Michael Clarke Duncan ได้บทในหนัง The Green Mile เพราะได้ Bruce Willis ช่วย โดย ตั๋วร้อนฯ

Michael Clarke Duncan ได้บทในหนัง The Green Mile เพราะได้ Bruce Willis ช่วย โดย ตั๋วร้อนฯ

Michael Clarke Duncan ได้บทในหนัง The Green Mile เพราะได้ Bruce Willis ช่วย โดย ตั๋วร้อนฯ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ปฏิเสธไม่ได้ว่า The Green Mile หนังดราม่าปี 1999 ยังคงเป็นหนึ่งในหนังสุดประทับใจปนเจ็บปวดในดวงใจใครหลายๆคน นี่คืองานกำกับของ Frank Darabont ตำนานผู้กำกับที่เคยทำให้ The Shawshank Redemption กลายมาเป็นหนังคลาสสิคที่ถูกเวทีรางวัลอย่าง Oscars เมิน เพราะในปีนั้นดูเหมือนหนังอย่าง Forrest Gump จะเฉิดฉายที่สุด ได้ทั้งกล่องทั้งเงิน ในขณะที่ The Green Mile ก็ทำเงินได้ไม่ถึงร้อยล้านทั่วโลก ทั้งที่หนังติดในทำเนียบ 100 หนังที่ควรดูก่อนตาย และมีคะแนนค่าเฉลี่ยสูงลิ่วใน IMDb

เมื่อเป็นเช่นนั้น Frank Darabont จึงคว้าเอา Tom Hanks มาเล่นหนังของเขามันซะเลย กับโปรเจกต์ที่สร้างจากนวนิยายของ Stephen King อีกครั้ง ไหนดูซิ พลังดาราใหญ่อย่าง Tom Hanks จะสามารถช่วยหนังดีๆของเขาได้ไหม แต่เมื่อหนังเข้าฉาย ดาราใหญ่ Tom Hanks ก็ช่วยเขาได้จริงๆ แต่ในอีกทางคนดูก็เอาแต่พูดถึงบท John Coffey ของ Michael Clarke Duncan ไม่ขาดปาก จนดูจะข่มๆดาราใหญ่อย่าง Tom Hanks เสียอีก

เดิมที Michael Clarke Duncan ไม่ได้อยู่ในรายชื่อนักแสดง แต่เป็นทางด้าน Shaquille O'Neal นักบาสเกตบอลชื่อดังคนนั้น ทว่าเขาปฏิเสธที่จะรับบทนี้เพราะไม่อยากเล่นบททาสผิวดำ นั่นทำให้ทีมงานต้องควานหาตัว John Coffey อย่างเร่งด่วน และรู้ไหมว่าดาราใหญ่อย่าง Bruce Willis คือผู้ที่ส่งตัว Michael Clarke Duncan มาให้ผู้กำกับ Frank Darabont จากการที่ Bruce Willis เป็นแฟนหนังสือของ Stephen King และเขาชื่นชอบมิตรสหายหุ่นหมี Michael Clarke Duncan ที่เคยร่วมงานกันในหนัง Armageddon

Frank Darabont เล่าไว้ในสารคดี Walking The Mile: The Making of The Green Mile อันพูดถึงเส้นทางการทำหนังเรื่องนี้ เขาเล่าว่า

" Willis อ่านหนังสือเหล่านี้แล้วและโทรมาบอกว่า 'ผมได้หมอนั่นที่จะมาเป็น John Coffey ของคุณแล้ว Michael Clarke Duncan คุณต้อง ให้เขาเข้ามาออดิชั่น'"

Duncan กล่าวว่าการออดิชั่นครั้งแรกของเขานั้นไม่ดีนัก แต่บทบาท John Coffey ที่เขาทดสอบไปนั้นไม่สามารถสลัดให้หลุดออกจากหัวเขาได้ เขาจึงขอมาออดิชั่นอีกครั้ง ในที่สุดโลกก็ได้รู้จัก Michael Clarke Duncan ในฐานะ John Coffey ชายรูปร่างน่ากลัวหัวใจเด็กที่คนดูต้องร้องไห้ให้เขา

Michael Clarke Duncan ต้องกล่าวขอบคุณ Larry Moss โค้ชการแสดงของเขาที่ช่วยเค้นศักยภาพออกมาชนิดที่เขาเองก็ไม่เคยคิดว่าเขาจะทำได้ เพราะด้วยคุณลักษณะของเขานั้น การได้เล่นเป็นตัวละครที่ดูน่ากลัวในหนังแอ็คชั่นฮอลลีวู้ด เท่านี้ก็ไกลเกินฝันแล้ว แต่การมาออดิชั่นเพื่อรับบท John Coffey นั้นต่างออกไป เพราะตัวละครตัวนี้มีจิตวิญญาณที่อ่อนไหวง่าย เขารู้สึกถึงความทุกข์และความเจ็บปวดที่ผู้คนใช้ก่อกวนซึ่งกันและกัน พรสวรรค์ในการเข้าอกเข้าใจอย่างบริสุทธิ์ของเขามันหมายถึงการที่เขาช่วยดูดซับความเจ็บปวดได้เหมือนฟองน้ำ(แต่สุดท้ายก็ตายเพราะฟองน้ำ) และความสามารถของเขาในการรักษาผู้อื่นคือคำสาปในหลายๆด้าน เพราะเขาไม่มีสวิตช์ปิด John Coffey ถูกหลอกหลอนโดยประวัติศาสตร์และความไร้มนุษยธรรมของมนุษยชาติ และเขาต้องแบกภาระอันเลวร้ายนั้นไว้บนบ่ากว้างๆของเขา โดยที่ตัวเขาเองยังไร้เดียงสา การเล่นเป็นตัวละครแบบนี้มักจะท้าทายอารมณ์และเหนื่อยล้าอยู่เสมอ

Larry Moss โค้ชการแสดงแนะนำ Michael Clarke Duncan ว่าหากเขาอยากเป็นเจ้าของบทนี้ เขาต้องหาตัวตนของเขาในวัย 5 ขวบให้เจอ ถ้าเขาอยากจะให้ความยุติธรรมกับตัวละคร John Coffey เพราะนั่นคืออายุมันสมองและจิตใจของตัวละครตัวนี้ แม้ว่าเขาจะอายุเยอะแล้วแต่เขายังเป็นเด็ก 5 ขวบ

Larry Moss บอกกับ Duncan ว่า

"บอกผมมา อะไรก็ได้ที่คุณจำได้เกี่ยวกับการเติบโตในชิคาโก กับพี่สาวและแม่ของคุณ ด้วยความยากจนแบบนั้น และไม่ว่ามันจะเจ็บปวดแค่ไหน ผมอยากให้คุณเล่าให้ผมฟัง"

Larry Moss เปิดเผยว่า Duncan เป็นชายดุดันที่มีอารมณ์อ่อนไหวไม่ต่างจาก John Coffey เลย เขาเล่าเรื่องสยองขวัญที่เกิดขึ้นจริงให้ฟัง และรู้ว่าหากเขาถ่ายทอดความเจ็บปวดแบบนั้นได้ เขาจะเป็นเจ้าของบทนี้ แล้วเขาก็ได้บทนี้มาจนได้ มันต่างจากการออดิชั่นครั้งแรกจากหน้ามือเป็นหลังเท้า

เมื่อได้บทมาครอบครองแล้ว ในการถ่ายทำในฉากดราม่าต่างๆ Michael Clarke Duncan มักคิดย้อนกลับไปตอนที่พ่อของเขาทิ้งเขาไปในวัยเด็ก นั่นทำให้เขาสามารถเค้นความเศร้าออกมาได้ดีจนในบางครั้งเขาได้ร้องไห้ออกมาด้วยซ้ำ ทว่าในบางฉากนั้นผู้กำกับไม่ได้ต้องการให้เขาร้องไห้นี่สิ

ที่ควรทราบอีกอย่างว่าทำไม Michael Clarke Duncan ไม่ได้ถูกเลือกให้รับบทตั้งแต่แรกก็คือ เขาสูงเพียง 6 ฟุต 5 นิ้ว เท่านั้น แต่ John Coffey ถูกอธิบายไว้ว่าสูงใหญ่น่ากลัว เขาสูง 7 ฟุต 2 นิ้ว น้ำหนักกว่า 400 ปอนด์ ซึ่งในเรื่องนั้น John Coffey ต้องสูงกว่าทุกๆคน ทว่านักแสดงบางคนก็สูงเช่นกัน อย่างเช่น David Morse สูง 6 ฟุต 4 นิว หรือ James Cromwell ก็สูง

6 ฟุต 6 นิ้ว ซึ่งสูงกว่า Duncan เสียอีก ดังนั้นทีมงานจึงต้องใช้เทคนิคต่างๆถ่ายทำออกมาให้ Duncan ดูสูงใหญ่น่ากลัวกว่าที่เป็น เตียงที่เขานอนก็ถูกย่อให้สั้นลง เพื่อที่ภาพจะได้ออกมาดูเหมือนว่าเขาตัวใหญ่จนนอนเตียงแทบไม่ได้ หรือการที่ให้ Duncan ยืนอยู่บนแท่นไม้ในตอนที่เข้าฉากกับทุกๆคน รวมไปจนถึงการที่ Tom Hanks ต้องลงไปยืนอยู่ในหลุมที่ทีมงานขุด เพื่อให้เขาได้เงยหน้าคุยกับ Duncan

และเรื่องตลกในกองถ่ายคือ Rodney Barnes ผู้ที่เล่นเป็นสแตนด์อินของ Michael Clarke Duncan นั้นคือแขกไม่ได้รับเชิญตั้งแต่แรก เขาไม่ได้เกี่ยวข้องกับหนังเรื่องนี้เลย แต่เขาแอบเข้าไปในกองถ่ายโดยซ่อนตัวอยู่ในรถขนอาหารกองถ่าย เพื่อที่ตนเองจะได้โผล่กลางกองแล้วของานทำ Frank Darabont ประหลาดใจและขำมาก และประทับใจในความพยายามของ Rodney Barnes จึงตัดสินใจจ้างเขาทั้งๆที่ไม่มีตำแหน่งว่างแล้ว ก็พอดีกับการที่บท John Coffey ต้องมีฉากเสี่ยงๆบางฉาก Darabont จึงจ้าง Barnes ให้มาเล่นเป็นสแตนด์อินแทน Barnes บอกว่าที่ทำแบบนี้เพราะเขาต้องการทำงานในหนังเรื่องนี้ ตำแหน่งไหนก็ได้ เพื่อที่เขาจะได้พบกับ Stephen King นักเขียนคนโปรดของเขา ผู้กำกับ Frank Darabont และทีมงานได้มารู้ทีหลังว่า Rodney Barnes คนนี้ไม่ใช่แค่ติ่งนิยาย Stephen King ที่แอบมาในกองธรรมดาๆ แต่เขาคือผู้ช่วยโปรดิวเซอร์ ผู้ช่วยผู้กำกับ และนักเขียนบทที่ทำงานในอุตสาหกรรมหนังในฮอลลีวู้ดนี่แหละ

The Green Mile กลายเป็นหนังที่ทำเงินไปได้ 286.8 ล้านเหรียญ จากทุนสร้าง 60 ล้านเหรียญ และส่งให้หนังได้เข้าชิง Oscars ทั้งหนังยอดเยี่ยม และ ดาราสมทบยอดเยี่ยม นั่นก็คือ Michael Clarke Duncan นั่นเอง แม้ว่าเขาจะล่วงลับไปแล้ว แต่บท John Coffey ของเขายังอยู่ในความทรงจำของคนดูตราบนานเท่านาน

 

อัลบั้มภาพ 6 ภาพ

อัลบั้มภาพ 6 ภาพ ของ Michael Clarke Duncan ได้บทในหนัง The Green Mile เพราะได้ Bruce Willis ช่วย โดย ตั๋วร้อนฯ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook