หนุ่ม ศรราม ภูมิใจเป็นส่วนหนึ่งของรักสยามเท่าฟ้า

หนุ่ม ภูมิใจ... เป็นส่วนหนึ่งของ รักสยามเท่าฟ้า คุ้มค่าสมกับที่รอคอย เชิญชวนคนไทยรักชาติไปดู ได้ฤกษ์เข้าฉายพร้อมกันทั่วประเทศ วันที่ 31 มกราคม 2551 นี้แล้ว สำหรับภาพยนตร์แห่งความรัก และความสามัคคีของคนไทย ที่จะก่อให้เกิดความภาคภูมิใจเหนือน่านฟ้า ผลงานการกำกับของผู้กำกับมือทอง ปื๊ด - ธนิตย์ จิตนุกูล ที่ร่วมกับค่าย อาวอง นำผู้ชมย้อนบรรยากาศกลับไปสู่ช่วงเวลาแห่งการก่อตั้งกองการบินแรกแห่งเอเซีย ณ ผืนแผ่นดินสยาม ซึ่งได้พระเอกมากฝีมือ หนุ่ม-ศรราม เทพพิทักษ์ เป็นตัวแทนถ่ายทอดเรื่องราวแห่งประวัติศาสตร์ผ่านบทบาทนักบินหนุ่มทัพฟ้า ที่เป็นผู้ร่วมก่อตั้งกองการบินแห่งความภาคภูมิใจแห่งนี้ขึ้น... ซึ่งภาพยนตร์ไทยน่ารักๆ ที่จะทำให้ผู้ชมได้ย้อนวันวานกลับสู่ภูมิทัศน์อันสวยงามของสยามประเทศเมื่อสมัยรัชกาลที่ 6 นี้ นักแสดงนำชายอย่าง หนุ่ม-ศรราม เล่าให้ฟังอย่างภาคภูมิใจ พร้อมเชื้อเชิญคนไทยผู้มีใจรักชาติให้ไปร่วมชมภาพยนตร์แห่งประวัติศาสตร์ที่ถูกถ่ายทอดผ่านแผ่นฟิล์มในครั้งนี้ว่า... รู้สึกดีใจมากครับที่ได้ยินว่าหนังเรื่องรักสยามเท่าฟ้าจะเข้าฉายต้นปีหน้านี้แล้ว พวกเรารอที่จะได้ดูหนังเรื่องนี้แบบฉบับสมบูรณ์มานานแล้ว (หัวเราะ) ซึ่งพอได้ดูมันก็คุ้มค่ากับการรอคอยจริงๆ เพราะช่วงที่เราถ่ายทำกันตอ้น พวกเราทั้งกองถ่ายแทบจะกลายเป็นคนในพื้นที่ของจังหวัดนครสวรรค์ไปเลย เนื่องจากการถ่ายทำนั้นใช้เวลาค่อนข้างนาน และเราต้องใช้ชีวิตกันอยู่ที่นั่นนานหลายเดือน เพราะฉากใหญ่ที่เราเซ็ตขึ้นมาเป็นโรงเก็บเครื่องบินและใช้ถ่ายทำกันประจำๆ ก็อยู่ที่นั่น ถ่ายเสร็จตกเย็นก็ยกขบวนกันไปร้านหมูกระทะ ไปกันทั้งกองถ่ายเลย มีผมเป็นเจ้ามือ ชีวิตช่วงนั้นของพวกเราเลยสนุกสนานกันมาก และหนังเรื่องนี้พี่ปื๊ดเค้าก็ตั้งใจทำงานมาก เค้าอยากให้หนังเรื่องนี้เป็นหนังแห่งประวัติศาสตร์ ได้ภาพสวยๆ แสงสวยๆ อยากให้คนไทยได้เห็นสภาพภูมิประเทศที่สวยงามของบ้านเมืองเราเมื่อสมัยก่อน เวลาที่เราใช้ถ่ายทำก็จะเลือกช่วงเวลาที่แสงสวยที่สุด นั่นก็คือช่วงแสงเช้ากับแสงเย็น ซึ่งความยากลำบากในการถ่ายทำก็คือเราต้องตื่นมาถ่ายกันแต่เช้า ซึ่งก็ราวๆ ตี4-ตี5 ได้ กว่าจะถ่ายเสร็จอีกทีก็ประมาณ 10 โมง หลังจากนั้นก็จะพักกอง และเว้นช่วงไปถ่ายแสงเย็นอีกที ประมาณ 3-4 โมง ซึ่งก็ทำให้ได้ภาพที่สวยงามสมกับความตั้งใจทีมงานจริงๆ ครับ ซึ่งสำหรับผม หนังเรื่องนี้นอกจากจะได้ความประทับใจจากการถ่ายทำแล้ว เนื้อหาของหนังเรื่องนี้ก็ทำให้ผมรู้สึกภาคภูมิใจมาก เพราะพี่ปื๊ดเค้าอิงข้อมูลมาจากประวัติศาสตร์จริงๆ อย่างบทที่ผมเล่นก็เป็นทหารชั้นประทวนคนเดียวในกองการบทย ซึ่งเป็นลูกชาวนาที่มาสมัครเข้ากองทัพด้วยความฝันที่อยากจะเป็นนักบิน อยากบินขึ้นไปบนท้องฟ้า แต่ในสมัยนั้นคนที่จะมาเป็นนักบินได้ ก็มีแต่นายทหารชั้นสัญญาบัตร หรือว่าพวกลูกเจ้าขุนมูลนายเท่านั้น แต่คนๆ นี้ก็ยังมุ่งมั่นที่จะทำความฝันของเค้าให้ได้ และในที่สุดเค้าก็สามารถฟันฝ่าอุปสรรคจนเข้าไปมีส่วนร่วมในกองทัพได้ แถมยังเข้าไปมีส่วนในการก่อตั้งกองการบินแรกแห่งเอเซียด้วย ซึ่งมันทำให้ผมรู้สึกดีที่มีโอกาสเป็นส่วนหนึ่งของภาพยนตร์ที่เกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่ของชาติไทย อยากให้คนไทยทุกคนชมภาพยนตร์เรื่องนี้กันครับ จะได้เห็นถึงความรักและความสามัคคีของคนไทยในสมัยก่อน ที่กว่าจะร่วมกันฝ่าฟันอุปสรรค ต้องอาศัยความร่วมมือร่วมใจกันอย่างมากจริงๆ เป็นความภาคภูมิใจของคนไทยทุกคนครับ ติดตามชมภาพยนตร์แห่งความรัก และความสามัคคี ที่จะก่อให้เกิดความภาคภูมิใจเหนือน่านฟ้าครั้งนี้ได้ใน รักสยามเท่าฟ้า วันที่ 31 มกราคม 2551 ทุกโรงภาพยนตร์ ทั่วประเทศ