ปอย ตรีชฎา โต้ไม่เคยโก่งค่าตัว ยินดีร่วมงาน พจน์ ถ้าเข้าใจกัน
หลังจากที่โดนกระแสเรื่องการโก่งค่าตัวจนทำให้ พจน์ อานนท์ ผู้กำกับชื่อดังต้องเปลี่ยนตัวไม่ให้เล่นหนังเรื่อง หอแต๋วแตก แหกกระเจิง ไปแล้วนั้น ปอย-ตรีชฎา มาลยาภรณ์ นักแสดงชื่อดังจึงต้องควงคู่ ต้น-พฤฒินันท์ สุทธิประภา ผู้จัดการส่วนตัวมาเปิดเผยความจริง ถึงเรื่องที่เกิดขึ้นว่าเป็นเพราะอะไร กลางกองถ่ายหนังเรื่อง”จ๊ะเอ๋…โกยแล้วจ้า” ของบริษัท ดิ แอ็คชั่น จำกัด ซึ่งเธอได้เล่นเป็นนางเอกอย่างเต็มตัวเป็นครั้งแรกบนจอเงิน เพราะข่าวนี้ทำให้งานอื่นๆของเธอพลอยได้รับผลกระทบไปด้วย โดยสาวปอยได้เปิดใจให้ฟังว่า
“สำหรับเรื่องที่เกิดขึ้นมันเป็นความเข้าใจผิดกันมากกว่า ในเมื่อทางหนูได้บอกไปแล้วว่าหนูอยากจะเล่นหนังเรื่องนี้และอยากร่วมงานกับพี่พจน์ ยังไงหนูก็ต้องเล่นไม่อย่างนั้นหนูคงไม่เคลียร์คิวไว้ให้กับพี่พจน์ว่าหนูมีเวลาว่างวันไหนบ้าง ที่พี่พจน์บอกว่าทางหนูเรียกค่าตัวสูงจนเขาสู้ไม่ไหวนั้น หนูขอบอกว่ามันไม่เป็นความจริงเลยตอนแรกพี่พจน์เขาเสนอค่าตัวให้หนูมาแสนห้า ทางพี่ต้นผู้จัดการก็ได้มาบอกให้หนูทราบ ทางเราเห็นว่ามันน้อยไปนิดหนึ่งถ้าเอามาเทียบกับการทำงานตั้ง 10 กว่าคิวก็เลยขอเพิ่มไปอีกห้าหมื่นบาท ซึ่งมันเป็นเรื่องของการทำงานที่ต้องมีการพูดคุยกันให้ลงตัวก่อน แต่พอทางพี่พจน์ไม่ให้ก็ไม่เป็นไรให้เท่านี้หนูก็ยินดีเล่นหนูถึงได้ให้คิวของหนูไป แต่ที่หนูไม่ได้เล่นหนังของพี่พจน์จริงๆแล้วมันเป็นเรื่อง ที่หนูกับทางพี่พจน์ยังไม่ได้เซ็นสัญญาในเรื่องของการทำงานร่วมกันมากกว่า และตัวหนูเองก็ยังไม่เห็นบทหรือได้รู้รายละเอียดว่าหนูจะต้องเล่นเป็นอะไร
และบทของหนูมีแค่ไหน พอขอกับทางพี่พจน์ไปเขาก็บอกว่าไม่ไว้ใจพี่เหรอ ไม่ใช่ว่าหนูไม่ไว้ใจแต่หนูอยากจะทำอะไรให้มันถูกต้องและชัดเจน เพราะหนูไม่อยากให้เรามามีปัญหากันภายหลังในเรื่องของการทำงาน เพราะตัวหนูเองเวลาที่รับเล่นละครให้กับค่ายโพลีพลัสหรือทำงานอะไรหนูก็จะมีสัญญาทั้งนั้น แม้แต่หนังเรื่อง”จ๊ะเอ๋…โกยแล้วจ้า”ที่หนูเล่นตอนนี้เขาก็มีทั้งบทและสัญญามาให้กับหนูตั้งนานแล้ว แต่ของพี่พจน์ไม่มีอะไรให้กับหนูเลย แต่กับของพี่โก๊ะตี๋พี่พจน์ยังเซ็นสัญญากับเขาได้เลย แล้วทำไมกับหนูถึงเซ็นไม่ได้
ก่อนเปิดกล้องก็ไม่ได้บอกอะไรล่วงหน้าพอวันพรุ่งนี้จะถ่ายโทรมาบอกวันนี้ ถ้าหนูได้เซ็นสัญญากับพี่พจน์หนูเล่นอยู่แล้ว เรื่องเงินไม่ใช่ปัญหาใหญ่เลยแค่พี่พจน์ให้หนูได้เล่นหนังเรื่องนี้หนูก็ดีใจแล้ว พอมีเรื่องว่าหนูโก่งค่าตัวออกไปมันก็มีผลกระทบกับหนูเหมือนกัน เพราะมีสินค้าบางตัวที่เขาจะเอาหนูไปเป็นพรีเซ็นเตอร์เขาก็ไม่กล้าติดต่อ เพราะกลัวหนูเรียกค่าตัวแพง ตอนนี้หนูไม่กล้าที่จะเรียกค่าตัวในการทำงานกับใครอีกแล้ว ให้เจ้าของงานเป็นคนบอกเองดีกว่า อย่างหนังที่หนูกำลังถ่ายทำอยู่ในขณะนี้เขาก็ให้ค่าตัวหนูเองตามที่เขาเห็นว่าเหมาะสม
สำหรับตัวพี่พจน์เองถ้าหนูทำอะไรให้พี่เขาเกิดความเสียหายหนูต้องขอโทษด้วย และหนูก็พร้อมที่จะร่วมงานกับพี่พจน์ในเรื่องต่อๆไปได้ ถ้าหากพี่พจน์เข้าใจในตัวของหนูและยังอยากได้หนูไปร่วมงานด้วย ที่หนูออกมาพูดในวันนี้ก็เพราะหนูอยากให้ทุกคนได้รู้ว่าหนูไม่ได้ผิด แต่มันเป็นเรื่องที่เราไม่เข้าใจกันมากกว่าและหนูก็ไม่ได้โกรธพี่พจน์ที่เปลี่ยนหนูด้วยค่ะ”