คุยกับ “พัคซอจุน จองยูมี ชเวอูชิก อีซอจิน วี BTS” ถึงรายการ Jinny’s Kitchen
บทสัมภาษณ์ของ พัคซอจุน จองยูมี ชเวอูชิก อีซอจิน และ วี BTS นักแสดงในรายการเรียลลิตี้ Jinny’s Kitchen ที่รับรองความสนุกตั้งแต่อีพีแรกยันอีพีสุดท้าย
Jinny’s Kitchen เป็นรายการวาไรตี้แบบไม่มีสคริปต์ที่นำนักแสดงชื่อดังมาเปิดร้านอาหารสตรีทฟู้ดเกาหลีที่เมืองบาคาลาร์ (Bacalar) ประเทศเม็กซิโก ออกอากาศผ่านแอปพลอเคชัน Prime Video ความน่าสนใจอยู่ที่การนำนักแสดงและศิลปินชื่อดังมารวมตัวกันในรายการเดียวกัน และลงมือทำอาหารเสิร์ฟลูกค้ากันจริงๆ แบบไม่มีสคริปต์ และใช้ฝีมือตัวเองล้วนๆ งานนี้จะยากและสนุกสนานกันขนาดไหน Sanook มีบทสัมภาษณ์ที่แต่ละคนพูดถึงการถ่ายทำในรายการ Jinny’s Kitchen กันได้เลย
- คุณช่วยเล่าให้เราฟังคร่าวๆ เกี่ยวกับรายการ Jinny’s Kitchen และ สิ่งที่ผู้ชมจะสามารถคาดหวังจากรายการนี้ได้หรือไม่
พัคซอจุน: Jinny’s Kitchen เป็นแฟรนไชส์ของรายการ Youn’s Kitchen และเป็นรายการวาไรตี้ดูแลร้านอาหารร้านใหม่เหมือนกัน นี่เป็นซีซั่นที่สามของผมแล้ว ต่อจาก Youn’s Kitchen 2 และ Youn’s Stay ผมเลยรู้สึกสบายมากขึ้น ผมคิดว่าคุณจะได้เห็นพวกเรารู้สึกสบายใจมากขึ้นและสัมผัสได้ถึงเคมีระหว่างสมาชิกของทีมใน Jinny's Kitchen ในรายการนี้คุณจะได้เห็นพวกเราในหลากหลายรูปแบบ ไม่ใช่เพียงแค่การทำอาหารเท่านั้น ผมคิดว่ามันน่าสนใจที่จะติดตามดูว่าพวกเราทั้งห้าคนโต้เถียงกันและใช้เวลาร่วมกันที่นั่นอย่างไร
จองยูมี: นี่ไม่เหมือนกับการถ่ายละครและหนัง ฉันคิดว่าฉันโชคดีที่ได้ใช้เวลาร่วมกับทีมงานและนักแสดงคนอื่นๆ มาตั้งแต่รายการ Youn’s Kitchen จนถึง Youn’s Stay การได้มีประสบการณ์สุดพิเศษแบบนี้ทำให้ใจของฉันเต้นรัว และฉันรู้สึกของคุณพลังงานดีๆ ที่ไม่สามารถบรรยายออกมาได้ที่เกิดขึ้นในรายการนี้ รวมถึงการจัดการธุรกิจอย่างสุดความสามารถของพี่อีซอจินที่ทำให้ฉันลืมว่ากำลังถ่ายรายการอยู่! พี่ชายคนที่ฉันรู้จักกลายเป็นเจ้านาย!! ฉันเรียนรู้อะไรหลายอย่างมากจากความจริงจังทุ่มเทของเขา ซึ่งนั่นทำให้ฉันลืมเรื่องการถ่ายทำไปเลย ดังนั้นฉันหวังว่าคนที่ได้ดูพวกเราทำงานอย่างเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันและการแสดงให้เห็นถึงธรรมชาติของพวกเรา จะรับชมรายการด้วยความเพลิดเพลิน และสิ่งที่ฉันจะอธิบายถึงการเปิดร้านอาหารสตรีทฟู้ดที่เมืองบาคาลาร์ ประเทศเม็กซิโก ก็คือ รายการวาไรตี้ดราม่าซิตคอมของครอบครัวอี
ชเวอูชิก: นี่เป็นรายการที่เราทำอาหารกันเอง ดูแลร้านอาหารด้วยตัวเอง และนำเสนออาหารสตรีทฟู้ดเกาหลีให้กับลูกค้าในประเทศเม็กซิโก
- คุณอีซอจิน รายการนี้ถูกตั้งชื่อตามชื่อของคุณ คุณรู้สึกอย่างไรบ้าง
อีซอจิน: ผมรู้สึกว่าต้องทำหน้าที่ให้ดี มีความรับผิดชอบเต็มที่ และกดดันนิดหน่อย
- แต่ละคนมีหน้าที่อะไรในร้าน
อีซอจิน: ผมอีซอจินครับ ผมเป็นหัวหน้าทีมในรายการ Jinny’s Kitchen
จองยูมี: ฉันจองยูมีค่ะ เป็นผู้อำนวยการ และยังรับหน้าที่ทำคิมบับด้วย
พัคซอจุน: สวัสดีครับ ผมพัคซอจุน ผมดูแลงานในครัวของรายการ Jinny’s Kitchen เป็นหลักครับ
ชเวอูชิก: ผมเป็นเด็กฝึกงาน ผมมีหน้าที่เสิร์ฟอาหารให้ลูกค้าและยังต้องทอดไก่เยอะมากๆ ในครัวด้วย
วี: ผมวีครับ และผมเป็นเด็กฝึกงานของ Jinny’s Kitchen เหมือนกัน
- ซีนหรือช่วงเวลาไหนที่คุณประทับใจหรือจดจำที่สุดในรายการ Jinny’s Kitchen
อีซอจิน: วันที่เรามียอดขายสูงสุด^^ ยอดขายที่ดีเป็นสิ่งสำคัญอย่างแน่นอน เพราะทำให้คุณรู้สึกดีและสนุกกับการทำธุรกิจ… กำไรคือราชา จริงไหม ^^
จองยูมี: มันเป็นช่วงเวลาที่วุ่นวายและงานหนัก แต่ทีมงานและสมาชิกของ Jinny’s Kitchen ก็ยังสนุกในทุกๆ วัน และฉันคิดว่ามันกลายเป็นความทรงจำที่ไม่มีวันลืม ป้ายที่มีหน้าของหัวหน้าอีซอจินก็น่าจดจำเช่นกัน
ชเวอูชิก: แต่ละวันที่ผ่านไป ผมต้องปรับตัวให้เข้ากับการทำงานในร้านอาหาร แต่วันที่น่าจดจำที่สุดคือวันสุดท้าย พวกเราทำงานหนักมากจริงๆ และเหงื่อท่วมตัวในขณะที่วิ่งวุ่นในร้านอาหาร มีลูกค้าเยอะมากและมีบางอย่างที่น่าผิดหวัง แต่สุดท้ายทุกอย่างก็จบด้วยดี ต้องขอบคุณหัวหน้าทีมของเรา
วี: เนื่องจากผมเป็นเด็กฝึกงาน (^^) สิ่งที่ผมจดจำได้มากที่สุดก็คือการทำงานในทุกๆ วันและความยุ่งวุ่นวายในการทำงาน และมันเป็นสิ่งที่ดีมากๆ ที่ได้ทำงานกับเพื่อนร่วมงานที่ดีและสร้างความทรงจำใหม่ๆ ร่วมกัน
- คุณคิดว่าอะไรเป็นสิ่งพิเศษที่ทำให้รายการ Jinny’s Kitchen มีความแตกต่างจากรายการอื่นๆ
อีซอจิน: อย่างแรกเลยแค่ชื่อก็มีความแตกต่างแล้ว และหน้าที่ในรายการก็มีการเปลี่ยนแปลงจากเดิม และในครั้งนี้เรามีสมาชิกใหม่อย่าง วี เพิ่มเข้ามา เขานำความสดใหม่มาให้พวกเรา และเขายังมีอะไรอีกมาก ถ้าอยากรู้ต้องติดตามดูในรายการ Jinny’s Kitchen ครับ
ผมหวังว่าผู้ชมจะค้นพบเสน่ห์ในรายการของเราได้ด้วยตัวพวกเขาเอง ผมคิดว่ามันคงจะดีถ้ารายการนี้ดูแตกต่างจาก Youn’s Kitchen แต่นั่นก็ขึ้นอยู่กับผู้ชมที่จะรับชมและรู้สึกได้ด้วยตัวเอง..
จองยูมี: ทุกอย่างเลยค่ะ คุณไม่สามารถจะพลาดอะไรในรายการได้เลย เมนูในซีซั่นนี้ก็มีความแตกต่างไปจากเดิม การได้วีเข้ามาร่วมเป็นสมาชิกใหม่ก็เป็นอีกหนึ่งความพิเศษ สถานการณ์ในซีซั่นนี้ก็มีความแตกต่างจากซีซั่นก่อนๆ ซึ่งฉันคิดว่ามันดีมากๆ เลย
พัคซอจุน: นี่เป็นครั้งแรกของผมที่ได้มาเม็กซิโก ผมคิดว่าแฟนๆ ของพวกเราในเม็กซิโกน่าจะเซอร์ไพรส์และไม่คาดคิดมาก่อน ว่าพวกเราจะมาถ่ายทำรายการที่ประเทศของพวกเขา มีหลายสิ่งหลายอย่างที่น่าประทับใจในเม็กซิโก ดังนั้นผมหวังว่าแฟนๆ ของพวกเราจะตื่นเต้นที่จะได้ดูรายการ Jinny’s Kitchen
อีกอย่างที่ผมอยากจะพูดถึงคือ ในซีซั่นก่อนๆ อาหารที่เรานำเสนอค่อนข้างจะเป็นอาหารเกาหลีแบบดั้งเดิมที่มีความพิถีพิถัน แต่ในครั้งนี้เรานำเสนออาหารสตรีทฟู้ด ว่ากันตามตรงผมคุ้นเคยกับอาหารแบบนี้มากกว่า จริงๆ ผมอยากจะเรียกมันว่าอาหารแห่งจิตวิญญาณมากกว่าอาหารสตรีทฟู้ดหรืออาหารริมทาง อาหารแบบนี้มีความแตกต่างจากอาหารเกาหลีแบบดั้งเดิม ตอนถ่ายทำรายการผมไม่ค่อยมีโอกาสได้เจอกับลูกค้า เพราะส่วนใหญ่จะอยู่แต่ในครัว แต่ผมเชื่อว่าลูกค้าส่วนมากจะมีความสุขกับอาหารของพวกเรา ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าผู้คนจะชื่นชอบอาหารประเภทนี้และสนใจอยากลองกินดูบ้าง
ชเวอูชิก: การที่ได้เห็นผู้คนมากมายได้มีโอกาสลองทานอาหารสตรีทฟู้ดเกาหลี อาหารที่เป็นเหมือนจิตวิญญาณของชาวเกาหลี อย่างเช่น เมนูต๊อกบกกี
วี: การมีคุณอีซอจินเป็นหัวหน้าทีม นั่นก็พิเศษเพียงพอแล้ว
- คุณชวยเล่าให้เราฟังหน่อยได้มั้ยว่าผู้ชมสามารถคาดหวังอะไรได้จากรายการนี้ และผู้ชมควรจะรอชมอะไรเป็นพิเศษ
อีซอจิน: พลังของคนหนุ่มสาว!! ความมีชีวิตชีวาและพลังคนหนุ่มสาวของ ยูมี, ซอจุน, อูชิก และ วี รายการนี้จะสดใสกว่ารายการที่ผ่านมา และทีมเวิร์คของพวกเขาก็ยอดเยี่ยม ดังนั้นการถ่ายทำจึงเป็นไปด้วยความสนุกในทุกวัน ผมหวังว่าคนที่ได้ดูรายการจะสัมผัสได้ถึงพลังงานและความสดใสของพวกเขา
จองยูมี: เคมีของสมาชิกในรายการ, ความสนุกของพวกเราที่ได้เปิดร้านอาหารในสถานที่แปลกใหม่
พัคซอจุน: ในครั้งนี้เราต้องแนะนำอาหารสตรีทฟู้ดเกาหลี ซึ่งผมคิดว่าเป็นอาหารแห่งจิตวิญญาณของพวกเรา นั่นก็คือสำหรับคนเกาหลีจำนวนมากรวมทั้งตัวผมเองด้วย มันเป็นประสบการณ์ใหม่และเป็นประสบการณ์ที่มีความสุขในการแบ่งปันอาหารสตรีทฟู้ดของพวกเรา ผมคิดว่าคุณจะสามารถชมรายการด้วยความเพลิดเพลินในการได้เห็นผู้คนจากหลากหลายประเทศชื่นชอบและมีปฏิกิริยาต่ออาหารสตรีทฟู้ดเกาหลี
ชเวอูชิก: เคมีของพวกเราดีมากๆ มีด้านใหม่ๆ ที่คุณจะได้เห็นในรายการ Jinny’s Kitchen และการดูพวกเราพูดคุยกัน น่าจะทำให้ผู้ชมรู้สึกสนุก
วี: ผมคิดว่าแฟนๆ จะได้เห็นผมมีช่วงเวลาที่ยากลำบาก และสนุกไปกับการเห็นด้านที่แตกต่างไปจากเดิมของผม นั่นทำให้ผมคิดว่าคุณจะสนุกไปกับรายการนี้เป็นอย่างมาก มันยากมากๆ ...
- แฟนๆ อยากเห็นคุณในรายการเรียลลิตี้โชว์รายการใหม่ โดยเฉพาะรายการทำอาหาร คุณคิดว่าแฟนๆ จะได้เห็นอะไรในรายการนี้และสมาชิก BTS คนอื่นๆ มีปฏิกิริยาอย่างไรบ้างเมื่อพวกเขารู้ว่าคุณเข้าร่วมรายการ Jinny’s Kitchen
วี: ARMY รู้กันดีอยู่แล้วว่าผมทำอาหารได้แย่ที่สุดในวง เพราะฉะนั้นอาจจะเป็นเรื่องยากที่ ARMY จะจินตนาการภาพผมทำอาหาร ผมเลยอยากให้ทุกคนคอยดูว่าผมจะทำอาหารได้อย่างไรและมีด้านใหม่ๆ อะไรในรายการนี้บ้าง สำหรับสมาชิก BTS คนอื่นๆ พวกเขาก็ตื่นเต้นที่จะดูรายการนี้เหมือนกัน ระหว่างที่ผมถ่ายทำรายการ ผมได้คุยกับพวกเขาบางคน พวกเขาบอกว่าอยากให้ผมตั้งใจทำงาน นั่นเป็นสิ่งที่พวกเราคุยกัน
- พวกคุณทั้งสี่ (อีซอจิน จองยูมี พัคซอจุน และ ชเวอูชิก) เคยทำงานร่วมกันมาแล้วในรายการ Youn’s Stay เมื่อปี 2021 จากประสบการณ์ในรายการนั้น เคมีระหว่างพวกคุณเปลี่ยนไปหรือพัฒนาไปอย่างไรบ้างในรายการ Jinny’s Kitchen
อีซอจิน: ในรายการก่อนหน้านี้ซอจุนกับยูมีค่อนข้างจะเงียบ แต่ในครั้งนี้พวกเขามีชีวิตชีวามากขึ้นและผมคิดว่าพวกเขาพูดมากขึ้นด้วย
จองยูมี: ฉันค่อนข้างตื่นเต้นเนื่องจากในซีซั่นนี้มีสมาชิกใหม่เข้ามา และเป็นสมาชิกที่อายุน้อยที่สุดอย่าง วี ทำให้บรรยากาศโดยรวมดีขึ้น ฉันเป็นผู้หญิงคนเดียวในกลุ่ม อาจจะมีรู้สึกแปลกๆ อยู่บ้าง แต่เพราะบรรยากาศในรายการเป็นไปเหมือนครอบครัว ก็เลยทำให้รู้สึกสบายใจและทุกอย่างก็เป็นไปด้วยดีค่ะ
ชเวอูชิก: จากคะแนนเต็ม 100 ผมให้เคมีของพวกเรา 100 คะแนนเต็มเลย ผมไม่รู้สึกว่าขาดอะไรไป ทุกคนให้กำลังใจกันและสนุกไปด้วยกัน ผมมีช่วงเวลาที่ดีมากจริงๆ
- ในฐานะน้องเล็กของรายการ วีเป็นอย่างไรบ้างระหว่างถ่ายทำรายการ
อีซอจิน: ผมคิดว่าเขาทำงานหนักมากและทำงานออกมาได้ดีเลย
จองยูมี: นี่เป็นครั้งแรกของฉันที่ได้ร่วมงานกับวี เขานิสัยดีมากและฉันรู้สึกดีมากๆ ที่ได้ทำงานร่วมกับเขา เพราะเขาทำงานหนักและช่วยฉันได้เยอะเลยค่ะ มากกว่าที่ฉันหวังไว้ซะอีก
พัคซอจุน: การได้ทำงานกับเพื่อนสนิทของตัวเอง ทำให้ทุกวันของผมยอดเยี่ยมมากๆ ครับ
ชเวอูชิก: พวกเราสี่คนได้เคยทำงานร่วมกันมาก่อนแล้ว แต่ครั้งนี้วีได้เข้ามาเป็นสมาชิกใหม่ เมื่อพวกเรามอบหมายงานอะไรให้เขาทำ เขาจะตั้งใจทำอย่างเต็มที่ ผมได้เห็นด้านใหม่ๆ ของเขา ผมเคยคิดว่าเขายังเด็กอยู่มากและดูเป็นน้องเล็ก แต่จากที่ผมได้เห็นเขาในรายการนี้ เขาเกินความคาดหมายของผมไปมาก
พวกเรามีช่วงเวลาที่สนุกและความทรงจำที่ดีร่วมกัน เป็นช่วงเวลาที่มีความสุขมากๆ ขอบคุณนะวี
- คุณรู้สึกอย่างไรบ้างที่ได้มีโอกาสทำงานร่วมกับเพื่อนสนิทของคุณอย่าง พัคซอจุน และ วี
ชเวอูชิก: พวกเราได้ไปเที่ยวและเจอกันอยู่บ่อยๆ แต่การเจอกันและถ่ายทำรายการด้วยกันเป็นสิ่งที่แตกต่างไปจากเดิม แต่ยังไงก็ตามไม่ว่าจะแบบไหน พวกเราก็สนุกกันอยู่ดี
- คุณ วี BTS ในฐานะ สมาชิกน้องใหม่ของรายการ รู้สึกยังไงบ้างที่ได้มาร่วมใน “Jinny’s Kitchen” ครั้งนี้และเตรียมตัวมาร่วมรายการนี้ยังไงบ้าง รวมทั้งต้องปรับตัวให้เข้ากับสมาชิกเก่ามากน้อยแค่ไหน
วี: ผมได้เรียนภาษาสเปนเพื่อเป็นการเตรียมตัวมาบ้าง และปกติผมเป็นคนหยิบจับทำอะไรช้า ผมเลยต้องพยายามฝึกให้ตัวเองเคลื่อนไหวเร็วขึ้น ทำอะไรเร็วขึ้น เพื่อทำงานในร้านอาหาร ผมตั้งใจทำงานอย่างหนักและพยายามเป็นเด็กฝึกงานที่ดีที่สุด
- ยินดีด้วยที่คุณได้เลื่อนขั้นจากผู้อำนวยการเป็น CEO ในซีซั่นนี้ แฟนๆ มากมายทราบเป็นอย่างดีว่าคุณจบปริญญาด้านการบริหารธุรกิจ คุณได้นำความรู้ที่คุณได้เรียนมา มาใช้ในรายการซีซั่นนี้บ้างมั้ย
อีซอจิน: ผมไม่ได้คิดถึงรายการนี้ในแง่ของการเยียวยาหรืออะไรพวกนั้นเลย ผมแค่คิดถึงเรื่องการขาย คนทั่วไปอาจจะคิดว่านี่เป็นรายการทีวี...แต่ผมไม่ได้คิดว่านี่เป็นการถ่ายทำรายการ ผมมุ่งไปที่ยอดขายและกำไร..
- คุณได้เตรียมตัวหรือฝึกซ้อมอะไรเป็นพิเศษก่อนการถ่ายทำ เพื่อทำหน้าที่ในรายการของคุณให้ดีขึ้นหรือไม่
อีซอจิน: ผมไม่ได้เตรียมตัวหรือฝึกซ้อมอะไรมาล่วงหน้าเลย...แต่หลังจากที่มาเป็นหัวหน้าทีม ผมเลยต้องจริงจังกับเรื่องธุรกิจ ทุกวันและทุกช่วงเวลา ผมจะคิดอยู่ตลอดว่าจะทำยังไงให้ผลกำไรเพิ่มขึ้น
จองยูมี: เมนูซิกเนเจอร์ของที่ร้านเลย เพื่อที่จะทำให้เจ้านายพอใจ ฉันอยากจะม้วนคิมบับให้ออกมาดี ปกติฉันชอบคิมบับมาก แต่พอฉันได้มาฝึกทำคิมบับจริงๆ ถึงได้รู้ว่ามันไม่ใช่เมนูที่ทำได้ง่ายๆ ฉันฝึกทำเยอะมากๆ ถึงขนาดซื้อคิมบับกลับบ้านแล้วชำแหละมัน เพื่อดูส่วนผสมของมันข้างใน ฉันยังไปร้านคิมบับที่ฉันชอบ แล้วแอบดูด้วยว่าเขามีวิธีการทำยังไง
พัคซอจุน: จากประสบการณ์ ผมคิดว่าความอึดเป็นปัจจัยสำคัญที่สุด ดังนั้นผมจึงออกกำลังกายให้หนักขึ้น ผมรู้สึกแบบนี้จริงๆ ตอนอยู่ที่นั่น ตารางงานมันหนักมากและจะทำสำเร็จได้ยาก ถ้าคุณไม่มีความอึดที่ดีพอ (หัวเราะ)
ชเวอูชิก: ผมเข้าร่วมหลังจากถ่ายทำในเกาหลีไปแล้ว สิ่งแรกที่ผมทำเมื่อไปถึงเม็กซิโกคือการเตรียมร่างกายให้พร้อมและปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมของที่นั่น
วี: ผมเรียนภาษาสเปนนิดหน่อย และผมอธิบายเป็นทัศนคติในใจได้ใช่มั้ย.. ผมต้องบอกตัวเองอยู่ตลอดว่า ผมเป็นเด็กฝึกงาน ผมเป็นเด็กฝึกงาน
- คุณเคยมีประสบการณ์ทำร้านอาหารมาจากรายการก่อนหน้านี้ คุณมีการฝึกซ้อมอะไรสำหรับรายการนี้หรือเปล่า และในครั้งนี้มีอะไรที่แตกต่างออกไปหรือไม่
จองยูมี: ฉันกังวลและตื่นเต้นทุกครั้งเวลาที่ได้รับออเดอร์แรกในแต่ละร้าน ความแตกต่างสำหรับรายการ Jinny’s Kitchen ก็คือ ฉันได้เลื่อนขั้นแล้ว
พัคซอจุน: แทนที่จะมีอะไรที่แตกต่างเป็นพิเศษ ผมคิดว่าคุณจะได้เห็นพวกเรามีชีวิตชีวาขึ้นเล็กน้อย เพราะเราได้อยู่กับคนที่เราสนิทและรู้สึกสบายใจต่อกัน ช่วงเวลาที่ได้ใช้ร่วมกับคนที่ผมชื่นชอบนั้นยอดเยี่ยมอย่างที่หวังไว้
ชเวอูชิก: ตอนรายการ Youn’s Stay พวกเราสามารถเตรียมเซ็ทเมนูอาหารและกำหนดเวลาอาหารสำหรับแขกที่มาได้ แต่ในครั้งนี้เราไม่สามารถเตรียมอะไรได้ล่วงหน้าเลย ผมเลยค่อนข้างตื่นเต้นและกังวล นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ Jinny’s Kitchen มีความน่าสนใจมากขึ้น
- หลังจากที่เคยมีประสบการณ์ทำอาหารในรายการวาไรตี้ก่อนหน้านี้ ทำให้คุณมั่นใจในการทำอาหารมากขึ้นผ่านรายการนี้ไหม
จองยูมี: เมื่อฉันคิดถึงเวลาที่ลูกค้ากินอาหารที่เราทำ ฉันจะตื่นเต้นและอยากรู้ว่าพวกเขาชอบมันมั้ย ฉันคิดว่าพวกเราจะรู้ตอนที่ได้ดูรายการนี้ออกอากาศนี่ล่ะ ในการทำอาหารมีหลายอย่างที่ต้องระวัง อย่างเช่น เรื่องของไฟ น้ำมัน มีด และความสะอาด เมื่อฉันไม่รู้ว่าลูกค้าจะสั่งอะไร ฉันจะตื่นเต้นเสมอเวลาที่มีลูกค้าเข้าร้านมา และการที่เมนูแตกต่างไปจากการทำร้านอาหารในรายการก่อนหน้านี้ ฉันเลยฝึกอย่างหนักตอนที่อยู่เกาหลี และพอมาถึงเม็กซิโกฉันก็ต้องฝึกกับส่วนผสมท้องถิ่นของที่นั่นด้วย ฉันคิดว่ามันเป็นขั้นตอนที่ต่อเนื่องในการสร้างความมั่นใจ ยังไงก็ตามหลังจากผ่านรายการ Jinny’s Kitchen ฉันสามารถทำคิมบับได้หลายแบบเลย
พัคซอจุน: ความมั่นใจเป็นสิ่งสำคัญ แต่ระหว่างที่การถ่ายทำดำเนินไปผมก็รู้สึกถึงความสำคัญของการมีความรับผิดชอบ อาหารที่พวกเราทำให้ลูกค้าในรายการ Jinny’s Kitchen อาจจะเป็นอาหารเกาหลีครั้งแรกของพวกเขา นั่นทำให้ผมคิดว่าทำไมผมถึงต้องทำงานหนักเพื่อหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้น ก็เพื่อทำให้พวกเขาประทับใจกับอาหารเกาหลี
- ใน Youn’s Kitchen และ Youn’s Stay คุณกับคุณจองยูมีสร้างความประทับใจในการทำอาหารให้ผู้ชมได้ตื่นตาตื่นใจกันทุกซีซัน สำหรับ Jinny’s Kitchen ที่มาในธีมของสตรีทฟู้ดสไตล์เกาหลี เช่น ต็อกบกกี รามยอน ฯลฯ ซึ่งแม้จะเป็นเมนูที่ดูเหมือนทำง่าย แต่ก็มีความท้าทายในการปรับสูตรเพื่อให้ชาวต่างชาติรับประทาน อยากรู้ว่าคุณเตรียมการอะไรเป็นพิเศษเกี่ยวกับเมนูต่างๆ เหล่านี้บ้าง ได้มีการปรึกษาหารืออะไรกันก่อนจะเริ่มถ่ายรายการบ้างไหม
พัคซอจุน: ผมพยายามฝึกทำอาหาร ฝึกฝนให้รสชาติออกมาดี ผมได้ไปชิมอาหารตามร้านต่างๆ และพยายามตั้งใจทำอาหารให้ออกมาดีที่สุด
- อะไรคือเมนูซิกเนเจอร์ของ Jinny’s Kitchen และเมนูนี้มีความพิเศษอย่างไร
อีซอจิน: คิมบับ ต๊อกบกกี และ คอร์นดอก
จองยูมี: เราพยายามเรียนรู้และฝึกซ้อมสิ่งต่างๆ ด้วยกันมาล่วงหน้า แต่อากาศในเม็กซิโกค่อนข้างร้อน เราเลยต้องเตรียมผักสดใหม่ในทุกๆ วัน เพื่อไม่ให้มันเน่า นี่เป็นสิ่งหนึ่งที่ฉันได้เรียนรู้จากการรับหน้าที่ทำคิมบับ
- แฟนๆ เรียกพวกคุณว่า “ดรีมทีม” คุณมีวิธีสร้างเคมีระหว่างกันอย่างไร และมีเคล็ดลับอะไรในการดูแลลูกค้าที่สามารถเล่าให้ฟังได้มั้ย
วี: สำหรับผมน่าจะเหมือนกับสิ่งที่ผมรู้สึกกับสมาชิก BTS ถึงแม้พวกเราจะมีนิสัยต่างกัน แต่การที่พวกเราได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันมายาวนาน พวกเราก็เลยกลายเป็นเหมือนครอบครัวกัน และสำหรับทีมนี้ก็เช่นเดียวกัน พวกเรามีนิสัยแตกต่าง แต่ก็รู้สึกเป็นครอบครัว
- คุณช่วยเล่าประสบการณ์ที่คุณประทับใจหรือเหตุการณ์สนุกๆ ระหว่างที่ถ่ายทำรายการนี้ให้ฟังหน่อยได้หรือไม่
พัคซอจุน: มันยากที่จะเลือกมาแค่เหตุการณ์เดียว แต่ประสบการณ์หนึ่งที่ผมชอบในรายการนี้ก็คือ ผมได้นำเสนออาหารแห่งจิตวิญญาณ แทนที่จะเป็นอาหารเกาหลีที่ดูประณีตบรรจง ผมว่ามันแตกต่างแล้วก็ดีมากๆ
- ความยากและท้าทายที่สุดในการร่วมรายการ “Jinny’s Kitchen” นี้ คืออะไร
อีซอจิน: มีหลายอย่างที่เป็นเรื่องยากในรายการนี้สำหรับผม มันยากเวลาที่ไม่ค่อยมีลูกค้า แต่เวลาที่ลูกค้าเยอะๆ พวกเราจะยุ่งมาก นี่ก็ยากเหมือนกัน และอีกช่วงเวลาที่ยากลำบากสำหรับผมก็คือ เวลาที่พนักงานไม่ฟังเรา อย่างเช่น วีมักจะถามถึงวันหยุดอยู่เสมอ อูชิกก็จะหายตัวอยู่บ่อยๆ เรื่องพวกนี้ยากมากๆ เลย
พัคซอจุน: ช่วงเวลายากลำบากสำหรับผมจะเป็นตอนที่ไม่มีลูกค้า เพราะว่าพวกเราทำงานหนักมากเพื่อเตรียมส่วนผสมในการทำอาหารต่างๆ เราอยากให้มีลูกค้าเข้ามาเยอะๆ ถึงจะเหนื่อยและวุ่นวายแค่ไหน แต่ก็สนุกและดีกว่าตอนไม่มีลูกค้าเยอะเลย
- คิดว่าสิ่งที่ได้เรียนรู้มากที่สุด จากการได้ร่วมรายการ “Jinny’s Kitchen” คืออะไร
วี: ผมคิดว่าก่อนที่ผมจะตกลงเข้าร่วมรายการ ผมน่าจะดูรายละเอียดให้ดีกว่านี้ (ตอบแบบเป็นมุกตลก)
ชเวอูชิก: นี่เป็นบทเรียนที่ดีเลย เราต้องดูเงื่อนไขให้ดีก่อนจะตัดสินใจรับอะไร (ตอบแบบติดตลกเหมือนกัน)
- จากที่เป็นผู้บริโภคมาตลอด พอได้ลองมาทำงานในฐานะคนครัวแบบนี้แล้ว ได้เรียนรู้อะไรบ้าง
วี: ปกติแล้วผมเป็นคนที่เคลื่อนไหวและหยิบจับอะไรค่อนข้างช้า แต่พอได้มาทำงานร้านอาหารผมพยายามเรียนรู้ที่จะเคลื่อนไหวให้รวดเร็วขึ้น เพื่อไม่ให้เป็นอุปสรรคในการทำงานร้านอาหาร ผมทำงานหนักมากด้วยทัศนคติของเด็กฝึกงาน นอกจากนี้ผมยังได้เรียนภาษาสเปนด้วย
- คุณคิดว่าอะไรคือเสน่ห์ของอาหารสตรีทฟู้ดเกาหลี และ หัวใจสำคัญของสตรีทฟู้ดเกาหลีคืออะไร
อีซอจิน: มากกว่าเรื่องเสน่ห์ของอาหารเกาหลี น่าจะเป็นที่ตั้งของร้านอาหารด้วย เนื่องจากสถานที่ถ่ายทำรายการเป็นจุดท่องเที่ยว อาหารสตรีทฟู้ดจึงไปกันได้ดีกับโลเคชั่น ลูกค้าชื่นชอบคิมบับ ต๊อกบกกี รามยอน และฮอทด็อก* (คอร์นด็อก)... ผมคิดว่าในขณะที่ดูรายการ ผมเองก็ต้องอยากกินอาหารเหล่านั้นเหมือนกัน
- คุณคิดว่าเสน่ห์ของรายการนี้คืออะไร
อีซอจิน: ผมหวังว่าผู้ชมจะค้นพบและบอกให้เรารู้ว่าเสน่ห์ของรายการคืออะไร ผมเองก็รอเสียงตอบรับจากผู้ชมเช่นกัน
- มีช่วงเวลาประทับใจระหว่างถ่ายทำรายการในเม็กซิโกที่เล่าให้พวกเราฟังได้หรือไม่มีอะไรที่คุณสามารถเจอได้เฉพาะในเม็กซิโกเท่านั้น
พัคซอจุน: ความสวยงามของบรรยากาศและธรรมชาติในเม็กซิโกเป็นสิ่งที่น่าประทับใจที่สุด วิวทิวทัศน์ต่างๆ สวยงามเป็นอย่างมาก ถึงแม้อากาศจะร้อนและชื้น แต่ผมก็ยังรู้สึกเย็นสบายและผ่อนคลายตอนอยู่ในที่ร่ม
- ระหว่างถ่ายทำรายการที่เม็กซิโก คุณได้มีโอกาสทานอาหารเม็กซิกันบ้างมั้ย
อีซอจิน: ส่วนตัวผมเป็นคนชอบทานอาหารเม็กซิกันอยู่แล้ว ถ้ามีโอกาสผมจะทานตลอด อาหารเม็กซิกันที่ผมชอบเป็นพิเศษก็คือ ทาโก้
จองยูมี: ระหว่างเวลาพักของพวกเรา พี่ซอจินจะออกไปข้างนอกและซื้อมาฝากพวกเราตลอด เราเลยมีโอกาสได้ลองกินทาโก้หลายแบบมาก
พัคซอจุน: เราได้กินเบอร์ริโต้ด้วย อร่อยมาก ผมชอบมากๆ และอูชิกกับวีก็ชอบเหมือนกัน
- รายการ “Jinny’s Kitchen” จะเน้นไปที่อาหาร Street Food ของเกาหลี ดังนั้นหากให้แนะนำ Street Food ของเกาหลี ที่แฟนชาวไทยและแฟนทั่วโลกไม่ควรพลาด เมื่อมาเยือนประเทศเกาหลีใต้ อยากแนะนำเมนูอะไร เพราะอะไร
จองยูมี: ในบรรดาเมนูต่างๆ ที่พวกเราทำใน Jinny’s Kitchen เมนูที่ฉันอยากจะแนะนำก็คือ รามยอน ถ้าคุณชอบอาหารรสเผ็ด
ชเวอูชิก: ในเม็กซิโกผมสังเกตว่าคนที่นั่นชื่นชอบอาหารรสเผ็ดมากๆ เมนูที่ผมมักจะแนะนำให้พวกเขาลองก็คือต๊อกบกกี ผมเลยอยากแนะนำให้แฟนๆ ทั่วโลกได้ลองทานต๊อกบกกีเหมือนกันครับ
- ถ้าเปรียบรายการนี้เป็นอาหาร Fast Food สักเมนู คุณจะเปรียบเป็นอะไร เพราะอะไร
ชเวอูชิก: ผมขอเปรียบเป็นคิมบับ เพราะคิมบับมีส่วนผสมมากมาย รายการนี้เปรียบเหมือนอาหารคุณภาพดีที่มีความสนุกอันหลากหลาย พวกเรามีเคมีที่ยอดเยี่ยมในรายการและผมเชื่อว่าผู้ชมจะชื่นชอบรายการของเรา เหมือนกับลูกค้าชื่นชอบเมนูคิมบับของพวกเรา
วี: ผมขอเลือกฮอทดอกมันฝรั่ง* (คอร์นดอกมันฝรั่ง) เหตุผลก็คือข้างในเต็มไปด้วยรสชาติและเป็นเมนูโปรดของผม
(*ในเกาหลีจะเรียกคอร์นดอกว่าฮอทดอก)
- หลังจากทำงานในครัวอย่างหนัก อาหารเมนูอะไรที่จะเยียวยาความเหนื่อยทั้งวันของคุณได้
วี: ตอบตามตรงเลยนะครับ ปกติแล้วผมไม่ค่อยชอบดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เท่าไหร่ แล้วก็ไม่ค่อยได้ดื่มบ่อยๆ ด้วย แต่หลังจากทำงานในร้านอาหาร การดื่มแอลกอฮอล์กลายเป็นเรื่องปกติ เวลาที่ได้ดื่มเบียร์เย็นๆ หลังจากจบวันอันแสนวุ่นวาย เป็นความรู้สึกที่ดีมาก
- ถ้าคุณได้มีโอกาสทำอาหารไทยสักเมนูในรายการนี้ เมนูอะไรที่คุณอยากลองทำและทำไม
วี: มีเมนูอาหารไทยอยู่หนึ่งอย่างที่ผมอยากลองหัดทำมากๆ นั่นก็คือ ปูผัดผงกะหรี่
- คุณ วี BTS นี่เป็นซีซั่นแรกของคุณ ถ้าคุณได้มีโอกาสกลับมาร่วมรายการอีก ร้านอาหารแบบไหนที่คุณอยากทำและอยากให้ร้านนี้ตั้งอยู่ที่ไหน
วี: สำหรับผมจะเป็นร้านแบบไหนก็ได้และตั้งอยู่ที่ไหนก็ได้ ตราบใดที่มีรายละเอียดที่น่าสนใจ ติดต่อผมมาได้เลย
- ขอ 3 เหตุผลที่คนต้องดูรายการ Jinny’s Kitchen
ชเวอูชิก: เหตุผลแรก เพราะพวกเราเป็นดรีมทีม มีหลายตอนที่มีความน่าสนใจมากๆ แม้จะไม่ได้มีเรื่องดราม่าอะไรมากมายก็ตาม อีกเหตุผลหนึ่งก็คือการได้ไปถ่ายรายการที่ประเทศเม็กซิโก ที่นั่นเป็นประเทศที่เต็มไปด้วยสีสันและมีความสวยงาม และเหตุผลสุดท้ายที่ต้องดูรายการนี้ก็คือ รายการนี้เป็นเหมือนละคร coming-of-age ของนายอี ต้องติดตามดูว่าเขามีการเปลี่ยนแปลงอย่างไรตั้งแต่เริ่มต้นจนจบรายการ ผมคิดว่าโดยรวมรายการนี้มีความสนุกสนานเป็นอย่างมาก
- ช่วยฝากข้อความถึงผู้ชมทั่วโลกที่กำลังชมรายการ Jinny’s Kitchen
อีซอจิน: ขอให้ชมรายการด้วยความสนุกสนานนะครับ ผมคิดว่ามีแฟนๆ จากประเทศต่างๆ ทั่วโลกที่ชื่นชอบรายการของผู้กำกับนา เมื่อรายการนี้สามารถรับชมได้ทั่วโลกผ่านทาง Prime Video ผมเลยตื่นเต้นอยากรู้ว่าจะได้รับเสียงตอบรับแบบไหนจากผู้ชม
จองยูมี: ฉันจะดีใจมากๆ เลยค่ะถ้าคุณสนุกไปกับการดูรายการ Jinny’s Kitchen และสำหรับคนที่อยู่ในวงการร้านอาหาร ถ้าคุณได้ดูรายการของเรา ฉันอยากบอกว่าฉันชื่นชมพวกคุณมากๆ
พัคซอจุน: พวกเราทำงานอย่างหนักขณะถ่ายทำรายการในเม็กซิโก ถ้าจะมีอะไรที่พวกเราต้องปรับปรุงแก้ไขอีก ผมหวังว่าผู้ชมจะเข้าใจพวกเรา ผมเองก็รอที่จะชมรายการเหมือนกันและคิดว่ามีองค์ประกอบสนุกๆ มากมายในนั้น ดังนั้นผมคิดว่าคุณน่าจะสนุกไปกับรายการด้วย ช่วยติดตามชมรายการ Jinny's Kitchen กันเยอะๆ นะครับ
วี: คุณจะได้เห็นพวกเราเจอกับความยุ่งยาก และนี่เป็นรายการวาไรตี้โชว์ที่มีหลายส่วนเชื่อมโยงกับผู้ชม เพราะฉะนั้นช่วยให้กำลังใจพวกเรากันเยอะๆ นะครับ
ชเวอูชิก: สำหรับแฟนๆ จากทั่วโลกที่รอชมรายการ Jinny’s Kitchen ในครั้งนี้มีเรื่องราวสนุกๆ เยอะมากและมันก็น่าตื่นเต้นมากจริงๆ พวกเราพยายามเก็บภาพความสวยงามของบรรยากาศในประเทศเม็กซิโกมาฝากทุกคน ผมหวังว่าทุกคนจะสนุกไปกับพวกเรานะครับ
อัลบั้มภาพ 28 ภาพ