เปิดอก แม่หน่อย สูบเงินจัดผู้ชายให้ลูก จริงหรือ!!

เข้าวงการมาได้ไม่กี่ปี จากครอบครัวตัวอย่าง ตอนนี้กลายเป็นที่เม้าท์กันมันปากซะแล้วค่ะว่า จริงๆ แล้วครอบครัว "จามิกรณ์" ของสาวแพนเค้ก เขมนิจ นั้นไม่ธรรมดา ที่ผ่านมาแค่แอ๊บเอาไว้ สิ่งสำคัญที่สุด คือ "คุณแม่หน่อย นวลนง จามิกรณ์" ของแพนเค้ก ถูกดึงเข้ามาอยู่ในข่าวไม่เว้นวัน ไม่ว่าจะเป็นคนจับคู่ผู้ชายให้ลูกสาว หรือข่าวลือว่าเป็นครอบครัวนักสูบ ที่ดูดเงินคนใกล้ชิดมาทำธุรกิจต่างๆ วันนี้ภาพยนตร์บันเทิงเลยขอพื้นที่เปิดอกคุณแม่หน่อย แบบ จัดหนักทุกคำถามมีคำตอบ รีบไปอ่านกันดีกว่าค่ะ แรกๆ เข้าวงการมีแต่ข่าวดีๆ แล้ววันนี้เคยถามตัวเองไหมคะว่ามันเกิดอะไรขึ้น "ไม่ได้คิดแบบนี้นะคะ คิดว่ามันคือเรื่องราวปกติจริงๆ เราเองก็ไม่ได้คิด ไม่ได้รู้สึกว่าต้องหาคำตอบของอะไรทั้งสิ้น คิดว่ามันเป็นเส้นทางชีวิตจริงๆ ที่มันต้องมีทั้งบวกทั้งลบสลับกันไป" การถูกดึงครอบครัวเข้ามาเกี่ยวข้อง คุณแม่เสียใจไหมคะ "ไม่นะแต่แม่รู้สึกว่าเดี๋ยวนี้ทุกสิ่งทุกอย่างมันดูแรงมากขึ้น ไม่ว่าจะข่าวสารหรืออะไรก็ตาม สื่อต่างๆ รู้สึกมีความรุ่มร้อนมากขึ้น การถูกดึงเข้ามาเอี่ยว แม่มองว่า เราทำสองหน้าที่ คือเป็นทั้งผู้จัดการของน้องด้วย แล้วในความเป็นแม่ เป็นเพื่อนด้วย ไม่มีใครอยู่ข้างตัวน้องมากกว่าแม่อยู่แล้ว นอกจากแม่ เพราะฉะนั้นสิ่งใดๆ ก็ตาม ถ้าจะกระทบมา มันก็ไม่พ้นเราสองคนแน่นอน" ชีวิตครอบครัววันนี้ล่ะคะ หลังจากมีข่าวออกมามากมาย "ไม่กระทบเลย คือทุกอย่างเราก็คือเราไง เรายังมีกลุ่มคน มีสังคมที่เขายังคงหยิบยื่นสิ่งดีๆ ให้เราเสมอ ข่าวที่เกิดขึ้นมันไม่ได้กระทบกับชีวิตประจำวันของครอบครัวเรา ครอบครัวเรายังอยู่ได้เหมือนเดิม" เริ่มตอบโจทย์ทีละคำถาม เริ่มจากผู้ชายของน้องที่ถูกสังคมมองว่า แม่จัดการให้มาตลอด "แม่คิดว่าเป็นเรื่องของความเป็นแม่ของคนทุกคนมากกว่า ที่ใครจะดูแล หรืออยู่ข้างๆ ลูกในทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะเรื่องเรียน เรื่องความรัก เรื่องการทำงาน เรื่องความเป็นอยู่ แต่การตัดสินใจเรื่องการคบเพื่อนชาย แม่ต้องบอกก่อนว่า ในชีวิตของตัวแม่เอง ตั้งแต่มีความรักมา พ่อแม่ไม่เคยเข้ามายุ่งเกี่ยวเลย มีแต่ชี้แนะ และประคอง คืออยู่เคียงข้างเสมอ ยิ่งวันนี้เราเป็นคุณแม่เราต้องรู้แล้วว่า เราต้องวางตัวอย่างไร คือเราเป็นคุณแม่ที่ฟรีสไตล์มากๆ เราแค่อยู่ห่างๆ ยิ่งถ้าลูกเป็นคนคิดเป็น รู้จักคิด การตัดสินใจเขาจะตัดสินใจได้เองหมด เราไม่ได้เกี่ยวข้องในการตัดสินใจของเขาอยู่แล้ว"

กับเป้ อารักษ์ล่ะคะ หลายคนมองคุณแม่พยายามจับคู่ให้ "เป้เนี่ยถ้ารู้จักเขา จะรู้ว่าเป้ไม่ใช่คนที่เราจะเข้าถึงตัวเขาได้ง่ายๆ หรอก ต่อให้เป็นแม่เอง หรือจะเป็นคุณพ่อคุณแม่ของเป้เองก็ตาม แม่เชื่อว่าเด็กคนนี้มีความคิดอ่านเป็นของตัวเองชัดเจน เพราะฉะนั้นอะไรก็ตามที่ไม่ว่าน้องจะไปรักใครชอบใคร ก็คงเป็นเรื่องที่เขาต้องตัดสินใจเอง แล้วตัวแพนเขาก็โตแล้ว คิดว่าเรื่องแบบนี้เขาตัดสินใจได้เองหมด" วันนี้น้องถูกสังคมจับตามองว่า กำลังศึกษาอยู่กับเป้ไปแล้ว คุณแม่ล่ะคะ มองว่าอย่างไร "จริงๆ การเดินทางในเรื่องของความรัก เรื่องแบบนี้คนที่จะรู้ได้คือคนสองคนเท่านั้น ไม่ว่าแม่หรือพ่อก็ไม่สามารถบอกได้ว่า มันจะไปกันอย่างไร ไม่ว่าเราจะมีความรู้สึกดีๆ กับใครก็ตาม ถ้าเป็นผู้หญิงที่รู้จักคิด และคิดเป็นเขาจะรู้ใจตัวเองอยู่ตลอด ถ้ามีสตินำพาชีวิต เขาก็จะไม่วิ่งเต้นที่จะตื่นตูม หรือค้นหาว่าวันนี้ความสัมพันธ์มันเป็นอย่างไร" คำกล่าวหาที่ว่า...เป็นครอบครัวสูบเงินคนที่เข้ามาอยู่ใกล้ๆ "คิดว่ามันเป็นวิธีการหาข้อมูลมากกว่านะ คือสิ่งต่างๆ คนที่รู้ดีที่สุดคือตัวเรา แล้วมันไม่ใช่เรื่องที่เราจะต้องมานั่งบอกคนทั้งโลก เรารู้เฉพาะคนในครอบครัวเราก็น่าจะพอแล้ว เพราะทุกอย่างที่ผ่านมาเนี่ย เราทำด้วยความเมตตามาโดยตลอด อย่างข่าวต่างๆ ที่เกิดขึ้น คือบอกได้ว่าเงินไม่ใช่สิ่งสำคัญสำหรับครอบครัวเรา เพราะฉะนั้นเนี่ย ถ้าเราจะเป็นนักสูบ เราคงไม่สูบแค่คนอย่างนี้หรอก เราคงไปมองหาคนอื่นดีกว่า คือไม่ยากเลย ในสังคมที่เรายืนอยู่ ถ้าแม่จะนำพาลูกเราไปเส้นทางแบบนี้ แม่บอกได้เลยว่าถ้าคิดจะทำอย่างนั้น แม่ทำได้มากกว่านี้ แม่คงไม่มาสอนให้ลูกต้องมาอดทนกับอะไรอย่างนี้หรอก คือเราพอใจกับสิ่งที่เราเป็นอยู่ แล้วเราต้องรักษาสิ่งที่เราเป็นอยู่ให้ได้"

ถูกมองว่าเป็นครอบครัวสร้างภาพ แอ๊บแตกแล้ววันนี้ "มันคงไม่ใช่ครอบครัวเราแน่นอน เรามีทุกอย่างของเราพอเพียงเสมอในชีวิต เพราะฉะนั้นเราไม่ได้ต้องการอะไรมากกว่านี้แล้ว แม่ถึงได้พยายามสร้างกิจกรรมของครอบครัวเสมอมา เรารู้ว่าครอบครัวที่คิดเป็นคือครอบครัวที่สามารถก้าวเข้าไปนำคนอื่นให้มาทำสิ่งดีงามได้ เรื่องแบบนี้เวลาจะบอกเอง แล้วก็คงจะมีแต่คนที่ไม่สู้ความจริงเท่านั้นล่ะ ที่จะสามารถมาคิดว่าเราเป็นแบบนี้ได้" นี่ล่ะค่ะ คำสัมภาษณ์เปิดอกคุณแม่หน่อย ของน้องแพนเค้ก ซึ่งท่านยังตอบทุกคำถามด้วยรอยยิ้ม แม้ข่าวจะหนักหนาสาหัส สิ่งสำคัญที่ทำให้ครอบครัวยังสามารถก้าวข้ามจุดนี้ไปได้คือความรัก และไม่ว่าข่าวทั้งหลายจะชัวร์ หรือมั่วนิ่ม เวลาเท่านั้น...จะเป็นเครื่องพิสูจน์ อย่างที่คุณแม่หน่อยได้กล่าวไว้ในวันนี้ค่ะ