Brendan Fraser กับชีวิตสุดพลิกผัน ถูกล่วงละเมิด-โดนแบน สู่ผู้ชนะออสการ์
ชีวิตเดี๋ยวขึ้นเดี๋ยวลงของ Brendan Fraser จากรับบทนำจนโด่งดังไปทั่วโลกใน The Mummy โดนล่วงละเมิดทางเพศจากผู้ชาย โดนแบนไม่ให้งานแสดง สู่การเป็นเจ้าของรางวัลออสการ์ สาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยมจาก The Whale ในปี 2023
Brendan Fraser หนุ่มผู้หลงไหลในการแสดง
Brendan Fraser เติบโตในเมือง Indianapolis, Indiana ประเทศอเมริกา ในครอบครัวพี่น้อง 4 คน สืบเชื้อสายจากหลากหลายชาติ ทั้งไอริช สกอตติช เยอรมัน เช็ก และฝรั่งเศส-แคนาเดียน เขาถือสองสัญชาติ แคนาเดียน และ อเมริกัน
Brendan Fraser เรียนด้านการแสดงหลังได้ชมละครเวทีที่อังกฤษ หลังเรียนจบเขาเริ่มรับงานแสดงเล็กๆ ที่นิวยอร์ก และตั้งใจจะเรียนต่อปริญญาโทด้านการแสดงเพิ่มเติม แต่หยุดเรียนกลางคันเพราะได้รับงานแสดงในฮอลลีวูด
The Mummy พลิกชีวิต
Brendan Fraser รับบทเล็กๆ จากหนังเรื่อง Dogfight เป็นงานแรกในปี 1991 ก่อนจะเริ่มเป็นใบเบิกทางเข้าสูงานแสดงในโลกฮอลลีวูดอย่างจริงจัง และเขาได้รับงานแสดงอย่างต่อเนื่อง ทั้ง School Ties (1991) ที่ได้ร่วมแสดงกับ Matt Damon, Ben Affleck และ Chris O'Donnell ที่กำลังเริ่มมีชื่อเสียงในขณะนั้น, With Honors (1994) with Joe Pesci, Airheads (1994) ร่วมแสดงกับ Steve Buscemi และ Adam Sandler, The Passion of Darkly Noon (1995), Mrs. Winterbourne (1996) และ The Twilight of the Golds (1997
แต่ที่ไม่พูดไม่ได้ คือการที่เขาได้รับบทนำในภาพยนตร์เรื่อง The Mummy (1999) ที่โด่งดังและสร้างชื่อเสียงให้กับเขาเป็นอย่างมากจนได้สร้างภาคต่อ The Mummy Returns (2001) จนเขาเป็นที่รู้จักและเป็นที่ต้องการของผู้กำกับมากมาย
ทุ่มสุดตัวจนต้องเจ็บตัว เสี่ยงตาย และเปลืองตัวหลายครั้ง
Brendan Fraser เป็นนักแสดงที่ทุ่มให้กับงานแสดงสุดตัวไม่ว่าจะเป็นบทเล็กหรือบทใหญ่ เขาเคยให้สัมภาษณ์กับ GQ ว่าเขาเคยได้รับบาดเจ็บตรงซี่โครงระหว่างถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องแรกในชีวิต Dogfight (1991) แต่เขายืนยันถ่ายทำต่อจนจบ ถึงขั้นที่เขาบอกว่า “ผมบอกว่าอยากให้ผมทำอีกไหม ผมทำได้นะ ถ้าให้ (กระดูกซี่โครง) หักเลยก็ได้”
เขามักได้รับบทที่ต้องเสี่ยงตาย และเผยเนื้อหนังมังสาอยู่บ่อยๆ ด้วยรูปร่างที่บึกบึน หน้าตาดี เขาเคยออดิชั่นบทแสดงที่เขาต้องยกต้นไม้ขึ้นลงนับครั้งไม่ถ้วนเพื่อทดสอบสมรรถภาพทางร่างกาย เขาเคยต้องวิ่งไปมา กระโดด รับแรงกระแทก เล่นฉากบู๊เอง รวมถึงความผิดพลาดระหว่างการถ่ายทำในหนังเรื่อง The Mummy ที่เขาโดนรัดคอจนหมดสติ และเกือบตายเพราะโดนแขวนคอจริงๆ อาการบาดเจ็บที่สะสมมาอย่างยาวนานหลายปีทำให้เขาต้องเข้าออกโรงพยาบาลเพื่อผ่าตัดรักษาอาการบาดเจ็บต่างๆ ทั้งเข่า หลัง ไปจนถึงเส้นเสียงในคอ ร่างระบมกว่า 7 ปี
นอกจากเรื่องของฉากบู๊แอคชั่นที่ทำให้บาดเจ็บอย่างต่อเนื่อง ตอนที่เขาได้รับบทในหนังเรื่อง George of the Jungle (1997) เขายังต้องถอดเสื้อนุ่งผ้าเตี่ยวตัวเดียวแทบจะตลอดทั้งเรื่องอีกด้วย
ถูกล่วงละเมิดทางเพศจากผู้ชายคนใหญ่คนโต ถูกแบนในวงการฮอลลีวูดเงียบๆ
Brendan Fraser เปิดเผยในปี 2018 ว่าเขาเคยถูกล่วงละเมิดทางเพศจาก Philip Berk อดีตประธานสมาคม Hollywood Foreign Press Association (HFPA) ที่จัดงาน Golden Globe Awards ระหว่างร่วมงานเลี้ยงอาหารกลางวันวันหนึ่งในปี 2003 เขาถูก Philip Berk จับที่ก้น และใช้นิ้ววนสัมผัสในส่วนนั้นอย่างตั้งใจ
หลังจากที่เขาเปิดเผยเรื่องนี้ Philip Berk ให้การปฏิเสธ และยังกล่าวหา Brendan Fraser ว่าใส่ไข่เรื่องนี้มากเกินจริง แต่สุดท้ายโดนบังคับให้เขียนจดหมายขอโทษ บางส่วนในจดหมายระบุว่า “ขอแสดงความขอโทษแม้ว่าจะไม่ได้ทำอะไรผิด ถ้าได้กระทำการอันใดที่ทำให้เกิดความไม่พอใจ เป็นความไม่ตั้งใจที่จะให้เกิดเรื่องขึ้น และขอแสดงความขอโทษด้วย”
หลังจากเหตุการณ์นั้น เขาเริ่มได้รับงานแสดงน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด บทเด่นหายหมด มีแต่บทเล็กๆ รองๆ และบางช่วงถึงขั้นไม่มีงานแสดง Brendan Fraser เริ่มรู้สึกราวกับว่าเขาถูกแบนจากวงการฮอลลีวูดอย่างเงียบๆ โดยที่เขาเองก็ไม่รู้ว่าเขาผิดอะไร เขาเริ่มสงสัยในความสามารถของตัวเอง ความมั่นใจในตัวเองต่ำลงเรื่อยๆ
แม่เสียชีวิต เมียขอหย่า งานหาย กลายเป็นโรคซึมเศร้า
แม้ว่าเรื่องงานแสดงของเขาจะดูไปได้สวยในช่วงแรกๆ แต่ในปี 2009 เขาหย่ากับภรรยา โดยถูกเรียกร้องจ่ายค่าเลี้ยงดูกว่า 50,000 เหรียญสหรัฐต่อเดือน (หรือราวๆ 1.7 ล้านบาท) ในปี 2016 หลังจากเขาหายหน้าหายตาไปจากวงการแสดง เขากลับมาเล่นบทเล็กๆ ในซีรีส์ The Affair แต่ก็ต้องมานั่งให้สัมภาษณ์โปรโมตซีรีส์หลังจากที่แม่ของเขาเพิ่งเสียชีวิตไปไม่กี่วันก่อน
เรื่องส่วนตัวในชีวิต บวกกับเรื่องงานที่ไม่ได้เป็นไปได้สวยอย่างที่ควรจะเป็นหลังจากที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง ทำให้ Brendan Fraser ถูกโรคซึมเศร้ารุมเร้า รูปร่างอ้วนท้วมขึ้น จนโดนชาวเน็ตและสื่อบางเข้าล้อเลียนภาพเปรียบเทียบของเขากับรูปร่างหล่อเหลากำยำล่ำสันในอดีต
กลับมาผงาดกับ The Whale
ท่ามกลางมรสุมในชีวิต Brendan Fraser ยังคงต่อสู้และพยายามยืนยันอยู่ในวงการฮอลลีวูดในการรับงานแสดงเรื่อยๆ แม้ว่าจะเป็นหนังและซีรีส์ฟอร์มเล็กๆ ก็ตาม สุดท้ายเขาตัดสินใจรับบทในภาพยนตร์เรื่อง The Whale เป็นการกลับมารับบทนำในรอบหลายปีของเขา และยังเป็นภาพยนตร์ดราม่าที่แปลกใหม่จากงานเก่าๆ ของเขาที่มักเป็นแนวแอคชั่น แฟนตาซี หรือตลกมากกว่า
Brendan Fraser ต้องแปลงโฉมเพื่อสวมบทบาทเป็นคุณพ่อที่มีน้ำหนักมากถึง 272 กิโลกรัม แต่ด้วยการแสดงอันเฉียบขาดของ ทำให้ The Whale ได้รับกระแสตอบรับอย่างดีจากแฟนๆ และสื่อมวลชน จนเขาหลั่งน้ำตาหลังมีผู้ชมลุกขึ้นปรบมือนานถึง 6 นาทีในเทศกาลภาพยนตร์เวนิส ก่อนที่ในที่สุดเขาจะได้ครอบครองรางวัลออสการ์ตัวแรกในชีวิตการแสดงตลอด 32 ปีของเขาจากบทนี้ได้สำเร็จ
Brendan Fraser กล่าวระหว่างรับรางวัลออสการ์ สาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยม จากภาพยนตร์เรื่อง The Whale ว่า
“ผมอยากบอกทุกคนว่า มีเพียงวาฬเหล่านี้ที่สามารถดำว่ายในห้วงลึกของพรสวรรค์ของ Hong Chau (นักแสดงหญิงสมทบในเรื่อง) ผมอยู่ในวงการนี้มา 30 กว่าปี ทุกอย่างไม่ง่ายเลยสำหรับผม แต่ก็มีบางอย่างที่ผมไม่ได้ซาบซึ้งเห็นคุณค่าของมันจนกระทั่งมันหายไป ผมอยากขอบคุณที่มองเห็นผม ผมไม่อาจทำสิ่งนี้ได้โดยไม่มีทีมนักแสดงท่านอื่นๆ ผมรู้สึกเหมือนกำลังดำดิ่งอยู่ที่ก้นลึกในมหาสมุทร มีมวลอากาศเบาๆ ลอยอยู่เหนือผืนน้ำที่ถูกมองลงมาจากกลุ่มคนไม่กี่คนในชีวิตของผม ลูกๆ ของผม Holden, Leland และ Griffin ผู้จัดการของผม JoAnne Colonna, Jennifer Plant และเพื่อนที่ดีที่สุดของผม Jeannie ขอบคุณทุกคนมากๆ ครับ”
อัลบั้มภาพ 15 ภาพ