น้ำเซาะทราย ไม่เคยตายไปจากใจ

น้ำเซาะทราย ไม่เคยตายไปจากใจ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
วิ่งหารักมาอ่อนใจ เอื่อยไหลซบทรายกระเซ็น ชื่นฉ่ำเย็น อยากเป็นน้ำเซาะทราย โลกของฉันมีแต่เธอ เฝ้าฝันละเมอไม่วาย อยากบอกทรายกับสายน้ำ จำนรรจาว่ารักฉันสร้างจากทราย อาจสลายเพียงในพริบตา คลื่นรักทยอยสาดมา เซาะอุราน้ำตา ... น้ำตากระเซ็น

เสียงเปียโนแผ่วเบาแต่หวานวาบในใจ จากการบรรเลงของนักดนตรีมือดี จำรัส เศวตาภรณ์ ในเพลง น้ำเซาะทราย ยุคสมัย รสนิยม กาลเวลาเปลี่ยนเกือบ 20 ปี แต่ น้ำเซาะทราย ไม่คลายมนต์เสน่ห์ ด้วยเนื้อร้องที่สละสลวย เติมแต่งด้วยการเรียบเรียงดนตรี เนื้อร้องทำนองถูกผสมผสานกันอย่างลงตัว และเมื่อได้เสียงร้องอันนุ่มนวลของ จำรัส เศวตาภรณ์ น้ำเซาะทราย จึงเป็นเพลงเอกจากภายนตร์เรื่อง น้ำเซาะทราย ที่ไม่ถูกลืม ประสบความสำเร็จทั้งภายนตร์และเพลงประกอบภาพยนตร์ น้ำเซาะทราย เป็นบทประพันธ์ของนักเขียนชื่อดัง ศิลปินแห่งชาติ กฤษณา อโศกสิน ตีแผ่ชีวิตครอบครัวได้อย่างดีเยี่ยม ตัวละครหลัก ภีม, วรรณรี และ พุดกรอง สะท้อนความเป็นมนุษย์ กฤษณา อโศกสิน เขียนนวนิยายเรื่องนี้ได้เฉียบคม เป็นเรื่องของครอบครัว ภีม และ วรรณรี มีลูก 2 คนชายหญิงชื่อ ปอ และ ป่าน ภีม เป็นที่ปรึกษาด้านกฎหมาย วรรณรี เป็นคุณครูที่เคร่งครัดกับระเบียบวินัย และที่สำคัญมั่นใจในตัวเองสูง เพราะเธอคิดว่าเธอไม่เคยทำอะไรผิด ทำให้ ภีม เก็บสะสมความเบื่อหน่าย และมันก็ขาดผึงเมื่อ พุดกรอง ก้าวเข้ามาในชีวิต

พุดกรอง และ วรรณรี เป็นเพื่อนกันตั้งแต่สมัยเรียน แต่ต่างกันอย่างสิ้นเชิง อีกคนดูเคร่งขรึม จืดชืด แต่ไม่เคยทำผิด แต่อีกคนพราวเสน่ห์ยั่วยวนไปทั้งตัว ชีวิตคูของ ภีม และ วรรณรี มีรอยปริ เมื่อ วรรณรี จับได้ว่าสามีและเพื่อนแอบมีสัมพันธ์กันเกินเลย เรียกให้ชัดก็คือแอบเป็นชู้กัน สงครามเย็นจึงเกิดขึ้น !! น้ำเซาะทราย ตีแผ่ความเห็นแก่ตัวอย่าง ภีม และสะท้อนให้ผู้หญิงหันกลับมามองตัวเองว่าตึงไป หรือหย่อนเกินไปหรือเปล่า และทำให้เห็นภาพอันชัดเจนของคนที่ผิดศีล คือเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับสามีคนอื่น กฤษณา อโศกสิน เขียนเรื่องนี้ ทำให้คนอ่านและคนดูละคร ดูหนังกดดัน และเห็นความแยบยลของมนุษย์อย่างเลือดเย็น นิยายมีตัวร้าย ตัวดี แต่ น้ำเซาะทราย แหวกกรอบว่าตัวร้ายต้องกรี๊ด เรานิยมละครเกาหลีกันว่า นางร้ายของเขาไม่มีกรี๊ดแต่ร้ายลึกและร้ายแสบ ของไทยเราก็มีมานานแล้วเหมือนกันอย่าง น้ำเซาะทราย คำพูด สายตา บุคลิกของ พุดกรอง บอกนัยได้อย่างดีว่า เธอแสบทรวงจริงๆ

นวนิยายเรื่องนี้สร้างเป็นภาพยนตร์มา 2 ครั้ง ละคร 2 ครั้ง และยังอยากจะชมอีกเป็นครั้งที่ 3 ในภาคของละคร ภาพยนตร์ครั้งแรก นาท ภูวนัย ( ภีม ), มยุรฉัตร เหมือนประสิทธิเวช ( วรรณรี ) และ วันดี ศรีตรัง ( พุดกรอง ) ครั้งต่อมา อภิชาติ หาลำเจียก ( ภีม ), นาถยา แดงบุหงา ( วรรณรี ) และ สินจัย เปล่งพานิช ( พุดกรอง ) ช่อง 7 สี ให้ทาง กันตนา นำมาผลิตละครเป็นครั้งแรก ศรัณยู วงษ์กระจ่าง ( ภีม ), สินจัย เปล่งพานิช ( วรรณรี ) และ ปรียานุช ปานประดับ ( พุดกรอง ) และช่อง 3 ให้ทาง ทีวีซีน นำมาผลิตให้ ฉัตรชัย เปล่งพานิช ( ภีม ), จริยา แอนโฟเน่ ( วรรณรี ) และ จันทร์จิรา จูแจ้ง ( พุดกรอง ) เวอร์ชั่นะลครได้ดูทั้ง 2 ครั้ง ชอบตัวนักแสดงนำทั้ง 2 ครั้ง แต่ภาพรวมทั้งหมด ประทับใจในการแสดงที่ กันตนา ดำเนินงานผลิต ทั้ง สินจัย แล ปรียานุช เชือดเฉือนกันอย่างไม่มีใครเป็นรอง เรียกว่าเป็นมวยคู่เอกที่ไม่มีน็อก ชนะทั้งคู่ ช่อง 7 สีนำ เมียหลวง กลับมารีเทิร์นอีกหน และให้ ดาราวิดีโอ ผลิต น้ำเซาะทราย ก็น่าจะมีสิทธิ์ได้ชมกันบ้าง แต่ต้องคัดเลือกนักแสดงที่เก่ง เข้าใจในบทละคร ตีความให้เป็น แล้วเล่นทางสายตาได้เป็นอย่างดี มีลีลาการพูดที่เป็นจังหวะ ตน ทัพย่าน ว่า น้ำเซาะทราย เป็นละครที่ดูสนุก โดยไร้เสียงกรี๊ดกร๊าด ด่าทอ แต่ร้ายลึก นี่แหละที่มาของสงครามเย็น บทความโดย : ตน ทัพย่าน

สนับสนุนเนื้อหาข่าวโดย ภาพยนตร์บันเทิง ฉบับวันที่ 1 7 ตุลาคม 2551

อัลบั้มภาพ 5 ภาพ

อัลบั้มภาพ 5 ภาพ ของ น้ำเซาะทราย ไม่เคยตายไปจากใจ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook