"บิว จักรพันธ์" พร้อมทนายถึงศาลอาญาแล้ว นำหลักฐานฟ้องคู่กรณีแฉอดีตทำเสียชื่อ

อดีตดาราหนุ่ม บิว-จักรพันธ์ พุทธา หนึ่งในนักแสดงซีรี่ส์วาย KinnPorsche The Series พร้อมทนายความ นำหลักฐานทั้งหมดเข้ายื่นฟ้องคู่กรณี ณ ศาลอาญารัชดา เพื่อแสดงความบริสุทธิ์และร้องขอความเป็นธรรม หลังถูกแฉพฤติกรรมด้านลบในอดีต ทำให้ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก เสื่อมเสียชื่อเสียงและส่งผลกระทบกับงาน

โดย บิว จักรพันธ์ ได้เดินทางมาถึงศาลอาญาในเวลาประมาณ 13.30 น. สวัสดีทักทายสื่อมวลชน ก่อนจะเดินขึ้นไปบนศาล เพื่อทำตามขั้นตอน และได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนประเด็นที่เกิดขึ้น

"ในเรื่องที่ผมอยากจะชี้แจง เรื่องที่ผมทำร้ายร่างกายผมขอบอกได้เลยว่าผมไม่ได้ทำ ผมไม่เคยคิดที่จะทำร้ายร่างกายเขาเลยครับ เพราะว่าผมไม่มีพฤติกรรมแบบนั้นมาตั้งแต่เด็กอยู่แล้ว ถ้าไปถามคนที่โตมาตั้งแต่เด็กกับผม ผมไม่มีพฤติกรรมแบบนั้นหรอก จริงๆ แล้วมันคือการเล่นกันครับ ผมต้องบอกก่อนเลยว่า ผมกับเขา มีพฤติกรรมการเล่นแบบนี้มาตั้งแต่ตอนเป็นเพื่อนกันอยู่แล้ว จนมามีความสัมพันธ์ด้วยกัน เราก็เล่นกันแบบนี้ ยกตัวอย่างเช่นคลิปวิดีโอที่ผมสับหลังเขา อันนี้คือผมเล่นกันจริงๆ แล้วก็จะมีอีกคลิปที่เขาดึงแขนผม เหมือนจะผลักผมตกตึก ถ้าอันนั้นเรียกว่าการทำร้ายร่างกาย แล้วอันนี้ไม่เข้าข่ายพยายามฆ่าเหรอครับ แต่มันไม่ใช่ไง ก็เลยรู้สึกว่าตลกดีครับ (ในภาพของเรามันเป็นการเล่นที่รุนแรงเกินไปไหม) ในเรื่องของความรุนแรง ผมได้รู้มาตลอด ถ้าเกิดผมเล่นแรงกับเขาเกินไป ผมก็จะขอโทษเขาในวันนั้นเลย 

ส่วนประเด็นการตั้งท้อง ผมไม่ได้รับรู้เลยครับว่าเขาตั้งท้องมาก่อน และผมก็ได้รับรู้ตอนที่ผมขอยุติความสัมพันธ์กับเขา เขามาบอกกับผมว่าเขาไปทำแท้งมาเรียบร้อยแล้ว แต่ว่าถ้าเขาท้องจริง ผมก็จะขอดูแลลูกในท้องของเขา ถึงแม้ว่าผมจะเลิกกับเขาหรือผมไม่รักเขาเลยก็ตาม ผมก็จะขอยินดีรับเด็กในท้องของเขา (เชื่อไหมว่าเขาท้องจริง) ผมค่อนข้างไม่เชื่อครับ

ตอนนี้ผมยังไม่ได้รับหมายศาลจากเขาเลย ซึ่งผมก็รออยู่ รอมาตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ผมก็ยังไม่ได้รับหมายศาล ซึ่งตอนนี้ผมก็รอให้เขามาตอบความจริงอยู่ ตอนนี้ผมก็พร้อมมากครับ

ในเรื่องของการคบซ้อน คือผมไม่ได้คบซ้อนครับ ผมขอยุติความสัมพันธ์กับเขาแล้ว ในช่วงเวลานั้น หลายครั้งด้วยซ้ำ แต่เขาไม่ยอมยุติ แล้วมันทำให้ผมรู้สึกว่าเป็นปัญหาคาราคาซังค้างคา เพราะผมกลัวเขาจากการข่มขู่ แล้วผมก็ยอมรับว่าผมกลัวจริงๆ เขาบอกกับผมมาตลอด และทำให้ผมเชื่อว่าเขาจะเปิดโปงทุกอย่าง ถ้าผมเลิกกับเขา เขาจะบอกทุกคนว่า ผมคบกับเขา แล้วปัญหามันจะตามา ผลกระทบหลายสิ่งหลายอย่างก็จะตามมาเรื่อยๆ แล้วผมก็ไม่สามารถปรึกษากับใครได้เลยในเรื่องนี้ มันทำให้ผมตกอยู่ในสภาวะที่จะไปก็ไม่ได้ จะอยู่ก็ทรมาน แต่ไม่เป็นไรครับ ผมไม่กลัวอะไรแล้ว ถ้าไม่สู้ตอนนี้ผมก็ไม่รู้จะสู้ตอนไหนแล้ว 

ผมขอขอบคุณแฟนๆ ทุกคนที่ยังให้กำลังใจผมอยู่ แล้วก็ต้องขอขอบคุณพี่ปอนด์ (ผู้บริหารอดีตต้นสังกัด) ถึงแม้ว่าผมจะออกจากค่าย บีออนคลาวด์แล้วก็ตาม แต่พี่ปอนด์ก็ยังไม่ทิ้งผมก็ยังเอ็นดูผมและครอบครัวผมเสมอ และก็ขอขอบคุณทีมงานบีออนคลาวด์ทุกคนที่ให้คำปรึกษาและให้กำลังใจผม รวมทั้งเพื่อนนักแสดงอีกหลายๆ คน ต้องขอขอบคุณมากจริงๆ ถ้าผมมีโอกาสได้ทำดีอีกสักครั้งกับพวกเขา ผมสัญญาว่าผมจะทำครับ ผมก็ต้องขอขอบคุณ (ร้องไห้) ครอบครัวของผม ที่ให้กำลังใจผมมาตลอด ถ้าไม่มีพวกเขา ผมคงไม่ได้มายืนอยู่ตรงนี้ครับ"