ฉีเคอะ รีเมกหนังกำลังภายในครั้งประวัติศาสตร์ รูปแบบ 3D
Flying Swords of Dragon Gate 3D การรีเมก แอ็คชั่นกำลังภายในครั้งประวัติศาสตร์ เปิดคาแรกเตอร์ เหล่าจอมยุทธ จากฝีมือการกำกับโดย ฉีเคอะ
Dragon Gate หรือ โรงเตี๊ยมมังกร คือ ปราการด่านสุดท้ายจุดพักก่อนออกจากเมืองหลวง โรงเตี๊ยมแห่งนี้ ตั้งอยู่โดดเดี่ยวกลางทะเลทราย เป็นที่พักที่คนธรรมดาไม่กล้าแม้แต่จะคิดไป เป็นแหล่งรวมของจอมยุทธ ชุมโจร สารพัดคนอันตรายที่กล้ามาพักที่นี่ ด้วยเบื้องหลังการตามล่าขุมสมบัติมหาศาล ที่มีประตูทางเข้าซุกซ่อนอยู่ภายในโรงเตี๊ยมมังกร แห่งนี้ ใน Flying Swords of Dragon Gate 3D เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หลังจากที่ โรงเตี๊ยมมังกรถูกเผาจากการต่อสู้กับเหล่าจอมยุทธ จนทำให้ จิ้งจอกหยก เจ้าของโรงเตี๊ยมตัวจริง หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย
***********************
3 ปีต่อมา โรงเตี๊ยมแห่งนี้ถูกบูรณะขึ้นใหม่
ภายใต้การครอบครองของแก๊งค์โจรทะเลทรายที่ออกปล้นฆ่าผู้มาพัก ในตอนกลางวัน และล่าสมบัติในตอนกลางคืน โดยมีนางโจรสาวพราวเสน่ห์ จิ้งจอกทะเลทราย (เกยลุนเหม่ย) ตั้งตัวเป็น เจ้าของโรงเตี๊ยม ในขณะที่พายุทะเลทรายครั้งใหญ่ในรอบ 60 ปี กำลังพัดผ่านโรงเตี๊ยมมังกร ยุทธจักรก็กำลังปั่นป่วนเมื่อ หยู (เฉินคุน) ขันทีโฉดผู้สืบอำนาจจากเฉากงกง ยึดอำนาจเบ็ดเสร็จแทนฮ่องเต้ จนทำให้ สนมเอกที่กำลังตั้งท้อง (เมวิส ฟาน) ลอบหนีออกจากวัง ด้วยโชคชะตา เธอได้พบกับ เหวิน จอมยุทธสาวผู้ลึกลับ (โจวซุน) เหวิน พาหญิงสาวและเด็กในท้องหนีการตามล่าของกองทัพทหารมุ่งสู่โรงเตี๊ยมมังกร เพราะเธอเชื่อว่าที่ๆ อันตรายที่สุดคือที่ๆ ปลอดภัยที่สุด เมื่อฝ่ายขุนนาง รู้ถึง เป้าหมายที่ หยู ยกทัพออกจากวังไปเพื่อตามล่าพระสนมและเด็กในท้องเพราะต้องการล้มบัลลังก์ แม่ทัพ โจว (เจ็ท ลี) ขุนศึกผู้ภักดี ก็ได้ติดตามกองทัพไปเพื่อขัดขวางสู่จุดนัดหมายยังโรงเตี๊ยมมังกร
1. เทคโนโลยีสามมิติดีที่สุดในโลก
ด้วยทุนสร้างกว่า 1,000 ล้านบาท Flying Swords of Dragon Gate 3D ถือเป็นภาพยนตร์แอ็คชั่นกำลังภายในสามมิติตลอดเรื่องเรื่องแรกของโลก โดยทีมสร้างได้นำกล้อง Red One ที่มีความละเอียดสูงสุดในเทคโนโลยีปัจจุบันถึง 4 ตัว มาถ่ายทำในระบบสามมิติ โดยได้รับการดูแลจาก ชัค โคมินสกี้ ผู้ควบคุมการทำสามมิติให้กับ Avatar ภาพยนตร์เรื่องยิ่งใหญ่ของ เจมส์ คาเมรอน และทีมงานสามมิติจากทั่วโลกอีกกว่า 40 ชีวิต
2. ออกแบบเครื่องแต่งกายโดยนักออกแบบผู้ถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์
เครื่องแต่งกายได้รับการดูแลโดย หยีชุงมั่น ผู้ออกแบบเครื่องแต่งกายที่เคยเข้าชิงออสการ์จาก Curse of the Golden Flower ฝีไม้ลายมือของ หยีชุงมั่นเป็นที่โจษจัน ในเรื่องการผสมผสานระหว่างความอลังการกับศิลปะออกมาได้อย่างลงตัว เกยลุนเม่ย นักแสดงจาก Blue Gate Crossing และ Secret เผยถึงเครื่องแต่งกายของเธอว่า "ฉันต้องเวลาเตรียมตัวถึง 3 ชั่วโมงต่อวัน ประกอบไปด้วย ลูกปัด ผ้าไหมสีแดง ชุดเกราะ เครื่องเงิน รวมถึงลวดลายบนใบหน้าและร่างกาย โดยทั้งหมดก็มีมูลค่ามากกว่า 100,000 หยวน
3. การออกแบบฉากต่อสู้ขั้นเทพ ทั้งสู้กลางอากาศ บนดิน ด้วยอาวุธนานาชนิด
ฉากต่อสู้หลังภายในแบบเหนือชั้นในหนังเรื่องนี้ เป็นการปล่อยของแบบไว้ลายของผู้กำกับ ฉีเคอะ เพาะเขาปราณีตทั้งเรื่องการวางองค์ประกอบ การออกแบบฉากต่อสู้กลางอากาศด้วยการใช้สลิงเยอะที่สุดตั้งแต่ที่มีการสร้างหนังกำลังภายในมา แถม อาวุธที่ถูกใช้ในหนังยังเต็มไปด้วยอาวุธต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็น มีดสั้น ดาบวงพระจันทร์ กระบี่ ดาบ และแส้ ชนิดต่างๆ เป็นการรวมตัวของสุดยอดจอมยุทธ และ สุดยอดอาวุธ เอาไว้ ในเรื่องเดียวกัน เจ็ท ลี เล่าถึงประสบการณ์การถ่ายทำฉากแอ็คชั่นในระบบสามมิติว่า "มันมีความจากฉากต่อสู้ธรรมดา เนื่องจากความละเอียดและความลึก-ตื้นของภาพ ทำให้ทุกท่วงท่าต้องเหมือนว่าเรากำลังต่อสู้กันจริงๆ ทีมงานที่ดูแลสามมิติบอกผมว่า ในแต่ละเทคผมมีเวลาเพื่อออกท่วงท่าแค่ 8 วินาทีต่อหนึ่งครั้ง ซึ่งจากความเร็วของผม 8 วินาที ก็ถือว่าเต็มที่แล้ว นักแสดงคนอื่นๆก็ยิ่งต้องพยายามอย่างหนักที่จะออกท่าต่อสู้ภายใน 8 วินาที โดยแต่ละวันพวกเราต้องถ่ายทำให้ได้อย่างน้อย 25 ฉาก มันเป็นประสบการณ์ที่ทรหดจริงๆ
5 มกราคม 2012 ในระบบดิจิตอล 3 มิติ และ ระบบปกติ