละครตรงข้ามกันเลย ตัวละครของผมในเรื่องนี้แข็งกร้าวและดุดัน ซึ่งเป็นด้านใหม่ที่ผมสามารถแสดงให้เห็นได้ครับ

ฮาจีวอน: เซยอนเป็นผู้จัดการทั่วไปของโรงแรม เธอมีรูปลักษณ์ที่ฉลาดดูดี ดังนั้นฉันจึงให้ความสำคัญกับภาพลักษณ์และการแต่งตัวของเธอ รวมถึงฉันยังใส่ใจกับอารมณ์และบรรยากาศที่ฉันอยากจะนำเสนอด้วย

 ฮาจีวอน รับบท พัคเซยอน

คุณฮาจีวอน อะไรคือสิ่งที่ท้าทายที่สุดในบทบาทนี้เมื่อเทียบกับผลงานเรื่องก่อนๆ ของคุณ

ฮาจีวอน: ฉันอยากแสดงให้เห็นด้านที่เป็นผู้ใหญ่มากขึ้น ฉันอยากแสดงบทบาทของฉันในฐานะคนที่มีมุมมองที่ชาญฉลาดต่อผู้ชมซีรีส์เรื่องนี้ มีตัวละครในซีรีส์ต่างๆ ที่ร่ำรวยและมั่งคั่งที่เราเคยเห็นมาแล้ว ดังนั้นฉันจึงอยากแสดงให้เห็นด้านที่แตกต่างจาก “คนรวย” ทั่วไป ด้วยการเพิ่มความฉลาดและวุฒิภาวะ 

ฉันได้พูดคุยเกี่ยวกับเรื่องนี้กับผู้เขียนบทและผู้กำกับของเราและเน้นย้ำถึงประเด็นเหล่านี้ การแสดงของฉันเคยมุ่งเน้นที่คาแรคเตอร์ตัวละคร แต่คราวนี้ฉันได้รับบทบาทที่ค่อนข้างธรรมดา โดยจะเน้นการแสดงความเป็นผู้ใหญ่ค่ะ

 จองจีโซ รับบท ซอยุนฮี

คุณจองจีโซ บทบาทของคุณในซีรีส์เรื่องนี้ค่อนข้างมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมากถ้าเทียบกับผลงานก่อนหน้านี้ของคุณ การแสดงด้านใหม่ในส่วนไหนที่คุณตื่นเต้นที่จะแสดงให้ผู้ชมได้เห็นผ่านซีรีส์เรื่องนี้มากที่สุด

จองจีโซ: จนถึงตอนนี้ ฉันมีผลงานมากมายในแนวทางที่เจาะจง ดังนั้นเมื่อวิเคราะห์ตัวละครของฉัน ฉันจะไม่ค่อยเน้นไปที่บุคลิกท่าทางของตัวละคร แต่จะเน้นไปที่ลักษณะเฉพาะของตัวละครมากกว่า อย่างเช่น ที่ผ่านมาฉันจะดูหนังเรื่อง “Let Me In” หรือศึกษาเรื่องแวมไพร์ มาในครั้งนี้ฉันใช้วิธีที่แตกต่างออกไป ฉันวิเคราะห์ตัวละครในฐานะคนคนหนึ่งและอารมณ์ของเธอ ฉันคิดว่าฉันพยายามจะแสดงเสน่ห์ของตัวละครออกมาให้มากขึ้นค่ะ

 โนซังฮยอน รับบท มุนซึง

คุณโนซังฮยอน คุณฝึกพูดสำเนียงเกาหลีเหนืออย่างไร

โนซังฮยอน: ผมได้รับบันทึกเสียงบทพูดของผมที่อ่านเป็นสำเนียงเกาหลีเหนือเหมือนกันครับ โดยจะมีครูจะอยู่ในกองถ่ายกับพวกเราในขณะถ่ายทำด้วย มันเป็นขั้นตอนเดียวกับที่พี่ฮานึลอธิบายไป การพูดด้วยสำเนียงเกาหลีเหนือแท้ๆมากเกินไปอาจรบกวนการแสดงอารมณ์ ดังนั้นเราจึงแก้ไขและปรับเปลี่ยนบ้างครับ

 

Curtain Call เป็นซีรีส์ที่รวมนักแสดงชื่อดังไว้เยอะมาก ผู้ชมจึงคาดหวังอย่างมากกับซีรีส์เรื่องนี้ คุณคิดว่ามีส่วนไหนที่ผู้ชมควรให้ความสนใจเป็นพิเศษ

คังฮานึล: มีหลายอย่างที่เราพูดถึง สิ่งหนึ่งสำหรับผม ผมคิดว่าบทบาทของนักแสดงอย่างพวกเราคือการพยายามถ่ายทอดข้อความของเรื่องราวให้น้อยลง แต่พยายามหาวิธีที่เราจะหลอมรวมไปกับฉากต่างๆได้อย่างเป็นธรรมชาติให้มากขึ้น เราสนุกกันแค่ไหนในแต่ละฉาก 

ผู้ชมจะได้เห็นแจฮอน ไม่ใช่ คังฮานึล เห็นเซยอน ไม่ใช่ ฮาจีวอน ผมคิดว่านี่เป็นสิ่งที่ผู้ชมควรให้ความสนใจเป็นพิเศษ เพราะใน Curtain Call ผมคิดว่าทำได้ดีในหลายๆฉาก พูดง่ายๆก็คือ สนุกไปกับซีรีส์ โดยให้สนุกไปกับการดูว่าพวกเรานักแสดงเนียนไปกับบรรยากาศต่างๆของ Curtain Call ได้อย่างเป็นธรรมชาติมากแค่ไหน บางทีนั่นอาจจะเป็นสิ่งหนึ่งที่ต้องคอยดู

จองจีโซ: สิ่งหนึ่งที่ฉันสะดุดใจก็คือ ผู้ชมจะเพลิดเพลินถ้าพวกเขาให้ความสนใจกับความคิดที่แว่บเข้ามาในชั่วขณะนั้นระหว่างที่ดูซีรีส์ของเรา น่าจะมีความคิดโน่นนี่ผุดขึ้นมามากมายในหัวของพวกเขา

 

นี่เป็นซีรีส์ที่เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและน้ำตา คุณช่วยเล่าให้เราฟังหน่อยได้ไหมว่าระหว่างการถ่ายทำ อะไรที่ทำให้คุณรู้สึกสนุกที่สุด และอะไรที่ช่วยเยียวยาจิตใจคุณได้มากที่สุด

ฮาจีวอน: เรามีฉากกินข้าวในครอบครัว ที่แจฮอนต้องทำเกี๊ยวแบบเกาหลีเหนือ และพวกเราทั้งหมดทั้งนักแสดงรุ่นเล็กและรุ่นใหญ่ นั่งอยู่ที่โต๊ะอาหารและพูดคุยกัน ในตอนที่ถ่ายทำฉันรู้สึกอบอุ่นหัวใจมาก ครอบครัวใหญ่กินอาหารเย็นด้วยกันเป็นสิ่งที่หาได้ยากมากในทุกวันนี้ ดังนั้นการที่ทุกคนนั่งล้อมวงที่โต๊ะอาหารเย็น ทำให้ฉันรู้สึกอบอุ่นจากข้างใน นี่เป็นช่วงเวลาที่เยียวยาจิตใจและฉันรู้สึกว่าพวกเราคือครอบครัวจริงๆ ถึงแม้การถ่ายทำจะยาก แต่ฉากพวกนี้ช่วยเยียวยาความรู้สึกได้ค่ะ

คังฮานึล: ตอนแรกรู้สึกแปลกๆนิดหน่อย นี่เป็นครั้งแรกที่มีคนมากมายมากินอาหารเย็นด้วยกัน ผมแทบจะจำไม่ได้แล้วว่าครั้งสุดท้ายที่เกิดขึ้นคือเมื่อไร ดังนั้นในตอนแรกมันค่อนข้างจะเคอะเขิน แต่พวกเราก็สนุกกันมาก สนุกมากกว่าในบทเองซะอีก อีกอย่างหนึ่งที่เป็นการเยียวยาสำหรับผมคือการที่ได้ร่วมงานกับคุณโกดูชิม ฉากต่างๆ ที่ผมได้ถ่ายทำร่วมกับเธอ เธอทำให้ผมนึกถึงครอบครัวของผมเอง ดังนั้นนี่จึงช่วยเยียวยาจิตใจผมได้ครับ

จองจีโซ: ฉันก็เหมือนกันค่ะ การได้กินอาหารเย็นในครอบครัวร่วมกับทุกคนช่วยเยียวยาได้ แต่รีมุนซึงไม่ได้อยู่ตรงนั้น…

ฮาจีวอน: ไว้มากินข้าวกับเราด้วยสิ

โนซังฮยอน: ช่วยชวนผมด้วย!

คังฮานึล: เขาเป็นตัวละครผู้ลึกลับ เขาก็เลยมากินข้าวกับครอบครัวเราไม่ได้

ฮาจีวอน: แต่คุณจะมาที่บ้านเราเร็วๆ นี้ใช่ไหม

โนซังฮยอน: ผมจะไปหาพวกคุณเร็วๆ นี้

ฮาจีวอน: ทำไมไม่มากินข้าวกับเราตอนนั้นล่ะ

คังฮานึล: มาเลย! มาเลย!

ฮาจีวอน: คุณจะทำเกี๊ยวอีกหรือเปล่า

คังฮานึล: เกี๊ยว ได้เลย มันจะเป็นของกินของเรา แวะมากินข้าวกัน

 Curtain Call (พลิกบทบาททายาทหมื่นล้าน)

มีข้อความอะไรจากซีรีส์เรื่องนี้ที่คุณอยากจะถ่ายทอดให้ผู้ชมบ้างไหม

ฮาจีวอน: ตัวละครของฉันเชื่อว่าแจฮอนคือมุนซึงตัวจริง ดังนั้นเธอจึงยินดีมากที่ได้ต้อนรับน้องชายคนเล็กของเธอเข้าสู่ครอบครัว พวกเขาสนิทสนมกันราวกับว่าพวกเขาเป็นครอบครัวที่แท้จริง อย่างไรก็ตามเธอได้รู้ว่าแจฮอนไม่ใช่น้องชายตัวจริงของเธอ และเธอจะได้พบกับน้องชายตัวจริง นั่นทำให้ฉันคิดว่าอะไรคือจริงและอะไรคือไม่จริง ความรักที่แท้จริงคืออะไร คุณต้องมีความสัมพันธ์ทางสายเลือดจึงจะเรียกว่าครอบครัวและมอบความรักในครอบครัวให้แก่กันได้อย่างนั้นหรือ 

ฉันคิดว่าทุกคนสามารถเป็นครอบครัวได้ ในชีวิตจริงเรามัวแต่ยึดติดกับคำว่าจริงและปลอม ดังนั้นนี่จึงเป็นสิ่งที่ฉันกำลังขบคิดอยู่ อันที่จริงแล้วมันแปลกมากที่เรา (ชี้ไปที่ซังฮยอน) ถ่ายทำฉากด้วยกันเมื่อเร็วๆ นี้ ทั้งๆ ที่เขาเป็นน้องชายตัวจริงของเซยอน แต่ฉันกลับรู้สึกกลัวเขา

โนซังฮยอน: จริงเหรอ แต่คุณหัวเราะเยอะมากเลยนะ

ฮาจีวอน: ฉันเหรอ ไม่มีทาง ฉันกลัวนะ เขาจ้องตรงมาที่ฉันเมื่อฉันเข้าไปในห้อง ฉันเรียกชื่อเขาออกมาว่า “รีมุนซึง!” และเขาก็มองมาที่ฉันแบบข่มขู่ ฉันก็เลยพูดไปว่าไม่เป็นไร

คังฮานึล: นั่นเป็นข้อความที่ดีเลย แล้วอันไหนจริงอันไหนปลอม นี่เป็นแนวคิดที่เราตั้งคำถามกันอยู่แล้วใช่ไหม

 

อะไรที่ทำให้ซีรีส์เรื่องนี้เป็นโปรเจกต์ที่สำคัญมากสำหรับคุณ และทำไมถึงต้องดูเรื่องนี้

คังฮานึล: สำหรับผม ส่วนตัวเลยนะ Curtain Call ทำให้ผมได้พบกับ ฮาจีวอน จีโซ และ ซังฮยอน

ฮาจีวอน: ฉันกำลังจะบอกแบบนั้นเลย!

คังฮานึล: ผมจะพูดมันก่อน ดังนั้นนั่นจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่ Curtain Call นำมาให้ผม

ฮาจีวอน: นั่นเป็นสิ่งที่ฉันกำลังคิดอยู่เลย

คังฮานึล: เห็นไหมว่าเราเหมือนกันแค่ไหน

ฮาจีวอน: Curtail Call เป็นเหมือนเวทีให้นักแสดงอย่างเราได้แสดงฝีมือ และทุกช่วงเวลาก็มีค่ามาก ฉันได้ร่วมงานกับนักแสดงเก่งๆมากมาย ฉันเริ่มต้นอาชีพนักแสดงของฉันด้วยการทำงานกับคุณโกดูชิม และฉันก็ได้กลับมาร่วมงานกับเธอใน Curtain Call ดังนั้น Curtain Call จึงเป็นเหมือนโอกาสอันล้ำค่า ที่พาฉันไปเจอกับกล่องสมบัติที่เต็มไปด้วยนักแสดงที่ยอดเยี่ยมมากมาย

จองจีโซ: เมื่อพี่จีวอนพูดถึงคุณโกดูชิม...

คังฮานึล: พวกเรากำลังจะหมดคนให้พูดถึงแล้ว

จองจีโซ: ฉันก็เลยอดไม่ได้ที่จะพูดถึงพี่ฮาจีวอนค่ะ พี่ฮาจีวอนและฉัน เราทั้งคู่เคยแสดงซีรีส์เรื่อง Empress Ki ที่จริงฉันแสดงเป็นตัวละครของเธอตอนเด็ก นั่นประมาณเก้าปีที่แล้วใช่ไหมคะ

ฮาจีวอน: น่าจะใช่นะ

จองจีโซ: ย้อนกลับไปตอนนั้น ฉันไม่ค่อยได้เจอพี่จีวอนในกองถ่าย มาในตอนนี้ฉันได้เจอกับเธอในกองถ่ายตอนที่ฉันโตขึ้นแล้ว ฉันเคยประหม่าเวลาอยู่ต่อหน้าเธอ แต่ตอนนี้ฉันมีความสุขมากที่สามารถแสดงให้เห็นว่าฉันเติบโตขึ้นและได้เรียนรู้สิ่งต่างๆ ในระหว่างเก้าปีที่ผ่านมา นี่ฉันต้องตอบประเด็นไหนนะคะ

ฮาจีวอน: ซีรีส์เรื่องนี้มีความหมายอะไรกับคุณ 

จองจีโซ: Curtain Call สำคัญกับฉัน เพราะทำให้ฉันได้กลับมาร่วมงานกับพี่ฮาจีวอนอีก

ฮาจีวอน: ฉันด้วยค่ะ ฉันมีความสุขมากๆ ที่ได้เจอกับจีโซอีกครั้ง

โนซังฮยอน: ผมอยากจะขอบคุณผู้กำกับของพวกเราที่เสนอบทบาทนี้ให้กับผม และเหมือนกับที่ทุกคนบอก ผมมีความสุขที่ได้พบกับนักแสดงชื่อดังเหล่านี้ อย่างที่ทุกคนรู้พวกเขายอดเยี่ยมมาก นับเป็นเกียรติของผมจริงๆ ครับ

 

Curtain Call (พลิกบทบาททายาทหมื่นล้าน) รับชมได้ผ่านแอปพลิเคชั่น Prime Video

อัลบั้มภาพ 59 ภาพ

อัลบั้มภาพ 59 ภาพ ของ สัมภาษณ์คังฮานึล, ฮาจีวอน, จองจีโซ, โนซังฮยอน จาก Curtain Call ถึงบทสุดท้าทายและโมเมนต์ในกองสนุกๆ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook