ผู้กำกับ "47 Ronin" ผลาญเงินทุนทำซีรีส์ของ Netflix ไปกับการเล่นหุ้นและคริปโต

กำลังกลายเป็นประเด็นร้อนสำหรับผู้กำกับ Carl Rinsch เจ้าของผลงานหนังซามูไรอย่าง 47 Ronin ปี 2013 ที่ได้รับโอกาสทำซีรีส์ไซไฟเรื่อง Conquest โดยทาง Netflix เล็งเห็นว่านี่คือซีรีส์ที่มีศักยภาพเทียบเท่าซีรีส์ดังอย่าง Stranger Things

จุดกำเนิดซีรีส์นี้มาจากการที่ Carl Rinsch ปั้นโปรเจกต์หนังที่มีชื่อว่า White Horse ในปี 2014 หลังจากเจ๊งบ๊งไปกับ 47 Ronin เป็นการระดมทุนของเขาเอง ซึ่งโปรเจกต์ White Horse ได้เริ่มถ่ายทำกันไปบ้างแล้ว ท่ามกลางข่าวลือว่านักแสดงในหนังถูกใช้งานอย่างทรหดมากจนป่วยเข้าโรงพยาบาล

เมื่อโปรเจกต์ White Horse แขวนอยู่บนเส้นด้าย เพราะไม่มีเงินพัฒนาต่อ ผู้กำกับ Carl Rinsch จึงเริ่มระดมทุนใหม่ โดยมีทั้งเพื่อนของเขา และสตูดิโอ 30West ที่สนใจร่วมลงทุน ไม่เว้นแม้กระทั่งพระเอกอย่าง Keanu Reeves เองก็ควักกระเป๋าให้ตามประสาพระเอกแสนดี

เวลาต่อมาสตูดิโอ 30West ได้ถอนตัวออกไปแบบคาราคาซัง ทาง Netflix ได้เล็งเห็นศักยภาพ จึงเข้ามาเจรจาซื้อโปรเจกต์นี้ไว้ และต่อมา Netflix ได้สั่งให้ Carl Rinsch ปั้นให้มันเป็นซีรีส์หลายตอน โดยได้จ่ายเงินล่วงหน้าไปกว่า 14 ล้านเหรียญ ให้ทั้งผู้กำกับและสตูดิโอเดิมอย่าง 30West

แต่ดูเหมือนโปรเจกต์จะไม่คืบเท่าไหร่นัก Netflix จึงให้โอกาสผู้กำกับเป็นครั้งสุดท้ายในการเริ่มโปรเจกต์นี้ โดยที่ในสัญญาระบุว่า นักแสดงสาวอย่าง Gabriela Rosés Bentancor อดีตภรรยาของผู้กำกับต้องมีส่วนร่วมในโปรเจกต์นี้ รวมถึงภาคแยกในอนาคตอีกด้วย ซีรีส์ถูกเปลี่ยนชื่อเป็น Conquest ในที่สุด และ Netflix จ่ายเงินเพิ่มไปอีกจนจบลงที่งบ 44.3 ล้านเหรียญในที่สุด

ดูเหมือนจะไปได้สวย แต่มีข่าวลือว่าสุขภาพจิตของ Carl Rinsch ย่ำแย่ ซึ่งเกิดในช่วงโควิด-19 ระบาดหนัก ส่งผลให้เขาทำร้ายภรรยาตนเอง และปฏิบัติตัวแย่ๆกับนักแสดงที่ร่วมงาน รวมถึงการที่เขามีทฤษฎีทำนายอนาคตเกี่ยวกับโลกในภาวะวิกฤติ นั่นทำให้เขาเริ่มใช้จ่ายเงินทุนที่ Netflix จ่ายให้เขาไปกับการเล่นหุ้นกับบริษัทยา จนขาดทุนเละเทะ แต่เขาก็พลิกฟื้นการลงทุนมาได้กับการลงทุนคริปโต Dogecoin ไปกว่า 4 ล้านเหรียญ และได้คืนมากว่า 27 ล้านเหรียญ เขาใช้เงินไปกับชีวิตหรูหรา เช่นการซื้อรถหรู Ferrari และ Rolls-Royces รวมกันจำนวน 5 คัน รวมมูลค่ากว่า 8.7 ล้านเหรียญ

มีรายงานว่า Netflix ไม่ได้ปรึกษา Scott Stuber โปรดิวเซอร์ผู้เชี่ยวชาญแห่ง Universal Pictures ที่เคยปะทะโดยตรงกับผู้กำกับ Carl Rinsch มาแล้วตอนทำหนัง 47 Ronin ซึ่งจะเป็นที่ทราบกันดีว่าผู้กำกับรายนี้มีข่าวลือในแง่ลบมากมาย แต่เงินทุน 44.3 ล้านเหรียญ ที่จ่ายไปมันก็ควรต้องได้งาน Netflix จึงทวงถามความคืบหน้าของซีรีส์ แต่ก็ยังไร้วี่แวว และในเดือนมีนาคม 2020 ทาง Carl Rinsch ได้ยื่นขอทุนเพิ่มจาก Netflix จำนวน 11 ล้าน เพื่อเริ่มดำเนินการถ่ายทำซีรีส์เจ้าปัญหานี้ และ Netflix ก็ยอมจ่ายส่วนหนึ่งตามคำขอ รวมทั้งสิ้น Netflix ควักกระเป๋าไป 61 ล้านเหรียญ ให้กับซีรีส์ Conquest เรื่องนี้

ปี 2023 ท่ามกลางการยกเลิกหนังและซีรีส์มากมายของ Netflix ไม่ว่าจะเป็น Shadow and Bone ของ Netflix และ Coyote vs. Acme ของพันธมิตรอย่าง Warner Bros. ก็ถูกระงับสร้าง และโปรดิวเซอร์ที่เกี่ยวข้องในโครงการอย่างน้อยสองคนจะถูกเด้งออกจากบอร์ดบริหาร Netflix

และในที่สุด Thomas Cherian โฆษกของ Netflix ได้ออกมาบอกกับสื่อ The New York Times ว่าได้ตัดซีรีส์ Conquest ออกจากสารบบแล้วเช่นกัน โดยกล่าวอย่างเจ็บปวดว่า Carl Rinsch ไม่มีทางทำซีรีส์เรื่องนี้ออกมาได้แน่นอน จากการยื้อเวลาและผลาญทุนของเขา บวกกับสุขภาพจิตด้วย ทางฝั่ง Carl Rinsch ปฏิเสธที่จะตอบคำถามของ Times เมื่อได้รับการติดต่อเพื่อแสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้

The New York Times รายงานว่าคดีความระหว่าง Carl Rinsch กับ Netflix กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาคดีโดยอนุญาโตตุลาการ(หนึ่งในกระบวนการ การระงับข้อพิพาท) ที่เป็นความลับ เพราะทางฝั่ง Carl Rinsch จะฟ้อง Netflix กลับ โดยอ้างว่า Netflix เป็นหนี้เขาอย่างน้อยอีก 14 ล้านเหรียญ และเขายืนกรานว่าเขาไม่ได้มีปัญหาสุขภาพจิตอย่างที่ลือกัน