MMAX Theatre สุดยอด โรงภาพยนตร์ดิจิตอล 3 มิติ

เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาได้มีโอกาสไปเปิดหูเปิดตาดูหนังยกครัวที่ เอสพลานาด ซีนีเพล็กซ์ งามวงศ์วาน-แคราย ห้างสรรพสินที่เพิ่งเปิดใหม่สดๆ ร้อนๆ เพียงแค่ก้าวแรกที่เดินเข้าไปก็รู้สึกว่า ทันสมัยสุดๆ รอช้าไม่ได้แล้วแล้ว รีบขึ้นไปที่ Box Office ชั้น 3 ตีตั๋ว 3 ใบดู Avatar อวตาร หนังของผู้กำกับ ไททานิค ที่ได้ดู Footage เมื่อกลางปี แล้วก็วางหมุดไว้เลยว่า ถ้าฉันไม่ได้ดูเรื่องนี้ ฉันคงจะคุยกะเพื่อนไม่รู้เรื่องแน่ๆ และไหนๆ ก็มาถึงที่นี่แล้ว ต้องขอลองเข้าไปดูหนังในโรง M MAX สักหน่อย เพราะได้ยินกิตติศัพท์มาว่า จอใหญ่ที่สุด สีสวยสุดๆ ภาพคมสุดๆ ซึ่งถ้ามาที่นี่แล้วไม่ได้ดูหนังโรง M MAX ก็เท่ากับว่ามาไม่ถึง! ทันทีที่เดินเข้าไปในโรง ก็ต้องอุทานออกมาว่า โอ้แม่เจ้า...นี่ฉันตายไปแล้วเหรอเนี่ย! นี่มันสวรรค์ชัดๆ M MAX เป็นโรงหนังขนาดใหญ่ (มาก) แถมยังเป็น โรงดิจิตอล 3D ที่สุดใหญ๋ที่ในเมืองไทย ด้วย แถมการตกแต่งก็ให้ความรู้สึกทันสมัยและคลาสสิก ด้วยสไตล์นีโอ-โกธีค ไฟสีสลัวๆ เก้าอี้สีแดง ทางเดินปูพรมสีสวย โอ้...มันช่างลงตัวและเข้ากันดีเหลือเกิน ตั๋วที่ซื้อมาเป็นที่นั่งเบอร์ A16, A17 ซึ่งอยู่ริมๆ ทีแรกก็คิดว่า งานนี้คงต้องเมื่อยคอแน่ๆ แต่ผิดคาดเลย ด้วยความที่โรงนี้มีจอหนังที่ใหญ่มาก แถมไม่มีขอบอีกต่างหาก ภาพจึงออกมา เต็มอิ่ม ตื่นตา เต็มอารมณ์ ด้วยระบบ 3 มิติ ทำให้ภาพ มีความสมจริง เหมือนภาพทะลุจอออกมากได้ เรียกได้ว่าเราแทบจะไปอยู่ในหนังจริงๆ เลย ภาพก็สีสวย มีความสด คมชัด แว่วมาว่า จอภาพยนตร์นี้มีสีสันมากว่า 35 ล้านล้านสี ซึ่งทำให้ภาพมีความ ชัดกว่า คมกว่า ใสกว่า ดังนั้น ไม่ว่าเราจะนั่งอยู่ตรงไหน ก็สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน และภาพไม่มีการกระตุก ระบบเสียง ไม่ต้องพูดถึง ดังกระหึ่ม เซอร์ราวนด์ สนั่นจอ มากกว่าระบบปกติที่เราดูกันหลายเท่า เนื่องจากข้อมูลไม่มีการบีบอัด ทำให้เสียงที่ได้ยินเหมือนฟังจากต้นฉบับ ดูหนังเสร็จ อึ้งไป 10 นาทีกว่าจะตั้งสติได้ เพราะรู้สึกเหมือนว่าเพิ่งหลุดออกจากโลกอวตารแล้วกลับสู่โลกแห่งความจริง อันนี้ไม่ได้โม้นะค่ะ แต่มันให้ความรู้สึกแ ทุกตอนเหมือนมีส่วนร่วม โดยเฉพาะตอนที่ พระเอก ขี่หลังนก ที่ถึงขนาดนั่งเกร็งว่านกจะบินมาจิกหัวเลยทีเดียว เจ๋งขนาดนี้ คงต้องจดบันทึก MMAX ไว้เป็นโรงภาพยนตร์ในดวงใจอีก 1 โรงแล้วล่ะ ที่ถ้ามีโอกาสจะต้องไปดูอีกให้ได้ วันหยุดยาวนี้หากยังไม่มีโปรแกรมไปไหน ก็ลองแวะมาดูหนังที่ MMAX เอสพลานาด งามวงศ์วาน แคราย ดูก็ได้นะค่ะ รับรองเลยว่า คุณจะได้สัมผัสประสบการณ์การดูหนังอันสุดวิเศษที่คุณไม่เคยเจอมาก่อนในชีวิตแน่นอน...

ความเหมือนที่แตกต่างระหว่างโรง MMAX และ IMAX 2 โรงนี้ชื่อคล้ายกันๆ กัน หลายคนจึงอาจยังสงสัยว่า เกี่ยวข้องกันยังไง เหมือนหรือต่างกันยังไง ถ้างั้นเรามาดูกันดีกว่าว่า โรงทั้ง 2 นี้ มีคุณสมบัติพิเศษอย่างไรบ้าง... MMAX เป็นหนึ่งในโรงภาพยนตร์ซึ่งที่อยู่ เอสพลานาด ซีนีเพล็กซ์ งามวงศ์วาน-แคราย โรงภาพยนตร์แห่งใหม่สุดแสนจะอินเทรนด์ที่เพิ่งเปิดตัวไปอย่างอลังการเมื่อต้นเดือน ธ.ค.ที่ผ่านมา โรง MMAX มีจุดเด่น ที่น่าสนใจยังไง ถึงได้ขึ้นชื่อว่า เป็นความสุดยอดของ โรงภาพยนตร์ ดิจิตอล 3 มิติ ไปดูกันเลย เป็นโรงหนังดิจิตอล 3D ที่ใหญ่ที่สุดในเมืองไทย เต็มอิ่มไร้ขีดจำกัด กับจอไร้ขอบ celling to floor, wall to wall screen ฉายด้วยระบบ 3 มิติ สมจริง ทะลุจอ เหมือนกับว่าเราได้เข้าไปอยู่ในภาพยนตร์เรื่องนั้นจริง ๆ ระบบเสียงดิจิตอลกระหึ่มสนั่นจอมากกว่าระบบปกติหลายเท่า ไม่มีการบีบอัดข้อมูล ซึ่งทำให้เสียงที่ได้ยินเหมือนฟังจากต้นฉบับจากสตูดิโอ บันทึกเสียง ทำให้พลังเสียงตื่นตาตื่นใจคตลอดการชมภาพยนตร์ สีสมจริง เป็นธรรมชาติ จอภาพยนตร์แสดงสีสันมากถึง 35 ล้านล้านสี มีการแสดงผลแบบ 24 ภาพต่อวินาที ทำให้ทุกภาพที่เคลื่อนไหวที่ความต่อเนื่อง และ ราบรื่น คงอรรถรสของภาพยนตร์เอาไว้ทุกฉากทุกตอน ภาพชัดกว่า ใสกว่า จากมุมของทุกที่นั่งในโรงภาพยนตร์ ความละเอียดของภาพคมชัดเหนือกว่าฟิล์มภาพยนตร์และสูงกว่าเครื่องฉายที่ใช้ในโฮมเธียร์เตอร์ ภาพไม่มีการกระตุกและรอบขีดข่วนจากการฉาย โรง IMAX จะมีขนาด และระบบการฉาย ที่แตกต่างจาก โรง MMAX IMAX โรงภาพยนตร์ที่อยู่บนห้าจเมืองอย่าง สยามพารากอน ที่หลายคนเคยใช้บริการแล้วพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ดูแล้วเสมือนได้เข้าไปอยู่ในเหตุการณ์ของภาพยนตร์เรื่องนั้นจริงๆ ยิ่งดูฉากตื่นเต้น เร้าใจ ด้วยแล้วล่ะก็ เราจะลุ้นจนตัวโก่ง เหมือนกับว่าตัวเราเองกำลังสวมบทบาทนั้นอยู่เลยทีเดียวเชียว ซึ่งความสุดยอดของ โรง IMAX มีดังนี้ จอใหญ่ขนาด 21x28 เมตร ซึ่งถือว่าเป็นจอที่ใหญ่ที่สุดในเมืองไทย จอเคลือบด้วย ซิลเวอร์สกรีน สะท้อนแสงมากกว่าโรงทั่วไป โปรเจ็กเตอร์กำลังขับ 8K ซึ่งเป็น 4 เท่าของโรงดิจิตอลซึ่งกำลังขับ 2K ที่นั่ง Stadium Seat ไม่บังกัน คนข้างหน้าไม่บังคนข้างหลัง ระบบเสียง ดิจิตอล 12,000 วัตต์ ใช้ลำโพง 44 ตัว ระบบ สามมิติ ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ด้วยลิขสิทธิ์เฉพาะของไอแมกซ์ ใช้ฟิลม์ 70 มม ซึ่งใหญ่เป็น 10 เท่าของฟิล์มในโรงภาพยนตร์ปกติ จึงให้ภาพที่คมชัดสมจริงมากกว่า โรงทั่วๆไป ระบบแว่น สามมิติ ที่เบา สบาย น้ำหนักเบาแต่เลนส์ใหญ่ เลนส์ สามารถวางบนแก้มได้ไม่ปวดหู ไม่ปวดขมับ ระบบสามมิติ ที่ลึกกว่า ทุกระบบ เนื่องด้วย ใช้ลิขสิทธิ์การแปลงของไอแมกซ์

แหม...เรียกได้ว่า ทั้ง 2 โรงต่างก็มีความสุดยอดกันไปคนละแบบเลยนะค่ะ วันหยุดยาวปีนี้ ใครยังไม่มีโปรแกรมไปไหน ก็น่าจะลองเข้าไปดูหนังซักเรื่อง จะเลือก MMAX หรือ IMAX ก็ได้ แล้วแต่ความสะดวก แล้วคุณจะพบว่าประสบการณ์ดูหนังนอกบ้านมันยอดเยี่ยมขนาดไหน!