จา พนมต่อรองเสี่ยเจียง ไม่จ่ายองค์บาก2 ไม่จบ
จา พนม ขอเจียง 55 ล้านส่งทนายยื่น 7 ข้อต่อรองไม่ให้เงิน องค์บาก2 ไม่จบ
จา พนม หนีหน้า ไม่มาพบ เสี่ยเจียง ด้วยตัวเอง ทำครอบครัวรอเก้อ แต่ส่งทนายเป็นตัวแทนยื่นข้อเสนอ 7 ข้อ ขอยกเลิกสัญญาจ้างนักแสดงทั้งหมด พร้อมของบถ่ายเพิ่ม 55 ล้านบาท บวกค่าตัว 50 ล้านบาท ด้านทนายฝั่งสหมงคลฟิล์ม จวกทนายจาทำเรื่องยุ่ง
หลังจากที่ นายสมศักดิ์ เตชะรัตนประเสริฐ หรือ เสี่ยเจียง ได้ออกมาแถลงข่าวเกี่ยวกับกรณีการหายตัวไปของนายพนม ยีรัมย์ หรือ จา ด้วยปัญหาความเครียดจากการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง องค์บาก 2 รวมทั้งเรื่องงบประมาณในการถ่ายทำ กระทั่งพระเอกนักบู๊ชื่อดังออกมาแถลงข่าวโต้ แต่ก็ยังหาข้อยุติไม่ได้ และยังเป็นปัญหาคาราคาซังกันอยู่
ล่าสุดเมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 31 กรกฎาคม นายทองดี ยีรัมย์ นางรินทร์ ยีรัมย์ นายพิชัด โมกหอม พ่อ แม่ และพี่เขยของจา และนายอภิรมย์ ธีรเดช ทนายความของนายทองดี นายอัครพล หรือ หนึ่ง ลูกชายเสี่ยเจียง นายอัจฉริยะ หรั่งเดช ที่ปรึกษาประธานบริษัท สหมงคลฟิล์ม จำกัด และนายมนตรี ทนายความบริษัท สหมงคลฟิล์ม จำกัด มาร่วมฟังข้อเสนอแนะของนายจารุพล เรืองเกตุ ทนายความที่มาเป็นตัวแทนยื่นข้อเสนอกับสหมงคลฟิล์ม แทนพระเอกนักบู๊ชื่อดัง
ก่อนหน้านี้ ครอบครัวของจา คาดหวังว่าจะได้พบกับจา แต่ก็ต้องพบกับความผิดหวัง เนื่องจาก จาไม่ได้เดินทางมาด้วย โดยนายจารุพลแจ้งว่า เหตุที่จาไม่สามารถมาได้ เพราะต้องเดินทางไปหาผู้ใหญ่ที่ จ.นครปฐม ทั้งนี้แหล่งข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเช้าได้พบตัวผู้กำกับองค์บาก 2 แถวเมืองทองธานี ก่อนที่ช่วงกลางวันจะไปโผล่แถวตึกแกรมมี่อีกครั้ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศในห้องแถลงข่าวเต็มไปด้วยความตึงเครียด โดยผู้สื่อข่าวขอให้ทนายความของจาโทรศัพท์ไปถามจาว่า จะสะดวกเดินทางมาคุยในวันนี้หรือไม่ ครั้งแรกทนายไม่ยอม แต่พอทราบว่า นักข่าวทราบว่าจาอยู่ตึกแกรมมี่ เลยยกโทรศัพท์โทรถึงพระเอกนักบู๊ แต่นายพนมกลับไม่ยอมรับโทรศัพท์
ทนายความของพระเอกนักบู๊ได้ชี้แจง ว่า ตนมาเป็นตัวแทนของนายพนม เพื่อยื่นข้อเสนอให้แก่สหมงคลฟิล์มพิจารณา ซึ่งมีข้อความดังต่อไปนี้
1.ของบประมาณในการถ่ายทำหนัง ส่วนที่เหลืออีก 20% เป็นเงิน 55 ล้านบาท ไม่รวมค่าโปรดักชั่นฟิล์ม ค่าตัวดารา ฝ่ายสตูดิโอ โรงถ่าย
2.ทีมงานโปรดักชั่นทั้งหมด จา พนม ขอเลือกเอง โดยมีนายพันนา ฤทธิไกร รวมอยู่ด้วย
3.ให้ผู้จัดการส่วนตัวของจา ตรวจสอบดูแลบัญชีค่าใช้จ่ายของกองถ่าย และงานโปรดักชั่นทั้งหมด
4.ระยะเวลาการถ่ายทำของงานที่เหลือ กำหนดแล้วเสร็จ ภายในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2551
5.ขอความชัดเจนในเรื่องค่าตัวในการแสดง และการกำกับหนังในเรื่ององค์บาก 2
6.รายได้จากการจัดจำหน่าย การฉายภาพยนตร์ องค์บาก 2 ที่จาจะได้รับจากการกำกับและการแสดง ที่เดิมกำหนดไว้ จะได้รับ 25% จากรายได้เมื่อหักค่าใช้จ่ายแล้ว ขอเปลี่ยนเป็นเหมาจ่าย 50 ล้านบาท
7.ยกเลิกสัญญาจ้างนักแสดงทั้งหมด ลงวันที่ 25 กรกฎาคม 2546 ซึ่งมีลายเซ็นของจากำกับ มาพร้อมข้อเสนอทั้ง 7 ข้อ
หลังจากทนายความของจาอ่านข้อเสนอของพระเอกนักบู๊ชื่อดังเสร็จแล้ว นายอัจฉริยะ ที่ปรึกษาประธานบริษัทสหมงคลฟิล์ม กล่าวว่า ให้ตัวจามาพูดเรื่องข้อเสนอด้วยตนเอง โดยไม่ต้องผ่านคนกลาง เรื่องนี้ถึงจะมีการพิจารณา และได้ถามกลับว่า หากไม่มีการตกลงเรื่องนี้จะเป็นอย่างไร
ทนายความของจาได้กล่าวว่า จาอาจจะหายตัวไปก็ได้ ทำเอาพ่อของนายพนม เกิดอาการสีหน้าไม่สู้ดี ถามด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ว่าแล้วจาจะหายไปไหน ทนายความของผู้กำกับองค์บาก 2 กล่าวว่า ไม่รู้ อาจจะไปบวช หรืออะไรก็ได้ ตนก็ไม่ทราบเหมือนกัน แต่ที่มาวันนี้ ก็เพื่อเป็นตัวแทนจาเท่านั้น และรอดูว่าสหมงคลฟิล์มจะพิจารณาข้อเสนอของจาอย่างไร
นายทองดี พ่อของจา ยังคงเรียกร้องอยากเจอลูกชาย บอกว่าเห็นข่าวทางทีวีที่ลูกร้องไห้ เลยขึ้นรถมาจาก จ.สุรินทร์ อยากมาดักรอพบ ห่วงว่าลูกชายจะเป็นอยู่อย่างไร เลยฝากบอกทนายไป ว่าจะรออยู่ที่บ้านอารียา หรือที่สหมงคลฟิล์ม แต่ทั้งนี้ทนายความของจาบอก ว่าให้เปลี่ยนสถานที่ที่ไม่ใช่สหมงคลฟิล์ม
เพราะเหตุที่จาไม่อยากมาในวันนี้ เพราะไม่อยากให้ทางสหมงคลเอาพ่อแม่มากดดันด้วย ทั้งนี้ นายอัจฉริยะประกาศว่า จาจะต้องกลับมาถ่ายทำหนังต่อ ภายใน 3 วัน เพราะหนังต้องจบภายในเดือนสิงหาคมนี้ เนื่องจากเมืองนอกยื่นความจำนงมาแล้ว ถ้ามีปัญหา ให้มาคุยต่อหน้า อย่าผ่านคนกลาง
ผมพูดตามตรง เมื่อก่อนจาไม่ได้เป็นอย่างนี้เลย แต่พอมีคุณทนายเรื่องก็ยุ่งไปหมดเลย อยากบอกว่าเสี่ยพร้อมจะเจอจาอยู่แล้ว อย่างที่จามาบอก ว่านั่งทางในแล้ว หนังองค์บาก 2 จะทำเงินได้ 2 หมื่นล้านบาท แต่เสี่ยบอกว่า ไม่ต้องถึงขั้นนั้นหรอก ถ้าได้ 2,000 ล้านบาท จะแบ่งให้ 1,000 ล้านบาทเลย ซึ่งก็มีสัญญาและลายเซ็นเสี่ยอยู่ในนั้นด้วย นายอัจฉริยะกล่าว
หลังจากนั้นผู้สื่อข่าว คม ชัด ลึก ได้โทรศัพท์ติดต่อไปยังจา เพื่อขอทราบสาเหตุที่ไม่เดินทางไปบริษัทสหมงคลฟิล์ม เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม ได้คำตอบจากจาว่า เป็นเรื่องเทคนิคทางข้อสัญญา ที่ไม่มีความรู้พอ จึงมอบหมายให้ทนายไปเจรจา และขอดูหลักฐานของสหมงคลฟิล์มว่าตรงกันหรือไม่ ซึ่งข้อเสนอ 7 ข้อที่ขอไปนั้นยุติธรรมทั้งสองฝ่ายแล้ว เพราะมั่นใจว่าหนังเรื่องนี้จะทำรายได้ 2,000 ล้านบาท
ผมไม่ได้อยากได้พันล้านอย่างที่เสี่ยเจียงรับปากว่าจะให้หรอก ขอแค่ 50 ล้านก็พอ ส่วนงบที่ขอสร้างหนัง 55 ล้านนั้น มันไม่เกินความเป็นจริง เพราะงบอยู่ในบัญชีการเงินที่ได้แจ้งให้สหมงคลทราบตั้งแต่ต้นแล้ว และงบนี้รวมกับค่าซ่อมฉากเดิมที่มีปัญหาด้วย ผมมั่นใจว่าจะถ่ายทำเสร็จ และส่งมอบได้ทันในเดือนพฤศจิกายนนี้แน่นอน จากล่าว
พระเอกนักบู๊กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องการขอยกเลิกสัญญานักแสดง เนื่องจากอึดอัดในการกระทำของสหมงคลฟิล์ม ซึ่งเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ไม่ไปที่สหมงคลฟิล์ม เพราะ 2 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่ที่ถ่ายหนัง ได้คุยปัญหามาตลอด แต่ไม่ได้รับการแก้ไขเลย จึงขอยืนยันว่า หากไม่ตอบรับข้อตกลง 7 ข้อนี้ จะไม่กลับไปทำหน้าที่ต่ออย่างแน่นอน ส่วนเรื่องที่มีคนเห็นไปที่แกรมมี่นั้น เพราะมีรุ่นพี่คนหนึ่งพากลับมาจากนครปฐม แล้วพาไปเที่ยวสยาม จากนั้นจึงไปกินสตาร์บัคที่แถวตึกแกรมมี่
ขอบคุณที่มาของข่าวจาก