แคท ทุ่มสุดตัวหวังกลับมาแจ้งเกิด
ห่างหายจากงานแสดงละครไปนานกว่า 4 ปี พอกลับคืนเวทีการแสดงอีกครั้ง "สาวแคท" แคทรียา อิงลิช ก็หวังจะแจ้งเกิดรับละครติดต่อกันเลย 2 เรื่อง เรื่องแรกกำลังออกอากาศอยู่คือ "แฝดนะยะ" ส่วนอีกเรื่องที่กำลังถ่ายทำคือ "ดวงตาสวรรค์" ที่แคทพลิกมาเล่นบทร้ายเป็นครั้งแรก แต่เป็นบทร้ายที่เด่นและแรง งานนี้แคทก็เลยทุ่มสุดๆ ยอมเปลืองเนื้อเปลืองตัวเล่นบทเลิฟซีนแบบจูบจริงไม่ใช้สแตนด์อิน
"บทในเรื่อง ดวงตาสวรรค์ พอแคทอ่าน บทแล้วอยากเล่นมากเพราะเป็นบทที่ดีแล้วแคทไม่เคยเล่นบทแบบนี้ด้วย แต่มันเป็นบทมีที่มาที่ไปไม่ใช่อยู่ดีๆ แล้วมาร้ายเลย ซึ่งแคททุ่มให้การแสดงสุดๆ ทุ่มทุกอย่าง ให้แก้ผ้าก็แก้ ให้จูบจริงก็จูบ เราบอกอยากได้อะไรบอกแคท ถ้าทำได้แคททำให้ ถ้าไม่ได้ค่อยว่ากันอีกที แต่ส่วนใหญ่จะได้ตลอด เพราะแคทคิดว่าเราเป็นนักแสดงมืออาชีพและมันคืออาชีพของเรา มัวแต่มาห่วงนั่นห่วงนี่เมื่อไหร่เราจะพัฒนาตัวเอง เราต้องเป็นตัวละครตัวนั้นจริงๆ ไม่ได้มาแบบเล่นๆ
ถามว่าเสียภาพพจน์ไหม ไม่เห็นจะเสียเลยเพราะเราไม่ได้เป็นแบบนั้นจริงๆ ถ้าเราเล่นได้ทุกบทบาทก็จะได้อีกรสชาติหนึ่ง แคทไม่ได้เล่นแค่โรแมนติกคอมเมดี้อย่างเดียว แต่สามารถเล่นบทแบบนี้ได้ด้วย และถ้าเล่นทั้งทีก็ต้องเล่นให้เต็มที่ จะมาเล่นแบบกั๊กๆ มันไม่สะใจ แต่ถ้าเราเล่นเต็มที่คนดูก็จะรู้สึกสะใจมันต้องอย่างนี้สิ ส่วนบทเลิฟซีนแคทก็เล่นจริงจูบจริงไม่ใช้สแตนด์อิน จูบกับ "พี่ก้อง" สหรัถ สังคปรีชา คือเล่นคอมเมดี้อาจจะกั๊กได้แต่อันนี้เป็นบทชีวิตดราม่า ถ้าเราจูบหลอกคนก็จะว้า และมันจูบแค่แป๊บเดียวไม่ได้รู้สึกอะไรหรอก และไม่รู้สึกเขินนะ คือเวลาเล่นตอนนั้นไม่เขินแล้วเพราะมันอินกับบทมากๆ
แต่เล่นละครเรื่องนี้แคทยอมรับว่าเหนื่อย มันเครียดนะที่เราอินกับคาแรกเตอร์มากๆ มันเหมือนกับเราได้ไปอยู่ในชีวิตของเขาจริงๆ พออ่านบทกลับบ้านแคทเครียดมากถึงกับอ้วก เพราะเราต้องร้องไห้ทุกวัน มันเสียสุขภาพจิตเหมือนกันนะ พอเราเล่นแล้วต้องเล่นตลอดเล่นเป็นเดือนๆ มันเลยอิน คือเราเป็นนักแสดงเราต้องอินกับบทก่อนไม่งั้นเราจะเล่นไม่ถึง ขนาดแค่อ่านบทยังเครียดปวดหัว พอมาเล่นจริงเครียดลงกระเพาะและอยากอยู่คนเดียว เดี๋ยวนี้โลกส่วนตัวสูง บางครั้งอยู่บ้านร้องไห้มันรู้สึกท้อ ไม่ได้ท้อกับชีวิตนะ แต่ไม่รู้เป็นอะไร เหมือนอารมณ์มันค้างมาจากกองถ่าย พอกลับมาบ้านยังเครียด ซึ่งเราไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน"