"พิษสวาท เดอะมิวสิคัล" กับ 5 สิ่งที่ทำให้คุณไม่ควรพลาดชมเรื่องนี้ (สปอยล์เล็กๆ) 

เป็นผลงานละครที่หลายคนจับตา พิษสวาท เดอะมิวสิคัล มาจาก บทประพันธ์ชื่อดังของ ทมยันตี และกลายเป็นละครที่สร้างปรากฏการณ์เรตติ้งในปี พ.ศ. 2559 ซึ่งการมาของละครเวทีเรื่องนี้ได้ทำให้หลายๆ คนจับตา จากเรื่องราวที่มีหลายยุค การตีความตัวละคร และฝีมือกับเสน่ห์ของนักแสดง ไปจนถึงโปรดักชั่นของทีมซีนาริโอที่เป็นผู้จัดละครเวทีแถวหน้า และมีความสำเร็จของงานก่อนหน้าเป็นเครื่องการันตี 

 

• เนื้อหาที่หลากหลาย เหมาะกับคนดูหลากวัย (และต่างชาติ) 

แม้จะมีเนื้อหาและคอนเทนต์ที่ดูหนักตอนอ่านเรื่องย่อ และบางคนอาจจะตัดสินใจมองข้าม เพราะกังวลว่าจะเป็นละครแนวผีที่ไม่เหมาะกับคนขวัญอ่อน แต่เมือเราชมละคร พิษสวาท มิวสิคัล เรื่องนี้ก็พบว่าเนื้อหาเรื่องนี้ไม่ได้หนักเกินกว่าคนดูอายุน้อยจะย่อย และขณะเดียวกันก็ไม่ได้น่ากลัว จนคนขวัญอ่อนดูไม่ได้ 

ทั้งนี้เนื้อหาละครเวทีพิษสวาท มิวสิคัล เป็นละครเวทีที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับความรัก และมีการสะท้อนสังคมการบ้านการเมืองในมุมคนที่ตักตวงผลประโยชน์และเงินทองเพื่อประโยชน์ส่วนตน และขณะเดียวกันก็มีเรื่องราวของมิตรภาพของอัคนีและเพื่อน ไปจนถึงประวัติศาสตร์ยุคก่อน และเรื่องเหนือธรรมชาติแบบกรุบๆ เรียกได้ว่าเป็นละครเวทีที่มีทุกอย่างสำหรับทุกคน และที่เราประทับใจคือ ละครเรื่องนี้มีซับภาษาอังกฤษขึ้นด้านข้าง จนเราประทับใจที่ทางทีมละครนี้ทำทุกอย่างแบบเต็มที่ในการไม่ทิ้งคนดูสักกลุ่มไว้เบื้องหลัง แต่ในรอบพรีวิวที่เราชมนั้นจะมีบางช่วงที่ซับขึ้นไม่ตรงกับการร้องและพูดบ้าง แต่ก็ไม่ได้ติดขัด

 

• เมื่อคนดูกลายเป็นอีกตัวละคร 

จากที่คุณ บอย-ถกลเกียรติ วีรวรรณ ได้เกริ่นไว้ว่าคนดูคือส่วนสำคัญ ซึ่งสิ่งที่เขาพูดก็ไม่ได้เกินจริง เพราะในเรื่องมีบางเหตุการณ์ที่ทำให้เรารู้สึกว่าตัวเราเหมือนมีส่วนร่วมกับเนื้อเรื่อง ทั้งในฐานะนักเรียนของอัคนี หรือผู้ชมงานที่เหล่าตัวละครมาเจอกัน และบางเหตุการณ์ก็เรียลจนเราเข้าใจว่าเป็นการผิดคิวจริงๆ ซึ่งเป็นประสบการณ์ที่ความบันเทิงรูปแบบอื่นๆ ลอกเลียนแบบได้ยาก จนเราอยากให้ทุกคนมาชมด้วยตาตัวเองในงาน และการมีอยู่ของคนดูในฮอลล์ก็เป็นเอเนอร์จี้ที่ดีสำหรับเหล่านักแสดงด้วย 

 

• ฉากอลังการเกินไซส์ละครเวที 

สำหรับเราแล้ว ความประทับใจแรกของโรงละครรัชดาลัยเธียเตอร์นั้น คือการเป็นฮอลล์ที่ดูจากภายนอกไม่ได้ใหญ่ แต่เมื่อละครพิษสวาทเริ่มเล่น เราก็พบว่าโรงละครแห่งนี้มีมากกว่าที่เห็น เพราะได้เห็นการจำลองฉากเมือง ยุคสมัยต่างๆ ไปจนถึงฉากสมบัติชาติซึ่งแต่ละฉากนั้นเปลี่ยนไปมาอย่างรวดเร็วและแทบไม่มีเดดแอร์ ซึ่งการเปลี่ยนหลายๆ ฉากก็ทำให้เราอดอุทานในใจไม่ได้ว่า “สิ่งนั้นมาได้ไงอะ?” จนเราอยากให้คุณลองไปดูให้เห็นกับตาตัวเอง 

 

• ดนตรีที่มีครบทุกซาวด์ ราวกับว่านี่คือคอนเสิร์ตในคราบละครเวที

ด้วยความที่พิษสวาทเป็นละครเวทีเกี่ยวกับภพชาติ ทำให้เรามั่นใจว่าจะได้ฟังเพลงไทยเดิม แต่เมื่อเราดูการแสดง เรากับพบว่าละครพิษสวาทมากับทุกแนวดนตรีจริง ทั้งซาวด์ไทยเดิม คลาสสิค หรือเพลงป็อป ไปจนถึงป็อปแดนซ์และความเป็นทีป็อปในบางซีนที่มีการเต้นด้วย บอกเลยว่าถ้าว่าด้วยซาวด์ดนตรีงานนี้คือมีเยอะกว่าหลากหลายคอนเสิร์ตเสียอีก

 

• นักแสดงที่เอาอยู่ทุกคน

ตั้งแต่ที่เราได้เห็นชื่อ แก้ม-กุลกรณ์พัชร์ เมอนาร์ด นักแสดงละครเวทีไทยที่ไปแสดงบนเวที เดอะ คิง แอนด์ ไอ (The King and I) ที่เปิดการแสดงในย่าน West End ของประเทศอังกฤษ เมื่อปี 2018 ทำให้เราสัมผัสได้ว่า พิษสวาท เดอะ มิวสิคัล นั้นมีตัวแม่ที่นำเรื่องและเอาอยู่แน่นอน ซึ่งการแสดงของเธอบนเวทีก็ไม่ทำให้เราผิดหวัง ทั้งการพูด การถ่ายทอดอารมณ์แบบเก็บทุกเม็ดและพลังเสียง ไม่ว่าจะบทของคุณ อุบล หรือ สโรชินี ในยุคปัจจุบัน หรือในบทน่าสงสารไปจนถึงความอาฆาต เรียกได้ว่าเป็นมาสเตอร์พีซของเธอเลย

ส่วนทางด้านของ ตู่-ภพธร สุนทรญาณกิจ พระเอกของเรื่องในบท อัคนี และ พระอรรค ก็ทำให้เราเซอร์ไพรส์กับฝีมือการแสดง และโทนเสียงที่สูงเวลาถ่ายทอดอารมณ์ของเขา ส่วน ดาว-ณัฐภัสสร สิมะเสถียร ในบทของ ทิพย์ ก็ทำให้เราลืมภาพสาวอารมณ์ดีตามรายการวาไรตี้ หรือสาวแซ่บในซีรีส์ไปเลย จนเราแอบรู้สึกสงสารไปกับเธอ (และหัวเราะกับฉากที่ลงไปนรกภูมิแบบเล็กน้อย) ขณะเรื่องการร้องของเธอก็ไม่ทำให้ผิดหวัง และทางด้านของ ชิน-ชินวุฒ อินทรคูสิน ในบทของเชษ ก็มีสีสันใหม่ๆ นอกเหนือจากการเป็นตัวสมทบที่หลายคนมักแซวจังหวะนรก เพราะเราเห็นโหมดร้องเต้นด้วย จนไม่แปลกใจเลยว่าทำไมชินถึงถูกเลือกมาสำหรับงานนี้ 

 

และในส่วนของคาแรคเตอร์ผู้ใหญ่ ตัวละครของพลโท อัครา ที่รับบทโดย ทนงศักดิ์ ศุภการ แม้จะออกมาไม่เยอะ แต่ก็มีอิมแพ็คและมีซีนระเบิดอารมณ์ที่ฉีกจากภาพช่วงเริ่มเรื่อง ในขณะที่ ชาย-ชาตโยดม หิรัณยัษฐิติ ในบทนักการเมืองตัวแสบขวัญใจผู้เลือกตั้งในเรื่องนั้น บอกเลยว่าเป็นลาสต์บอสในด้านการแสดง เพราะเขาค่อยๆ ไต่ลำดับความร้ายก่อนจะระเบิดปล่อยของช่วงท้ายจนได้รับเสียงปรบมือสนั่นฮอลล์

และนี่คือความประทับใจที่เรามีต่อละครพิษสวาท เดอะมิวสิคัล จนเราอยากบอกต่อให้ทุกคนไปชมกันจริงๆ ซึ่งตอนนี้แฟนๆ สามารถชมได้ถึงวันที่ 23 กรกฎาคมแล้ว และถ้าพลาดโอกาสนี้ไป คุณอาจจะต้องรออีกนานมากเลยเพื่อจะสัมผัสโอกาสพิเศษแบบนี้