ต้อนรับวันพ่อกับ 10 หนังวีรกรรมทำเพื่อลูก

หากมีคนมาถามกันตรงๆ ว่า คุณเคยบอกรักพ่อ หรือแสดงอะไรที่บ่งบอกให้ท่านรับรู้ถึงความรักความห่วงใยที่มีไปบ้าง ผมคนหนึ่งคงยกมือตอบอย่างละอายใจไปว่า น้อยมากๆ สำหรับตัวผม อย่าหาว่าเหมารวมบวกทุกท่านหรืออ้างเพื่อหาพรรคพวกเลย ผมว่า มีจำนวนไม่น้อยที่ตกที่นั่งเดียวกับผม พอถึงวันจริงก็ทำได้เพียงยกหูโทรศัพท์กริ๊งกร๊างถามสารทุกข์สุกดิบพ่อตามอัธยาศัย หรือไม่ก็อาจจะซื้อของไปฝากบ้าง ส่วนเรื่องบอกรักเนี่ย ม่ายยยเค๊ยยยย ไม่เคยทำกับเค้าสักที ในทางกลับกัน พ่อกลับแสดงความรักให้กับลูกอย่างล้นปรี่ ชนิดไม่มีแทงกั๊ก และเนื่องในโอกาสเข้าใกล้วันพ่อเต็มที ก็อยากจะแนะนำหนังดีๆ ที่เกี่ยวโยงกับวีรกรรมความรักของพ่อที่ทำเพื่อลูก ยอมทุกอย่าง แม้จะแลกด้วยชีวิต มา 10 เรื่องให้ชมสักหน่อย เผื่อว่าใครดูแล้ว อาจจะใจกล้าบอกรักพ่อขึ้นมาบ้าง ผมเองก็คิดว่าจะทำเช่นกัน โอ้ยยยย เขินชะมัด คุยไว้ขนาดนี้ก็ต้องทำแล้วล่ะ อย่างน้อยๆ ไม่กล้าพูด เปลี่ยนเป็นส่งข้อความก็ยังดี (หาทางบ่ายเบี่ยงหลีกเลี่ยงอีกแล้วเรา) 10 หนังวีรกรรมทำเพื่อลูกที่อยากจะแนะนำ รับรองว่าเด็ดจริง มีดังนี้

1. Life is beautiful - ยิ้มไว้โลกนี้ไม่มีสิ้นหวัง เรื่องย่อ : กุยโด ออร์ไฟซ์ (แสดงโดย โรแบร์โต เบนิญี่ซึ่งเป็นบทที่สามารถคว้ารางวัลออสการ์สาขานำชายยอดเยี่ยมปี 1998) หนุ่มชาวยิวช่างฝัน มองโลกในแง่ดี ที่ฝันจะมีร้านขายหนังสือของตัวเอง ในปี 1939 เขาย้ายเข้ามาอยู่ที่อเรซโซ และตกหลุมรัก ตอร่า ครูสาวแสนสวยทันทีที่เห็น ถัดมาทั้งคู่ได้แต่งงานกันและมีลูกชายชื่อ โจซัว ในไม่ช้ากุยโดก็สามารถเปิดร้านหนังสือในฝันได้สำเร็จ แต่แล้วเหตุการณ์ที่โหดร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ นั่นคือสงครามโลกครั้งที่ 2 กุยโดต้องปกป้องภรรยาและลูกชายจากการกวาดล้างเผ่าพันธุ์ยิว เมื่อโลกโหดร้ายกว่าที่คาด สถานการณ์ไม่เป็นอย่างที่คิด กุยโดต้องใช้จินตนาการ ความรัก และความหวังปกป้องครอบครัวจากความโหดร้ายของสงครามให้ได้ ถึงแม้ว่าอนาคตข้างหน้าจะเป็นอย่างไร เขาก็ยังคิดและเชื่ออยู่เสมอว่า "ชีวิตเป็นสิ่งสวยงาม"

วีรกรรมทำเพื่อลูก : กุยโด กับลูกชาย ถูกขังอยู่ด้วยกันภายในค่ายกักกันของนาซีเยอรมัน ความทุกข์ทนทรมานจากสภาพความเป็นอยู่อันแร้นแค้นและความโหดร้ายจากการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิว ดูจะเป็นอะไรที่หนักหนาสาหัสเกินกว่าที่เด็กวัย 5 ขวบอย่าง โจซัว จะรับไหว กุยโดผู้เป็นพ่อจึงต้องเนรมิตเรื่องโกหกขึ้นมา โดยจงใจเปลี่ยนภาวะอันเลวร้ายที่กำลังเผชิญอยู่ให้กลับกลายเป็นเกมที่ต้องร่วมสนุกลุ้นรางวัล เพื่อรักษาภาพความสวยงามในชีวิตของโจซัวให้คงอยู่

2. I am Sam - สุภาพบุรุษปัญญานิ่ม เรื่องย่อ : แซม ดอว์สัน (ฌอน เพนน์) พ่อผู้มีปัญหาทางสมอง ของเด็กหญิงนาม ลูซี่ (ดาโคต้า แฟนนิ่ง) เขาเลี้ยงดูเธอ จากความช่วยเหลือของกลุ่มเพื่อนที่ไม่ธรรมดาของเขา และเมื่อลูซี่มีอายุได้เจ็ดขวบ ซึ่งพัฒนาการทางปัญญาของเธอ กำลังก้าวล้ำหน้าผู้เป็นบิดา ความสัมพันธ์ของทั้งสองก็ถูกคุกคาม จากการเข้ามาแทรกของนักสังคมสงเคราะห์ ที่ต้องการดูแลลูซี่แทนแซม

วีรกรรมทำเพื่อลูก : แซมหาเลี้ยงลูกสาว ลูซี่ ตั้งแต่แบเบาะเพียงลำพัง ด้วยเงินเล็กๆ น้อยๆ เป็นค่าแรงจากงานในร้านกาแฟมาจุนเจือ และเมื่อเหล่านักสังคมสงเคราะห์ แทรกแซงความสัมพันธ์พ่อลูก เขาจึงต้องต่อสู้ในชั้นศาลเพื่อให้ได้ลูกคืนมา กระทั่งเขาได้ร่วมมือกับ ริต้า แฮริสัน (มิเชล ไฟเฟอร์) อัยการผู้มีความมั่นใจในตัวเองสูง ซึ่งยอมรับทำคดีให้แซม ไม่ใช่เพราะความเห็นอกเห็นใจ แต่เพื่อรับคำท้าของเพื่อนร่วมงานเท่านั้น ริต้า รู้ดีว่าคดีนี้มองไม่เห็นทางชนะได้เลย ส่วนแซมเองก็รู้ตัวว่าเขามีความผิดปกติแตกต่างไปจากคนอื่นๆ แต่ด้วยความรักที่ล้นปรี่ เขายอมทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้ดูแลลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนดังเดิม

3. Finding Nemo - นีโม ปลาเล็กหัวใจโต๊...โต เรื่องย่อ : มาร์ลิน ปลาการ์ตูนผู้รักสงบ รู้สึกไม่สบายใจและเป็นห่วง นีโม ลูกชายของเขาที่พิการคลีบข้างหนึ่ง แล้วยังต้องออกจากบ้านอันแสนปลอดภัยในวันแรกของการไปโรงเรียน ด้วยนิสัยที่วิตกกังวลเกินเหตุไปกับทุกการเคลื่อนไหวของลูก จนนีโมรู้สึกว่าพ่อมีอาการเว่อร์มากไปหน่อย จึงท้าทายคำห้ามปรามของพ่อ ด้วยการทำซนว่ายไปแตะที่เรือของนักสำรวจใต้น้ำ แล้วเรื่องคาดไม่ถึงก็เกิดขึ้น เมื่อนักดำน้ำรายหนึ่ง จู่ๆ ก็โผล่เข้ามารวบร่างของนีโมหายไปต่อหน้าต่อตามาร์ลิน ซึ่งไม่อาจช่วยอะไรได้ทัน การเดินทางออกผจญภัยในท้องทะเลแถบอ่าวซิดนี่ย์ฮาร์เบอร์ ซึ่งเต็มไปด้วยอันตรายนานัปการเพื่อตามหาลูกชายจึงเริ่มต้นขึ้น

วีรกรรมทำเพื่อลูก : มาร์ลินออกตามหานีโม ทั้งๆ ที่ไม่มีเบาะแสอะไรมาช่วยนัก ทั้งยังต้องเผชิญกับอันตรายในท้องทะเลมากมายก่ายกอง ทั้งจากปลาฉลามบ้าเลือด 3 ตัว ฝูงแมงกะพรุนมีพิษ นกนางนวลจอมตะกละ รวมไปถึงต่อสู้กับจิตใจตัวเอง ซึ่งแม้ทะเลจะเวิ้งว้างกว้างใหญ่สักเพียงใด ก็ไม่อาจกั้นขวางความรักของพ่อที่มีต่อลูกได้เลย

4. The Pursuit of Happyness - ยิ้มไว้ก่อนพ่อสอนไว้ เรื่องย่อ : เซลล์แมนขายเครื่องสแกนกระดูก คริส การ์ดเนอร์ (รับบทโดย วิล สมิธ) ที่ต้องแบกภาระเป็นหางเสือนำทางให้ครอบครัวพ้นจากภาวะยากจน แต่เพราะพิษเศรษฐกิจรุมเร้าเกินเยียวยา ภรรยาของคริสจึงทิ้ง เขา และลูกชายวัย 5 ขวบ คริสโตเฟอร์ (จาเดน คริสโตเฟอร์ ไซร์ สมิธ) ให้เผชิญกับภาวะเศรษฐกิจติดลบเพียงลำพัง เขาจึงตัดสินใจเข้าฝึกอบรมที่บริษัทนายหน้าค้าหุ้นแห่งหนึ่ง ทั้งๆที่ไม่ได้รับเงินเดือนในช่วงของการฝึกงานเลย และจะมีผู้ฝึกอบรมเพียงคนเดียวเท่านั้นที่จะได้รับการว่าจ้างให้เข้าทำงาน และในที่สุดเขาก็ได้เป็นผู้ฝึกอบรมเพียงคนเดียวที่บริษัทตัดสินใจจ้างเข้าทำงาน ทำให้ชีวิตของเขาหลังจากนี้ไปเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง กระทั่งคริสกลายเป็นสุดยอดเซลแมนที่ประสบความสำเร็จที่สุดคนหนึ่งในประวัติศาสตร์อเมริกา

วีรกรรมทำเพื่อลูก : คริส พ่อหม้ายลูกติดก่อนที่เขาจะประสบความสำเร็จได้นั้น ต้องกัดฟันสู้กับความยากจนขั้นรุนแรง โดยเขาต้องรับจ้างทำงานทุกอย่าง เพื่อหาเงินมารองรับความหิวโหยของลูก แต่นั่นก็ไม่เพียงพอสำหรับเช่าห้องอยู่ บ่อยครั้งที่เขาต้องกระเตงลูกชายตัวน้อยออกเร่ร่อนเหมือนคนจรจัด บางครั้งก็จะมาต่อแถวเพื่อขอที่นอนอุ่นๆ ในโบสถ์ หากวันใดเข้าคิวไม่ทัน เขาก็จะอาศัยห้องน้ำสาธารณะของสถานีรถไฟใต้ดินเป็นที่พักพิง เขาอดทนและสู้ยิบตาเพื่อความเป็นอยู่ที่ดีของลูกชายสุดที่รัก และด้วยพลังแห่งความรักที่มีต่อลูก กลายเป็นแรงฮึดมหาศาลที่นำพา คริส ไปสู่ความสำเร็จและน่าทึ่งยิ่งกว่าคือหนังเรื่องนี้สร้างจากเรื่องจริงซะด้วย

5. The Mist - มฤตยูหมอกกินมนุษย์ เรื่องย่อ : เรื่องราวของผู้คนในเมืองเล็กๆ ที่หนีตายไปอยู่ในซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่ง หลังจากที่เมืองทั้งเมืองถูกพายุหมอกมรณะครอบคลุมและ ในพายุหมอกนั้นมีสิ่งชั่วร้ายแฝงตัวอยู่ มันคืออสุรกายหลากหลายรูปแบบที่พร้อมจะกัดกินมนุษย์ทุกรายที่ผ่านเข้าไปในพายุหมอก ให้หายไปกับสายลม ความตายทำให้ทุกคนหวาดผวา จนแต่ละคนเริ่มจะเผยธาตุแท้แห่งการเอาชีวิตรอด เหยื่อรายต่อไปจะเป็นใคร และอสุรกายเหล่านั้นมันมาจากไหน ความดุร้ายยิ่งกว่าสิ่งที่เห็นอยู่ภายนอกทั้งหมด มันกำลังคืบคลานเข้ามาสู่ซูเปอร์มาร์เก็ตสถานที่ๆ ทุกคนคิดว่าปลอดภัยที่สุด

วีรกรรมทำเพื่อลูก : เดวิด (โธมัส เจน) และลูกชาย ต้องติดอยู่ภายในซูเปอร์มาร์เก็ต ที่ภายนอกนั้นเต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตน่าสะพึงกลัว เขารับปากคำสัญญาที่ให้ไว้กับลูกชายว่า จะปกป้องและไม่ยอมให้สัตว์ประหลาดในหมอกมากัดกินลูกเป็นอันขาด และเขาก็ทำเช่นนั้นจริงๆ จนมันกลายเป็นฉากจบอันน่าสะเทือนใจ ที่หากคุณไม่ช็อค ก็ต้องเกลียดฉากนี้ไปเลย เพราะการทำเพื่อลูกของเขา มันช่างน่าหดหู่ยิ่งนัก แม้มันจะเป็นความหวังดีที่ฝืนใจตัวเองเท่าไรก็ตาม

6. Road to Perdition - ดับแค้นจอมคนเพชฌฆาต เรื่องย่อ : สองพ่ออย่างไมเคิล ซัลลิแวน (ทอม แฮงค์ส) มือสังหารรับจ้าง แห่งกลุ่มอาชญากรไอริชในชิคาโก เมื่อช่วงภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ และ มิสเตอร์ จอห์น รูนนี่ย์ (พอล นิวแมน) เจ้านายของซัลลิแวน ผู้ชุบเลี้ยงเขามาอย่างพ่อกับลูก และสองลูกชายอย่างไมเคิล ซัลลิแวน จูเนียร์ (ไทเลอร์ เฮอคลิน) และ คอนเนอร์ รูนนี่ย์ (แดเนียล เครก) ซึ่งต่างกระหายความชื่นชมจากพ่อของแต่ละฝ่าย ความริษยาและการแข่งขัน นำพวกเขาไปสู่การกระทบกระทั่งกัน จนในที่สุดทำให้อาชีพของซัลลิแวน มีส่วนทำให้ครอบครัวพังพินาศ จนกลายเป็นการสูญเสีย แอนนี่ (เจนนิเฟอร์ เจสัน ลีห์) ภรรยาสุดที่รักของเขา และลูกชายคนเล็ก ปีเตอร์ (เลียม ไอเคน) คราวนี้ไมเคิลและลูกชายที่รอดชีวิต จำต้องออกเดินทาง ด้วยแรงกระตุ้นจากโศกนาฏกรรม และเพลิงแค้น Road to Perdition คือการถ่ายทอดเรื่องราวแห่งสองครอบครัว ซึ่งโชคชะตาถูกกำหนด โดยความสัมพันธ์ซับซ้อน และความไม่ลงรอยกัน ระหว่างพ่อกับลูก และลูกกับพ่อ ทั้งสองคู่

วีรกรรมทำเพื่อลูก : จอห์น รูนนี่ย์ รู้ดีว่าไมเคิล ซัลลิแวน ไม่มีทางปล่อยให้คอนเนอร์ รูนนี่ย์ ลูกชายของเขามีชีวิตรอดเป็นแน่ จึงต้องฝืนใจยอมส่งคนไปฆ่าไมเคิล ซึ่งเป็นลูกบุญธรรมของตัวเอง เพื่อที่จะรักษาลมหายใจลูกในไส้ แต่ไม่เอาไหนอย่าง คอนเนอร์ให้ยืดยาวที่สุด ขณะเดียวกัน ไมเคิลเองก็ต้องปกป้องลูกชายจากมือสังหารที่ถูกส่งมาโดยไม่เกรงกลัวต่อความตายเช่นกัน

7. The Day After Tomorrow - วิกฤติวันสิ้นโลก เรื่องย่อ : แจ็ค ฮอลล์ (เดนนิส เควด) ผู้เป็นนักกาลวิทยา ที่ค้นพบว่า สภาวะโลกร้อนอาจเป็นชนวนหายนะ แห่งการเปลี่ยนแปลงอย่างกระทันหันของภูมิอากาศโลก แกนน้ำแข็งที่เขาทำการเจาะในทวีปแอนตาร์กติกา บ่งว่ามันเคยเกิดขึ้นมาแล้ว เมื่อหนึ่งหมื่นปีก่อน และในตอนนี้เขาได้ส่งคำเตือนไปยังหน่วยราชการ ว่ามันอาจเกิดขึ้นอีกครั้ง หากไม่มีการดำเนินการโดยทันที แต่คำเตือนของเขามาถึงช้าเกินไป จากนั้นปรากฏการณ์การเปลี่ยนแปลงของอากาศอย่างรุนแรง ซึ่งเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องไปทั่วโลก ทั้งลูกเห็บขนาดใหญ่เท่าผลส้มโอ ตกกระหน่ำเมืองโตเกียว ลมพายุเฮอริเคนรุนแรงพัดเข้าสู่ฮาวาย หิมะตกที่เมืองนิวเดลี และจากนั้นพายุทอร์นาโดหลายลูก ก็เข้ากวาดเมืองลอสแอนเจลิส แซม (เจค กิลเลนฮาล) ลูกชายวัย 17 ของแจ็คติดอยู่ในนิวยอร์ค ซิตี้ ในระหว่างที่เขาและเพื่อนๆ ไปร่วมแข่งขันด้านวิชาการระดับมัธยม และตอนนี้เขาต้องเผชิญกับอุทกภัยร้ายแรง และอุณหภูมิที่กำลังดิ่งลงอย่างรวดเร็ว ต่อมาได้ถูกอพยพเข้าไปอยู่ในหอสมุดสาธารณะแห่งแมนฮัตตัน แซมจึงสามารถติดต่อกับพ่อของเขาได้ทางโทรศัพท์ แจ็คมีเวลาที่จะเตือนลูกเพียงข้อเดียวเท่านั้น จงอยู่แต่ในอาคารไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น

วีรกรรมทำเพื่อลูก : แม้ตอนต้นเรื่องหนังจะแสดงให้เห็นว่าแจ็คและลูกชายไม่ค่อยลงรอยกันนัก เนื่องจากงานของแจ็คบีบให้เขาไม่ค่อยมีเวลาให้กับลูก แต่ลึกๆ แล้ว ความรักความห่วงใยนั้นมีให้เสมอ แจ็คอุทิศชีวิตตัวเอง ยอมเสี่ยงตายเพื่อไปช่วยแซม ที่ติดอยู่ในห้องสมุด ทั้งๆ ที่รู้ดีกว่าใครว่า โอกาสช่วยชีวิตลูกชายนั้น เป็นไปได้น้อยเต็มที

8. The Road - ข้ามแดนฝ่าแดนอำมหิต เรื่องย่อ : เรื่องราวของ พ่อ (วิกโก้ มอร์เทนเซ่น) และลูกชาย ที่เดินเท้าอย่างโดดเดี่ยวข้ามอเมริกาที่ถูกทำลายล้างด้วยมหันตภัยลึกลับ สองพ่อลูกเดินไปตามทางหลวงที่มุ่งหน้าสู่ภาคใต้เพื่อหนีอากาศอันหนาวเหน็บ แม้ไม่รู้ว่าหนทางข้างหน้าจะเป็นอย่างไร นอกจากเสื้อผ้าที่ใช้ปกปิดร่างกายแล้ว พวกเขาไม่มีอะไรติดตัว นอกจากปืนหนึ่งกระบอกที่ใช้ป้องกันตัวจากพวกมนุษย์กินคนที่จ้องทำลายล้างเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน เพื่อความอยู่รอดของตนเอง ท่ามกลางสภาพสังคมที่ไร้กฎหมาย

วีรกรรมทำเพื่อลูก : พ่อผู้มองโลกในแง่ร้าย กับลูกชายที่จิตใจบริสุทธิ์ไร้เดียงสา ต้องขัดแย้งกันทางความคิดอย่างรุนแรง ซึ่งตรงข้ามกับความรักที่ทั้งคู่มอบให้กันอย่างสิ้นเชิง แม้มันจะดูอย่างผิวเผินไม่ออกสักเท่าไร แต่อย่างไรก็ตามลูกชายของเขาก็เปรียบเสมือนไฟดวงเล็กๆ ที่สว่างไสวในความมืด ที่ช่วยหล่อเลี้ยงให้เขามีกำลังใจสู้กับชีวิตแสนลำบากและสุขภาพที่ย่ำแย่ต่อไป เพื่อปกป้องลูกชายจากอันตรายทั้งปวง

9. War of the World - อภิมหาสงครามล้างโลก เรื่องย่อ : เรย์ เฟอร์เรียร์ (ทอม ครูซ) คนงานอู่เรือ ซึ่งเป็นคุณพ่อที่แทบไม่เคยได้พบเจอหน้าลูกๆ เรเชล (ดาโกต้า แฟนนิ่ง) และ ร็อบบี้ (จัสติน แช็ตวิน) เรย์ไม่เคยอยู่กับลูกเลย ขณะที่พวกเขาเติบโตขึ้นทุกวัน ดังนั้นเด็กๆ จึงคิดว่าพ่อมักจะทำให้พวกเขาผิดหวังเสมอ แต่เมื่อครอบครัวเดียวของเรย์ถูกคุกคาม จากสิ่งมีชีวิตนอกโลกอันทรงพลัง เขายอมเสียสละและทำทุกอย่าง เพื่อให้ลูกๆ ของเขารอดชีวิต และท่ามกลางการต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอด จากความพินาศและความท้าทาย อันยากจะจินตนาการ เรเชลและร็อบบี้ จึงได้มีโอกาสมองพ่อของพวกเขาในมุมมองใหม่

วีรกรรมทำเพื่อลูก : ที่ผ่านมา เรย์ มีชีวิตที่เลื่อนลอย ไร้จุดหมาย ขาดความรับผิดชอบ เหลวแหลกทั้งการงานที่ไม่มั่นคง และจากการหย่าขาดกับภรรยา แต่เมื่อมนุษย์ต่างดาวบุกและทำลายทุกสิ่งที่เขาเคยรู้จักบนโลกใบนี้ หน้าที่ของความเป็นพ่อก็เกิดขึ้นโดยอัตโนมัติ ชีวิตเขากลับมามีจุดมุ่งหมายอีกครั้งนั่นคือ รักษาลมหายใจของลูกให้ยาวนานที่สุด โดยไม่สนว่าจะต้องทำอะไรลงไปบ้าง อาทิ ฉากหนึ่งชายแปลกหน้า (ทิม ร็อบบิ้นส์) ผู้ให้ที่พักพิงกับเรย์ และลูกสาว ส่งเสียงเอะอะมะเทิ่ง จนเรย์เกรงว่าจะเป็นเผยที่ซ่อนตัวให้เอเลี่ยนได้รู้ เขาจึงต้องลงมือสังหารชายแปลกหน้าคนนั้น หรือฉากในกรงขังบนยาน เมื่อเอเลี่ยนพยายามจะจับตัวเรเชล แต่เรย์เอาตัวเองไปขวางแทน นั่นคือสัญชาตญาณของความเป็นพ่อโดยแท้ ที่จะปัดป้องลูกจากภยันตราย แอบซึ้งจริงๆ

10. Kick Ass - เกรียนโคตร มหาประลัย เรื่องย่อ : หนุ่มวัยรุ่น เดฟ ไลซูว์สกี้ (แอรอน จอห์นสัน) แฟนพันธุ์แท้หนังสือการ์ตูนซูเปอร์ฮีโร่ที่ตัดสินใจนำความหลงใหลของตัวเองมาเป็นแรงบันดาลใจสร้างตัวเขาให้เป็นซูเปอร์ฮีโร่ในชีวิตจริง ตามธรรมเนียมของซูเปอร์ฮีโร่ทั่วไป เขาตั้งฉายาให้ตัวเองว่า คิกแอส เขาออกแบบตัดชุดเอง หาหน้ากากมาใส่ แล้วออกไปปราบเหล่าร้าย เขาติดปัญหาอยู่อย่างเดียวนั่นคือ คิกแอส ไม่มีซูเปอร์พาวเวอร์อะไรเลย แต่ชีวิตเขาก็เปลี่ยนไปไม่มีวันเหมือนเดิม เมื่อเขาจุดประกายให้พวกกลุ่มที่ชอบเลียนแบบคนดัง เขาได้พบกับคู่พ่อ-ลูกที่ตั้งตัวเป็นผู้ผดุงความยุติธรรมชนิดบ้าดีเดือด นั่นคือ สาวน้อยมหาประลัยแสบเกินวัย 11 ขวบฉายา ฮิทเกิร์ล (โคลอี้ มอเรทซ์) และพ่อของเธอ บิ๊กแด๊ดดี้ (นิโคลัส เคจ) นอกจากนี้เขายังได้พบมิตรภาพใหม่กับมือปราบเหล่าร้ายมือใหม่ เร้ด มิสต์ (คริสโตเฟอร์ มินตซ์ แพลสส์) ก๊วนยอดมนุษย์กลุ่มใหม่นี้ต้องผจญภัยกับบททดสอบสุดท้าทายเมื่อต้องทำลายแผนการชั่วร้ายของมาเฟียท้องถิ่นอย่าง แฟรงค์ ดีอามีโก้ (มาร์ค สตรอง)

วีรกรรมทำเพื่อลูก : ถึงจุดมุ่งหมายหลักของบิ๊กแด๊ดดี้ คือสร้างความหายนะแก่แฟรงค์ ดีอามีโก้ เพื่อล้างแค้นให้ภรรยาและชดเชยชีวิตที่เสียไปของเขาและลูกสาว แต่หากมองลึกลงไป บิ๊กแด๊ดดี้ได้วางแผนหมดแล้ว โดยเขาฝึกปรือฝีมือการต่อสู้ป้องกันตัวให้กับลูกสาว ไม่ใช่เพราะต้องการความช่วยเหลือในการสนองตอบกับผู้พรากทุกสิ่งไป แต่หากเพื่อให้ลูกสาวสามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ยามที่เขาจากไปแล้วต่างหาก เพราะท้ายสุดแล้ว เขาก็รู้ตัวดีว่า ต้องเอาชีวิตตัวเองต่อลมหายใจลูกเท่านั้น

เขียนและเรียบเรียงโดย ฉายเดี่ยว