Jean-Claude Van Damme เกือบได้เข้าร่วมครอบครัว แต่ Vin Diesel ไม่ต้องการ

ในขณะที่ดาราหลายๆคนที่ถูกเชื้อเชิญเข้าร่วมจักรวาลเป็นครอบครัวในหนังแฟรนไชส์อย่าง Fast & Furious ล้วนแล้วแต่โด่งดัง มีงานต่อยอดไปเรื่องอื่นๆ บางคนที่กระแสตกไปแล้วแทบจะลงไปเล่นหนังเกรด B ก็พลิกฟื้นกลับมาได้เพราะ Fast

แต่สำหรับอดีตดาวบู๊ดังยุค 80-90 ที่ตอนนี้เขาก็ยังเล่นหนังแอ็คชั่นเกรดรองอยู่อย่าง Jean-Claude Van Damme ก็เกือบได้โอกาสที่ว่านั้น เพราะชื่อเขาถูกยกขึ้นมาในที่ประชุมว่าน่าสนใจที่จะนำมาร่วมแสดงในหนัง Fast & Furious จากการให้สัมภาษณ์กับ The Telegraph เขาได้เปิดเผยเรื่องนี้ว่า

" พวกเขาต้องการให้ผมแสดงใน Fast & Furious แต่ Vin Diesel กลับพูดว่า 'ไม่ ผมไม่ต้องการเขา'”

นั่นทำให้ดาวบู๊เตะสวยอดที่จะกลับมาผงาดอีกครั้งในหนังฟอร์มยักษ์ แล้วกลับไปทำหนังบู๊เกรดรองตามเดิม แต่ดูเหมือนว่า Jean-Claude Van Damme เองก็มีความสุขดีกับสิ่งที่เป็น เพราะงานยุคหลังๆที่ทำกับสตรีมมิ่ง ก็ถือเป็นงานที่ดูสนุกเพลินๆ ต่างจากหนังแผ่นที่เขาเล่นในช่วงยุค 2000 อย่างลิบลับ ยกตัวอย่างเช่นซีรีส์ Jean-Claude Van Johnson ของ Amazon Prime Video ที่มาในรูปแบบแอ็คชั่น-คอมเมดี้ ล้อเลียนตัวเอง และหนังอย่าง The Last Mercenary ที่ทำให้ Netflix

Jean-Claude Van Damme ไม่ได้เปิดเผยว่า Fast & Furious ภาคใดที่เขาเกือบได้เล่น แต่เมื่อพูดถึงหนังฟอร์มใหญ่แล้ว เขาก็เคยกลับมาในหนังรวมดาวบู๊รุ่นเก๋าอย่าง The Expendables 2 และแฟนๆก็ชอบใจบทบาทวายร้ายของเขา ซึ่ง Sylvester Stallone ที่ในขณะนั้นได้ให้โอกาสเขาเป็นส่วนหนึ่งในหนัง และถึงแม้ตัวละคร Jean Vilain ของเขาจะตายไปแล้ว ทว่า Sylvester Stallone ก็เคยบอกว่าอยากให้เขากลับมาอีกในรูปแบบพี่น้องฝาแฝด

Jean-Claude Van Damme ได้พูดถึงเรื่องการมีอยู่ของดาราหนังแอ็คชั่นแบบ Old School อย่างเขา เปรียบเปรยกับการขับรถว่า

“ผู้คนขับ Tesla บนหน้าจอ CGI ที่สวยงามและสมบูรณ์แบบ และบางทีบางคนก็อยากกลับไปใช้คันเกียร์บ้างในบางคราว คุณรู้ไหมว่าผมพูดอะไร มันเป็นอุปมา? ผมคือเกียร์กระปุก”

สำหรับคอหนังแอ็คชั่นยุค 80-90 จะรู้จัก Jean-Claude Van Damme กันดีในฐานะดาวบู๊ค่าตัวสูงที่มีลูกเตะและท่าฉีกขาอันเป็นเอกลักษณ์ เขามีงานในความทรงจำมากมาย อาทิ Universal Soldier , Bloodsport , Kickboxer , Hard Target , Street Fighter และอีกมากมาย แต่ด้วยเทรนด์การดูหนังที่เปลี่ยนไป บวกกับเรื่องส่วนตัวที่ไม่ค่อยจะสบอารมณ์ค่ายหนังสักเท่าไหร่ ทำให้เขาหล่นจากบัลลังก์ดาวบู๊ลงไปเล่นหนังเกรดรองในที่สุด