Autumn In My Heart อาถรรพ์ซีรีส์ดัง ที่ 6 นักแสดงนำชีวิตดิ่งอย่างคาดไม่ถึง
Autumn In My Heart ซีรีส์ดังในอดีตที่ทุกคนเคยดู กับชีวิตนักแสดงนำทั้ง 6 คน มุนกึนยอง ซงฮเยคโย ซงซึงฮอน วอนบิน ฯลฯ ที่ไม่ราบรื่นประสบความสำเร็จในชีวิตอย่างที่หลายคนคิด
เชื่อได้ว่าหากถามว่าซีรีส์เกาหลีเรื่องแรกๆ ที่ทุกคนได้ดูคือเรื่องอะไร ต้องมีหลายคนที่ตอบว่าเรื่อง Autumn In My Heart แน่นอน ซีรีส์เรียกน้ำตาและแจ้งเกิดนักแสดงในเรื่องกันยกแก๊ง พลิกชีวิตทั้งนักแสดง และวงการบันเทิงเกาหลีในบ้านเราได้อย่างชัดเจน
แต่กลับกลายเป็นว่า นักแสดงในซีรีส์ Autumn In My Heart ที่คิดว่าน่าจะไปได้สวยในเส้นทางวงการแสดง กลับมีช่วงชีวิตแย่ๆ อันเลวร้าย และไม่น่าประทับใจอยู่ทุกคนเลยทีเดียว
Autumn In My Heart อาถรรพ์ซีรีส์ดัง ที่ 6 นักแสดงนำชีวิตดิ่งอย่างคาดไม่ถึง
มุนกึนยอง
มุนกึนยอง ในวัย 13 ปี รับบทเป็นนางเอกตอนเด็ก หลังซีรีส์ Autumn In My Heart ประสบความสำเร็จอย่างสูงทั้งในและนอกประเทศเกาหลี เธอก็ได้นำแสดงในหนังเรื่อง A Tale of Two Sisters ในปี 2003 รวมถึงซีรีส์รอมคอมที่เธอนำแสดงอย่าง My Little Bride ในปี 2010 แต่ละเรื่องล้วนประสบความสำเร็จและสร้างชื่อเสียงให้เธอสมกับฉายาที่เธอได้มาว่าเป็น “น้องสาวแห่งชาติเกาหลี”
จนกระทั่งในปี 2017 มุนกึนยอง ต้องหยุดงานไปพักใหญ่จากอาการของ ภาวะความดันในช่องปิดกล้ามเนื้อสูง (Compartment Syndrome) ทำให้เธอมีปวดแขนอย่างมาก และต้องยกเลิกงานโปรโมตละครเวทีเรื่อง Romeo & Juliet เพื่อเข้ารับการผ่าตัดทันที และต้องผ่าตัดอีกหลายต่อหลายครั้ง พักฟื้นอีกราว 7 เดือนกว่าเธอจะกลับมาร่วมงานในวงการบันเทิงได้อีกครั้ง เรียกได้ว่าจู่ๆ ชีวิตก็สะดุดในช่วงที่ชีวิตกำลังรุ่งโรจน์ด้านการงานเลยก็ว่าได้ และผลพวงจากการพักรักษาตัวเป็นเวลานาน บวกกับผลข้างเคียงจากการรักษาโรค ทำให้เธอมีน้ำหนักตัวที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้เธอพลาดโอกาสในการได้รับงานแสดงอยู่นาน จนกระทั่งปี 2019 หลังจากที่ไม่มีงานแสดงมา 2 ปี เธอได้กลับมาแสดงซีรีส์อีกครั้งในเรื่อง Catch the Ghost ผลงานของเธอยังทำออกมาได้ดีเช่นเคย แต่ความนิยมและความโด่งดังของเธอก็หดหายไปตามกาลเวลาแล้วเรียบร้อย
ชเวอูฮยอค
ชเวอูฮยอค รับบทเป็นพระเอกในตอนเด็กของเรื่อง Autumn In My Heart ในขณะที่เขาอายุได้ 15 ปี แต่หลังจากที่เขามีผลงานใหม่ทั้งภาพยนตร์และซีรีส์อีกเพียง 4 เรื่อง เขาก็ต้องเข้ากรม และหลังจากเขารับใช้ชาติเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว เขาได้ร่วมแสดงในซีรีส์ Empress Cheonchu ในปี 2009 แค่เรื่องเดียว ก่อนที่จะประกาศขอออกจากวงการบันเทิงด้วยวัย 24 ปีเท่านั้น
เหตุผลจริงๆ ของเขาในการออกจากวงการบันเทิง เพราะเขายอมรับว่าเขาเข้าวงการบันเทิงตั้งแต่แรกจากแรงผลักดันของพ่อแม่ ตัวเขาเองจริงๆ ไม่เคยคิดจะอยู่ทำงานในวงการบันเทิงไปตลอดชีวิต การเป็นนักแสดงไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการ ดังนั้นเขาจึงเลือกที่จะออกจากวงการบันเทิงโดยสิ้นเชิงนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
อีแอจอง
อีแอจอง นักแสดงเด็กอีกคนในบทบาทของตัวอิจฉาในเรื่อง Autumn In My Heart เด็กนิสัยเสียที่ถูกสลับบ้านมาเลี้ยงกับนางเอก ด้วยฝีไม้ลายมือในการแสดงที่โดดเด่นไม่เป็นสองรองใครในเรื่อง ทำให้เธอเป็นที่จดจำของผู้ชมทั้งในเกาหลีและต่างประเทศมากมาย และได้มีผลงานอย่างต่อเนื่อง ทั้ง Four Sisters (2001), Beautiful Days (2001) และ Jump (2005)
แต่ชีวิตของเธอกลับต้องเผชิญกับเรื่องโชคร้าย เมื่อเธออายุได้ 19 ปีและเข้าเรียนเทอมแรกในมหาวิทยาลัยฮันยางในปี 2006 เธอกลับถูกวินิจฉัยว่าเป็นโรคเนื้องอกในสมอง เธอเข้ารับการผ่าตัดถึงสองครั้ง ก่อนที่สุดท้ายเธอจะเสียชีวิตในปี 2007 ด้วยวัยเพียง 20 ปีเท่านั้น
ซงซึงฮอน
ซงซึงฮอน โด่งดังจนติดอันดับพระเอกยอดนิยมของชาวเกาหลีตั้งแต่มีชื่อเสียงจากซีรีส์ Autumn In My Heart ในปี 2000 และได้รับงานดี ทั้งในเกาหลีและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง รวมถึงภาพยนตร์เรื่อง So Close ที่ได้เล่นประกบกับดาราฮ่องกงชื่อดังที่ชาวไทยรู้จักกันดีอย่าง ซูฉี, จ้าวเหว่ย และ คาเรน ม็อก ในปี 2002 แต่หลังจากเขามีชื่ออยู่โปรเจกต์ซีรีส์เรื่อง Sad Love Story ในปี 2004 เขากลับมีชื่อเสียงในด้านลบหลังจากมีข่าวลือว่าเขาส่งตัวอย่างปัสสาวะปลอมให้กับทางกองทัพ เพื่อยืนยันว่าเขาเป็นโรคร้ายที่ส่งผลต่อสุขภาพของเขาจนไม่สามารถเข้ารับใช้ชาติได้ เมื่อกองทัพทราบเรื่องจึงเรียกตัวเขาเข้ารับใช้ชาติทันที โดยที่ทางทีมงานซีรีส์และต้นสังกัดของเขาไม่สามารถขอผ่อนผันใดๆ ให้เขาได้
หลังจากที่เขาเข้ารับใช้ชาติกะทันหันไป 2 ปี บวกกับชื่อเสียงแย่จากข่าวลือดังกล่าว แม้ว่าเขาจะกลับมารับงานในวงการบันเทิงอย่างต่อเนื่อง และได้รับรางวัลจากผลงานแสดงอยู่บ้าง แต่ผลงานของเขาก็ไม่ได้สร้างชื่อหรือได้รับความนิยมจากคนทั่วไปมากเหมือนแต่ก่อน เขารับบทที่ต้องแสดงอารมณ์รุนแรงใน East of Eden (2008) รวมถึงฉากอีโรติกอยู่หลายเรื่อง เช่น Obsessed (2014) และเขาก็ต้องขยับไปรับบทที่โตมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะอายุเข้าเลข 40 แล้วด้วยนั่นเอง เรียกได้ว่าเหตุการณ์เข้ากรมกะทันหันคราวนั้นเปลี่ยนชีวิตในวงการแสดงของเขาไปไม่น้อยทีเดียว
ซงฮเยคโย
ซงฮเยคโย ขึ้นแท่นนางเอกแนวหน้าของวงการบันเทิงเกาหลี และได้รับความนิยมอยู่เรื่อยๆ หลังจบซีรีส์ Autumn In My Heart ก็รับงานแสดงและพรีเซนเตอร์แบรนด์ต่างๆ มีผลงานประกบพระเอกชื่อดังมากมาย เช่น Hotelier (2001) คู่กับแบยองจุน, All In (2003) คู่กับอีบยองฮอน, Full House (2004) คู่กับเรน, That Winter, the Wind Blows (2013) คู่กับโจอินซอง, Descendants of the Sun (2016) คู่กับซงจุงกิ, Encounter (2018) กับโบกอม และ Now, We Are Breaking Up (2021) คู่กับจางกียง เรียกได้ว่าเธอมีผลงานกับพระเอกระดับท็อปทั่ววงการบันเทิงเกาหลี และยังคงรับบทนางเอกตลอดกาลไม่ขยับไปเล่นบทแม่เหมือนนักแสดงร่วมรุ่นของเธอแต่อย่างใด
แต่ชีวิตของเธอกลับต้องมาสะดุดครั้งใหญ่ เมื่อเธอถูกตั้งข้อหาเลี่ยงภาษี และถูกรัฐบาลเกาหลีเรียกภาษีย้อนหลังเป็นมูลค่ากว่า 2,560 ล้านวอน หรือราวๆ 68-70 ล้านบาท และเธอต้องออกมาขอโทษต่อหน้าสาธารณะว่าเธอไม่ได้ตั้งใจจะเลี่ยงภาษี แต่เป็นความผิดพลาดที่เกิดขึ้นจากการจัดการเรื่องเงินส่วนตัวของเธอเอง
นอกจากนี้ เมื่อเธอแต่งงานกับซงจุงกิในปี 2017 หลังจากที่ทั้งคู่พบรักกันในในกองถ่ายซีรีส์ Descendants of the Sun แต่ชีวิตรักของเธอไม่ราบรื่นและเป็นชีวิตคู่ในฝันอย่างที่หลายๆ คนคิด หลังแต่งงานไปได้เพียง 2 ปี ในปี 2019 ซงจุงกิยื่นฟ้องหย่ากับเธอ นอกจากต้องเลิกกับสามีแล้ว เธอยังเจอกับคอมเมนต์หมิ่นประมาทโจมตีเธอสารพัดจนเธอต้องให้ทนายช่วยจัดการ
แต่หลังจากนั้นสักพัก ซงฮเยคโย กลับมายืนชั้นแนวหน้าของวงการบันเทิงเกาหลีอย่างเต็มภาคภูมิอีกครั้งหลังจากได้รับบทนางเอกประคบคู่พระเอกรุ่นน้องอย่าง อีโดฮยอน ในซีรีส์ของ Netflix เรื่อง The Glory นับว่าประตูแห่งโชคชะตาเริ่มเปิดให้กับชีวิตของเธอ ทำให้ซงฮเยคโยขึ้นไปรับรางวัลนักแสดงหญิงยอดเยี่ยมจากหลายเวทีทั้งน้ำตาเลยทีเดียว
วอนบิน
วอนบิน พระรองสุดหล่อขวัญใจสาวๆ ใน Autumn In My Heart ปี 2000 แม้ว่าหลังจากผลงานเรื่องนั้น เขายังมีผลงานต่อมาอีกเรื่อยๆ เช่น ซีรีส์ Friends (2002) และภาพยนตร์เรื่อง Guns and Talks (2001), Taegukgi (2004), My Brother (2004), Mother (2009) และ The Man From Nowhere (2010) แต่หลังจากปี 2010 เป็นต้นมา เขาก็ไม่มีงานแสดงให้เห็นอีกเลย
จุดที่ทำให้ชีวิตสายนักแสดงของเขาต้องสะดุด เป็นเพราะเขาต้องเข้ารับใช้ชาติในเดือนพฤศจิกายน 2005 ก่อนที่เขาจะหยุดปฏิบัติหน้าที่กลางคันเพราะได้รับบาดเจ็บที่เอ็นไขว้หน้า เขาเข้ารับการผ่าตัดก่อนปลดประจำการอย่างเป็นทางการในปี 2007 แต่เขายังต้องเข้ารับการรักษาด้วยวิธีกายภาพบำบัดอยู่นานอีกเป็นปีถึงจะหายบาดเจ็บจริงๆ โดยผลงานทิ้งท้ายหลังอาการบาดเจ็บของเขาคือภาพยนตร์เรื่อง Mother (2009) และ The Man From Nowhere (2010)
อย่างไรก็ตาม ใช่ว่าเขาจะไม่ได้รับโอกาสในการรับงานแสดงแต่อย่างใด ในทางตรงกันข้าม วอนบินได้รับการเสนอให้แสดงในหลายๆ เรื่อง ทั้งภาพยนตร์และซีรีส์ แต่เป็นเขาเองที่ปฏิเสธที่จะรับบทนั้นๆ ด้วยเหตุผลส่วนตัว และเขาก็ไม่มีผลงานการแสดงอีกเลยนับตั้งแต่ปี 2010 เป็นต้นมา สร้างความเสียดายให้กับแฟนๆ เป็นอย่างมาก แต่ไม่ต้องเป็นห่วง วอนบินยังคงรับงานพรีเซนเตอร์ และงานในวงการบันเทิงด้านอื่นๆ รวมถึงใช้ชีวิตอย่างมีความสุขกับครอบครัวอย่างเงียบๆ
อัลบั้มภาพ 16 ภาพ