แทบเดินไม่ได้ "แจ๊ค แฟนฉัน" เป็นโรคไม่ร้าย แต่ทำลายโอกาสทอง

แจ๊ค แฟนฉัน มีปัญหาสุขภาพกวนใจ เป็นโรคไม่ร้าย แต่ทำลายโอกาสทอง พร้อมเผยเทคนิควางตัวให้เป็นที่รัก ของพี่น้องผองเพื่อนร่วมวงการ ไปไหนมาไหนได้รับการต้อนรับอบอุ่นเป็นกันเอง

เฉลิมพพล ทิฆัมพรธีวงศ์ หรือ "แจ๊ค แฟนฉัน" เปิดใจในวัย 33 ปี ว่า เขามีปัญหาสุขภาพกวนใจ

ดารามาดทะเล้น แจ้งเกิดในวงการจากภาพยนตร์เรื่อง "แฟนฉัน" บอกว่า เขาเป็นโรคเท้าแบน คือ ภาวะผิดปกติที่บริเวณอุ้งเท้า เวลาลงน้ำหนักรู้สึกเจ็บฝาเท้า และอุ้งเท้า แม้สวมใส่รองเท้าเฉพาะทางแก้รองช้ำ หรือรองเท้าที่สวมใส่สบายแล้วก็ตาม ในช่วงที่จำเป็นต้องเดินมาก นั่งพักแล้วลุกขึ้นเจ็บปวดแทบเดินไม่ได้

"เป็นโรคเท้าแบน โรคคนอ้วน ถ้าเดินเยอะๆ นั่งพักแล้วลุกขึ้น แทบจะเดินไม่ได้ ต้องใส่รองเท้ากันรองช้ำ หรือไม่ก็รองเท้าแตะ โรคเท้าแบนมันเป็นโรคที่แบบ ตอนตื่นนอนสังเกตเลย ถ้ารู้สึกเจ็บฝ่าเท้า อาการเริ่มแล้ว ตอนที่เป็นหนักๆ ไปหาหมอที่โรงพยาบาล หมอบอกว่าใช้เวลารักษาประมาณเดือนครึ่ง อาการจะดีขึ้น อาการเริ่มแล้ว ตอนนี้ดีขึ้นแล้ว"

แจ๊ค บอกต่อว่า แม้ภาวะเท้าแบน ไม่ใช่โรคร้าย แต่ก็ทำลายโอกาสในการรับงาน สร้างรายได้ ที่มีติดต่อเข้ามาต่อเนื่อง ยกตัวอย่าง เมื่อไม่นานมานี้ มีงานละครช่อง 3 เข้ามา ต้องจำใจปฏิเสธไป เพราะเป็นละครแนวพีเรียด ไม่สามารถใส่รองเท้าแก้อาการรองช้ำเข้าฉากได้

ช่วงนี้ว่า ยอมรับว่า เรื่อง "เท้า" มีส่วนในการตัดสินใจ รับหรือไม่รับงาน ยกตัวอย่างการตัดสินใจรับงานแสดงภาพยนตร์เรื่อง "Bad Boyz Band เด็กกว่าแล้วไง ก็หัวใจมัน I rock you" ผลงานล่าสุด เพราะได้ไฟเขียวจาก คุณยอด สุขวิวัฒน์ ผู้อำนวยการสร้าง และควบคุมการผลิต ตั๊ก-ฉันทนา ทิพย์ประชาติ ผู้กำกับฯ ให้ใส่รองเท้าแก้อาการรองช้ำเข้าฉากได้ และอีกเหตุลที่ตกลงรับเล่นหนังเรื่องนี้ เพราะอยากร่วมงานกับเด็กๆ

"ก่อนหน้านั้นมีละครเรื่องหนึ่งติดต่อเข้ามา สุขภาพเรามีปัญหา ภาวะเท้าแบน ละครช่อง 3 เป็นละครพีเรียด ซึ่งเราไม่สามารถเปลี่ยนรองเท้าได้ ก็เลยบอกกับทางผู้จัดไป ถ้าอย่างนั้นเอาอาไท (อาไท กลมกิ๊ก) ไปเล่นแทนแล้วกัน เพราะว่าผมต้องใส่รองเท้าเฉพาะแก้รองช้ำ ทุกวันนี้มีงานติดต่อเข้ามาบ่อย แต่จะรับงานที่ให้ใส่รองเท้าเฉพาะได้"

อย่างไรก็ดี แจ๊ค ได้พูดถึงงานแสดงภาพยนตร์เรื่องนี้ ที่สร้างโดย บริษัท ไรท์เตอร์ แล็ป จำกัด มีกำหนดเข้าฉาย 4 พ.ค.นี้ ว่า เขารับบทเป็นน้าโป่ง อดีตร็อคเกอร์รุ่นใหญ่ อาสาเข้ามาช่วยลูกๆ หลานๆ ตั้งวงดนตรี และช่วยฝึกปรือฝีมือ ตามฝันเป็นร็อคสตาร์

การได้ร่วมงานกับเด็กๆ ทำให้เขาได้หวนคิดถึงวันเก่าๆ สมัยเป็นเด็กแสดงภาพยนตร์เรื่องแฟนฉัน เมื่อ 20 ปีก่อน พร้อมทั้งชมนักแสดงเด็กเจนเนอเรชั่นนี้ มีความสามารถทางการแสดง มากกว่าสมัยตนเป็นเด็กมาก

"บทที่รับมีความคล้ายคลึงกับตัวตนที่แท้จริง เป็นคนชอบร้องเพลง และเล่นดนตรี บวกกับนักแสดงที่ร่วมเล่นด้วย เป็นเด็กแก๊งค์ที่เป็นลูกหลาน อยากประกวดวงดนตรี ทำให้หวนคิดถึงสมัยเป็นเด็ก แสดงภาพยนตร์เรื่อง แฟนฉัน ซึ่งเป็นก้าวสำคัญ ที่ทำให้มีชื่อเสียงโด่งดัง เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายมาจนถึงปัจจุบัน"

เมื่อถูกถามว่า ในฐานะที่เป็นหนังแสดงอยู่ในวงการภาพยนตร์มายาวนาน มีความคิดเห็นอย่างไรกับวงการภาพยนตร์ไทยในปัจจุบันนี้ แจ๊ค ตอบว่า

"ผมมองว่า ภาพยนตร์ไทยถ้ามีเวลา หรือมีงบประมาณสมน้ำสมเนื้อ ก็สร้างสรรค์ออกมาได้อย่างมีคุณภาพ แต่ถ้าเรื่องไหน มีเวลาในการสร้างน้อย ต้องเร่งรีบทำงาน งบประมาณน้อยเกินไป ผลลัพธ์ที่ออกมา และโอกาสในการฉายอาจจะสู้ที่อื่นไม่ได้ แต่ส่วนตัวก็อยากให้กำลังใจผู้สร้างหนังไทย เพราะผมก็โตมาจากหนังไทย"

นอกจากงานแสดง งานพิธีกร แจ๊ค แฟนฉัน ยังไปได้สวยกับการเป็นยูทูบเบอร์ คอนเทนต์ขอของดารา ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง เข้าออกบ้านพี่น้องผองเพื่อนได้สะดวกโยธิน ได้รับความรักและความเมตตา ไปไหนมาไหนได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นเป็นกันเอง

เมื่อถูกถาม วิธี หรือ เทคนิค การวางตัวให้เป็นที่รักของพี่น้องผองเพื่อนร่วมวงการ เขาตอบทิ้งท้ายการให้สัมภาษณ์ครั้งนี้ว่า

"ผมเกิดมาจากเด็กที่ไม่มีอะไรนะ ไม่มีบ้านไม่มีอะไร โตมาเจอใครก็จ๊ะจ๋า สนุกสนานไป ไม่ให้ร้ายใคร แล้วก็อย่าไปแบบเรื่องเยอะ รับผิดชอบหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดไป"