รีวิว The Hunger Games: The Ballad of Songbirds & Snakes ตื่นเต้น น่าติดตาม ไม่จำเจ
รีวิว The Hunger Games: The Ballad of Songbirds & Snakes เนื้อเรื่องชวนติดตาม ไม่เน้นแอ็กชั่น แต่เน้นเนื้อเรื่องที่ชวนติดตาม ชนิดที่ต้องกราบผู้แต่งนิยายต้นฉบับ
เรื่องย่อ The Hunger Games: The Ballad of Songbirds & Snakes
The Hunger Games: The Ballad of Songbirds and Snakes เป็นเรื่องราวที่ย้อนไปในช่วง 64 ปีก่อนที่ทั้งโลกได้รู้จักกับ แคทนิส เอเวอร์ดีน พร้อมกับเหล่าตัวละครชุดใหม่ที่ต่างเป็นกุญแจสำคัญในเหตุการณ์การแข่งขันเดอะ ฮังเกอร์ เกมส์ ครั้งที่ 10 หรือเกมล่าชีวิตที่ไม่มีใครเคยเห็น เต็มไปด้วยความเข้มข้นและโหดร้ายกว่าครั้งไหน นำโดย ลูซี่ เกรย์ (เรเชล เซกเลอร์) เด็กสาวบรรณาการจากเขต 12 และ คอริโอลานุส สโนว์ (ทอม บลายธ์) พี่เลี้ยงคนสำคัญของลูซี่ ที่จับมือกันเตรียมเดินเข้าสู่อารีนาเกมล่าชีวิตครั้งที่ 10 เกมที่ยังไม่มีใครในโลกเคยเห็นกับตา และจะเป็นเกมที่เดิมพันอนาคตผู้คนทั้งพาเน็ม ความสัมพันธ์ทั้งสองเริ่มก่อตัวท่ามกลางเกมที่มีชีวิตเป็นเดิมพัน และยังเป็นการเปิดอารีนาการแข่งขันฮังเกอร์ เกมส์ ซึ่งเต็มไปด้วยความอำมหิตและไร้ปราณีที่โลกไม่เคยเห็น
รายชื่อนักแสดง The Hunger Games: The Ballad of Songbirds & Snakes
- ทอม บลายธ์
- เรเชล เซกเลอร์
- จอช แอนเดรส ริเวรา
- ฮันเตอร์ เชเฟอร์
- ปีเตอร์ ดิงก์เลจ
- วิโอลา เดวิส
- เจสัน ชวาตซ์แมน
ความน่าสนใจของ The Hunger Games: The Ballad of Songbirds & Snakes
เป็นเรื่องที่น่าสนใจอย่างมากสำหรับแฟนๆ ของภาพยนตร์ The Hunger Games เพราะน่าจะเกือบทุกคนที่อยากรู้ว่า การแข่งขันอัดโหดร้ายอย่าง The Hunger Game มีต้นกำเนิดเกิดขึ้นมาได้อย่างไร ใครเป็นคนออกไอเดีย และเรื่องราวของการแข่งขันครั้งแรกเป็นอย่างไรบ้าง ซึ่งในภาพยนตร์เรื่องนี้เล่าถึงชีวิตของ คอริโอลานุส สโนว์ ก่อนที่จะมาเป็นประธานาธิบดีสโนว์ใน The Hunger Games ทั้งสามภาค ว่าในอดีตสมัยวัยรุ่นเขาเป็นคนอย่างไร และเข้ามาเป็นประธานาธิบดีสโนว์ได้อย่างไร
ซึ่งไม่เพียงแค่ได้ทำความรู้จักกับเขาในฐานะมนุษย์ธรรมดาๆ คนหนึ่งที่มีทั้งด้านดีและด้านชั่วร้ายเหมือนกับคนอื่นๆ แล้ว แต่ยังได้เห็นด้านอารมณ์ที่อ่อนไหวของเขา ในการเป็นพี่เลี้ยงให้กับหญิงสาวจากเขต 12 ที่เขายอมแลกชีวิตเพื่อช่วยเหลือเธอให้รอดพ้นจากเกมชีวิตนี้ได้อีกด้วย
เรื่องราวไม่ได้ซับซ้อนซ่อนเงื่อนจนยากแก่การเข้าใจ แต่เล่าให้เห็นถึงความผิดชอบชั่วดี ความโลภ ความเป็นมนุษย์ของตัวละครแต่ละตัวได้เป็นอย่างดี เนื้อเรื่องพลิกผันหลากหลายอารมณ์ มีทั้งช่วงตื่นเต้นเอาใจช่วย ช่วงสงสารกับชะตากรรมของตัวละคร รวมถึงช่วงเซอร์ไพรส์ที่ไม่คิดว่าตัวละครจะกระทำเรื่องราวเหล่านั้น แต่สุดท้ายกลายเป็นบทสรุปความเป็นประธานาธิบดีสโนว์ที่ทุกคนรู้จัก ต้องกราบ Suzanne Collins นักแต่งนิยาย The Hunger Games ที่เขียนเรื่องราวและลงรายละเอียดของตัวละครแต่ละตัวได้อย่างน่าสนใจจริงๆ
จุดที่น่าสังเกตของ The Hunger Games: The Ballad of Songbirds & Snakes
ระหว่างที่ชมภาพยนตร์ ส่วนตัวรู้สึกว่าเป็นภาพยนตร์ที่ค่อนข้างยาว และเล่าเรื่องอย่างเรียบง่าย เล่าตรงๆ ไม่อ้อมค้อม ไม่มีเทคนิคการเล่าเรื่องที่หวือหวา ทั้งเรื่องต้องยกความดีความงามให้กับเนื้อเรื่องต้นฉบับที่แต่งเอาไว้ได้อย่างชาญฉลาด และด้วยตัวละครที่มากมายอาจจะทำให้ไม่ได้เล่าถึงรายละเอียดที่บ่งบอกลักษณะนิสัยของแต่ละคนได้มากนัก ทำให้คนดูรู้จักตัวละครอย่างแท้จริงแค่ตัวละครหลักไม่กี่คนเท่านั้น ซึ่งอาจเป็นเรื่องที่น่าเสียดายที่มักจะเป็นข้อจำกัดของการนำนิยายมาทำเป็นเวอร์ชั่นภาพยนตร์ที่ต้องยอมเสียรายละเอียดบางส่วนออกไป แต่ส่วนตัวคิดว่าหากใครไม่ได้อ่านนิยายมา การดูภาพยนตร์ก็ได้รับอรรถรสของเนื้อเรื่องได้มากจนทำให้เข้าใจพื้นเพต่างๆ ของตัวละครได้ไม่น้อยอยู่เหมือนกัน
นอกจากนี้ ฉากร้องเพลงของนางเอก หากใครไม่อินกับละครเพลง อาจจะมีช่วงเบื่อๆ บ้าง แต่ตามชื่อเรื่อง The Ballad of Songbirds เพลงเป็นส่วนสำคัญในการเล่าเรื่องของภาคนี้ (เรเชล เซกเลอร์ ร้องเพลงดีมากจริงๆ) อาจไม่มีฉากแอ็กชั่นให้หายใจหายคอไม่ทั่วท้องเหมือนภาคเก่าๆ มากนัก แต่ความดราม่าเข้มข้นจนทำให้นั่งไม่ติดเก้าอี้ได้เหมือนเดิมแน่นอน
The Hunger Games: The Ballad of Songbirds & Snakes เหมาะกับใคร
แน่นอนอยู่แล้วว่าหากคุณเป็นแฟนภาพยนตร์ The Hunger Games แม้ว่าจะเป็นภาคที่ไม่มีตัวละครดังอย่าง แคทนิส แต่มีการพูดถึงในเรื่องนี้ให้ได้ชื่นใจกันนิดหน่อยแน่นอน และหากใครที่ยังไม่เคยชมภาพยนตร์ The Hunger Games มาก่อน การเริ่มต้นด้วยภาคนี้ก็ทำให้เข้าใจต้นกำเนิดของเกม แล้วสามารถดู The Hunger Games ภาค 1, 2, 3 ต่อได้แบบสบายๆ เช่นกัน
The Hunger Games: The Ballad of Songbirds & Snakes สนุกไหม
ส่วนตัวชอบเนื้อเรื่องของภาคนี้มาก ที่เล่าเรื่องราวแสดงให้เห็นถึงนิสัยมนุษย์ได้ในหลายๆ ด้าน คนดี คนเลว คนที่อยู่ในระดับที่สูงกว่า คนที่ถูกใช้เป็นเบี้ยล่าง คนที่เป็นแกะดำในสังคมชั้นสูง คนที่ต่อสู้กับอำนาจมืด คนที่มีใจอยากผดุงความยุติธรรม ที่สุดท้ายพ่ายแพ้ให้กับพลังของอำนาจบารมี เราได้เห็นการเติบโต การเปลี่ยนแปลงของตัวละครที่ค่อยๆ เริ่มจากสีขาว ถูกแต่งแต้มสีดำอย่างช้าๆ จากคนรอบตัวอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ จนในที่สุดแกะขาวก็ถูกย้อมสีจนกลายเป็นแกะสีดำเหมือนแกะตัวอื่นๆ โดยสมบูรณ์แบบ ความเดาไม่ได้ของเนื้อเรื่องตั้งแต่ต้นจนจบ สิ่งเหล่านี้ทำให้ประทับใจมากๆ ให้คะแนน 8/10 ได้สบายๆ
ชมภาพยนตร์ The Hunger Games: The Ballad of Songbirds & Snakes ได้แล้ววันนี้ที่โรงภาพยนตร์
อัลบั้มภาพ 16 ภาพ