DIVE INTO กัปตัน ชลธร: การเติบโตตลอด 10 ปีในวงการบันเทิง มีท้อบ้างไหม?
จากหนุ่มน้อยที่ก้าวเข้าสู่วงการด้วยความสดใสและความฝัน จนถึงปัจจุบันที่ก้าวขึ้นมาเป็นนักแสดงมากฝีมือที่ฝากผลงานไว้ในซีรีส์หลายเรื่อง 10 ปีในวงการบันเทิงของ "กัปตัน ชลธร" นับเป็นการเดินทางที่ยาวนานเต็มไปด้วยประสบการณ์และการเรียนรู้มากมาย
ล่าสุด กัปตัน ก้าวสู่ความท้าทายใหม่ด้วยการแสดงภาพยนตร์เรื่องแรกในชีวิตของกับเรื่อง Achilles Curse (อคิลลิสเคิร์ส) กับ สมบัติต้องคำสาป
วันนี้ Sanook จึงได้ชวน กัปตัน ชลธร มาพูดคุยถึงเส้นทางวงการบันเทิงตลอด 10 ปีของกัปตัน และความท้าทายในฐานะนักแสดงภาพยนตร์ครั้งแรก จะเป็นอย่างไร ไปดูกันเลย!
Q: เข้าปีที่ 10 ของการเป็นนักแสดง กัปตันคิดว่าตัวเองเติบโตอย่างไรบ้าง?
กัปตัน: ผมว่า 10 ปี คือทุกคนมันต้องโตขึ้นอ่ะครับ สำหรับผม ผมรู้สึกว่า ผมค่อนข้างที่จะได้มีเพื่อนเพิ่มขึ้น มีประสบการณ์การทำงานมากขึ้น และมีมายเซ็ตที่โตขึ้นเรื่อย ๆ ครับ
Q: ถ้าให้เปรียบ ‘สี’ เป็นตัวตนของกัปตันตั้งแต่เข้าวงการบันเทิงถึงปัจจุบัน เปลี่ยนไปอย่างไรบ้าง?
กัปตัน: ผมว่าทุกคนในชีวิตการทำงานเริ่มต้นต้องเป็น “สีขาว” เพราะมันเป็นสิ่งที่เราไม่เคยรู้จักมันมาก่อน แต่เมื่อเราทำงานผ่านไปเรื่อย ๆ ผ่านประสบการณ์ ก็จะเริ่มมีหลายสีเข้ามารวมกันมากขึ้น มีทั้งสีเขียว สีเหลือง สีดำ สีเทา จนกลายเป็นสีที่หลากหลายครับ
Q: อยู่วงการมานาน มีตอนไหนที่รู้สึกท้อบ้าง?
กัปตัน: จริง ๆ มันก็มีแหละครับ ทุกปีมันมีทั้งเรื่องที่ทำให้ท้อและมีความสุข มันแตกต่างกันไปทุกปี บางปีเราก็เหนื่อยในเรื่องของพลังกาย บางปีเราก็อาจเหนื่อยในเรื่องของพลังใจ แต่ว่าบางปีมันก็มีสิ่งดี ๆ เข้ามา เพราะงั้นมันขึ้นลงอยู่ตลอดเวลาอยู่แล้ว
Q: แล้วอะไรที่ทำให้กัปตันสู้ต่อ
กัปตัน: บางคนเวลาท้อก็อยากจะรีบลุกขึ้นมา แต่ผมว่ามัน take time ได้เหมือนกัน มันไม่จำเป็นต้องแบบโอ้ เราเหนื่อยอยู่นะ แล้วต้องรีบกระโดดกลับขึ้นมาเลย เราสามารถพักหายใจ รอเติมไฟ แล้วค่อยกลับมาก็ได้
Q: ในฐานะของกัปตัน ชลธร ที่ไม่ใช่นักแสดง มีมุมไหนที่อยากให้คนรู้จักเราอีกบ้างไหม
กัปตัน: จริง ๆ ผมก็เป็นวัยรุ่นทั่วไปเนอะ คือมีทั้งชีวิตเรื่องเพื่อน ชีวิตการทำงานข้างนอก มีชีวิตอีกหลากหลายที่หลายคนอาจยังไม่รู้ ถ้าติดตามไอจีบ่อย ๆ ก็อาจจะเห็นว่าผมชอบไปเล่นกีฬา ไปเจอเพื่อน ไปสังสรรค์บ้าง และมีมุมอยู่คนเดียวบ้าง ลองดูในไอจี อาจจะเห็นมุมมองใหม่ ๆ ของผมมากขึ้นครับ (ยิ้ม)
Q: Achilles Curse กับ สมบัติต้องคำสาป เป็นภาพยนตร์เรื่องแรกของกัปตัน รู้สึกท้าทายอย่างไรบ้าง?
กัปตัน: คำว่าภาพยนตร์ของผมมัน มันคืองานที่ค่อนข้างเป็น realistic สูงกว่าแพลตฟอร์มอื่น มันเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องเข้าโรงแล้วไปจดจ่อกับมัน เพราะงั้นเวลาการแสดงต่าง ๆ ผมรู้สึกว่า เราควรเล่นออกมาให้ธรรมชาติที่สุด เราสามารถ take time เราสามารถพูดคุยกันโดยที่ไม่ต้องโอเวอร์แอคติ้งมากเกินไป ไม่ต้อง push มันมากเกินไปครับ
Q: แล้วเตรียมตัวต่างจากซีรีส์ไหม?
กัปตัน: ต่างนะครับ เราต้องทำรีเสิร์จก่อนว่ามันต่างกันอย่างไร เราจะเอาซีรีส์ไปเล่นในภาพยนตร์ไม่ได้ ถูกไหมครับ เพราะงั้นเราก็ต้องไปดูหนังเยอะ ๆ เพื่อให้เข้าใจว่าการแสดงหนังมี method อย่างไร รวมถึงดูการเล่นของนักแสดงแต่ละคน อาจดูเพื่อเป็น reference คิดว่าซีนไหนที่เราสามารถใส่เข้าไปได้ เราก็จะพยายามลองใส่เข้าไป
Q: ตัวละคร ‘จิน’ เหมือนหรือต่างกับ ‘กัปตัน’ ไหม?
กัปตัน: ผมว่าค่อนข้างตรงมาก ๆ พอสมควร สำหรับตัว ‘จิน’ เขาเป็นคนที่พูดน้อย ชอบวางแผน ชอบใช้ความคิดเยอะ เลยรู้สึกค่อนข้างรีเลทกับชีวิตผม
Q: สุดท้ายนี้ ฝากอะไรถึงภาพยนตร์
กัปตัน: สำหรับ Achilles Curse กับ สมบัติต้องคำสาป นะครับ เป็นภาพยนตร์แนวสืบสวน แฟนตาซี โดยเอา setting เรื่องมาจากเทพ อะคิลิส ที่คนในโลกนี้ไม่สามารถตายได้ นอกจากจะโดนจุดอะคิลิส ซึ่งจุดของแต่ละคนเนี่ย ไม่รู้เหมือนกันว่าอยู่ตรงไหนบ้าง คนหนึ่งก็อาจอยู่ที่นิ้วก็ได้ คนหนึ่งอาจอยู่ที่คอก็ได้ เพราะงั้นการโดนทำร้าย หรือเรื่องการเจ็บป่วย มันเป็นเรื่องใหญ่ แต่จู่ ๆ วันหนึ่งสมบัติของตระกูลผม และวานิลา คู่หมั้นของผม รับบทโดย จ๋อมแจ๋ม ถูกขโมยไป ก็เลยต้องให้นักสืบลุค ที่รับบทโดยเติร์ด เข้ามาช่วยคลี่คลายนะครับ ส่วนบทสรุปจะเป็นอย่างไร สามารถไปติดตามได้นะครับ Achilles Curse ทุกโรงภาพยนตร์ครับ
อัลบั้มภาพ 11 ภาพ