วิจารณ์ภาพยนตร์ พระพุทธเจ้า
The Buddha เป็นผลงานอันนิเมชั่น 2 มิติของคนไทย...เพื่อเฉลิมฉลองเนื่องในวโรกาสที่ พระบามสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระชนมายุครบ ๘๐ พรรษา ในวันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๕๐
ประเทศไทยเป็นเมืองพุทธ มีพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเป็นพุทธมามกะ เป็นที่ประจักษ์ ชัดแล้วว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงประพฤติพระองค์ เป็นพุทธศาสนิกชนที่ประเสริฐเคารพนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย และทรงเชิดชูพระพุทธเจ้าด้วยการน้อมนำคำสอนของพระองค์มาใช้ในการบำเพ็ญพระราชกรณียกิจ เพื่อประโยชน์ของชาวไทยจนทำให้ได้รับคำ สดุดีพระเกียรติคุณจากพสกนิกรชาวไทยว่า ทรงเป็นพระธรรมิกราช (พระราชาผู้ทรงธรรม)
ประวัติพระพุทธเจ้า คือ เรื่องราวของ พระพุทธเจ้า นับตั้งแต่ประสูติ เสด็จออกบรรพชา ตรัสรู้ บำเพ็ญเพียร จนถึงตรัสรู้และเสด็จจาริก ออกแสดงธรรม โปรดสัตว์โลก ตลอดเวลาที่ผ่านมา มีพุทธศาสนิกชนชาติต่างๆ อาทิ จีน ญี่ปุ่น รวมทั้งชาวยุโรป พยายามทำพระประวัติ ส่วนนี้ออกเผยแพร่ในรูปของการ์ตูน แต่ก็ยังไม่สมบูรณ์ บางเรื่องบางตอนก็มีเนื้อหาขัดแย้งกับคัมภีร์พระไตรปิฎก และอรรถกถาบาลี
ซึ่งถือว่าเป็น แหล่งข้อมูลเกี่ยวกับพระประวัติของพระพุทธเจ้าที่เก่าแก่ ที่สุดของโลก ในฐานะที่ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีพระพุทธศาสนาเป็นศาสนา ประจำชาติ น่าจะได้มีการสร้างภาพยนตร์การ์ตูนเกี่ยวกับพระ ประวัติของพระพุทธเจ้าที่มีเนื้อหาสอดคล้องกับพระไตรปิฎก และอรรถกถาออก เผยแพร่เป็นพุทธบูชา อีกทั้งในปี พ.ศ. ๒๕๕๐ พระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระชนมายุครบ ๘๐ พรรษา ควรที่พสกนิกรชาวไทย จะได้มีสิ่งสำคัญสูงสุดไว้ถวายให้เป็นพระเกียรติยศสืบ กลุ่มธรรมะ
การ์ตูนเห็นความสำคัญทั้ง ๒ ประการนี้จึงได้ตกลงร่วมมือกับ บริษัท มีเดียสแตนดาร์ด จำกัด จัดทำโครงการภาพยนตร์การ์ตูนเรื่อง ประวัติพระพุทธเจ้า เพื่อนำออกเผยแพร่ โดยมีมหาวิทยาลัย มหาจุฬาลงกรณ ราชวิทยาลัย ให้คำปรึกษาเกี่ยวกับเนื้อหาวิชาการ และแปลเป็นภาษา นานาชาติ ๕ ภาษาเป็นอย่างน้อย คือ ภาษาอังกฤษ ภาษาจีน ภาษาเกาหลี ภาษาญี่ปุ่น และภาษาเยอรมัน
โดย การ์ตูนอนิเมชั่นของคนไทยนั้นอาจจะไม่ใช่ระดับต้นๆ ซึ่งเราจะไปเทียบกับทางฮอลลีวู้ดไม่ได้เลย แต่ถ้าเรากลับมองดูแล้วว่า อนิเมชั่นเรื่องนี้นั้นทำออกมาเหมือนกับ การ์ตูนของ วอลท์ ดิสนีย์ ในสมัยยุคต้นๆ เช่นพวก ลิตเติ้ล เมอร์เมด หรือจะเป็น โพคาฮอลทัช นั้น พวกเราคงจะจำได้ดีหรือ มู่หลาน ซึ่งการ์ตูน พระพุทธเจ้านั้นทำออกมาคล้ายกันในช่วงยุคนั้นๆ เช่นกัน
การสร้างและทำตัวละคร ทำออกมาได้สวยสดงดงาม ผสมกับการเล่นสีที่ตัดสว่างกันได้ดี และมีการเน้นของเนื้อหาการแต่งเพลง คล้ายกับทาง วอลท์ ดิสนีย์ อยู่ แต่เห็นได้ว่า วอลท์ ดิสนีย์ยังไม่เคยทำการ์ตูนทางประวัติศาสตร์ หรือ อัตชีวประวัติ อย่างนี้มาก่อน ทำให้เรื่องนี้น่าเป็นจุดดึงความสนใจของคนทั่วโลกได้ ทั้งการวางโครงเรื่องนั้นเข้าใจง่าย
พร้อมปนหลักธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าที่เราชาวพุทธ สามารถรับรู้ได้ง่ายดาย ผ่านตัวการ์ตูน ที่ทำให้เด็กๆนั้น เพลิดเพลินไม่ใช่เป็นแค่เนื้อหาวิชาการอย่างเดียว และยังต้องรวมไปถึงนักพากษ์ของหนังการ์ตูนเรื่องนี้ ว่าพากษ์ออกมาได้ดี ทำให้การ์ตูนดูสุขุมสงบ และไม่มีการทะลึ่งตึงตัง มาให้ชวนรำคาญหู ถือว่าทำได้ดี
ส่วนข้อเสีย ในส่วนตัวของผม คิดว่าน่าจะเป็นการวาดภาพก่อนจะเป็นที่มาของตัวละคร บางทีตัวละครหน้าเหมือนกันมาก จนบางทีผมเองยังสับสนอยู่เลย และการดำเนินเรื่องราวยังเร็วไปมากตัดไปจบเร็วไป เพื่อให้บรรลุคำสั่งสอนของตอนนั้นๆมากกว่า เร่งไปหน่อยครับ และ เรื่องของภูติผีปีศาจก็ทำออกมายังแข็งๆอยู่ เลยดูเหมือนว่า ดูการ์ตูน จ๊ะจิงจา ทางช่อง 7 แบบจบเป็นตอนๆ มีการตัดฉากบ่อยไปหน่อย แต่โดยรวมถือว่าไม่บกพร่องอะไร
สรุป - การ์ตูนแอนนิเมชั่นเรื่อง พระพุทธเจ้า นั้นเป็นของคนไทยที่พร้อมจะทำให้คนทั่วโลกรู้จัก ในการ์ตูนปฝงธรรมะสอนใจ ให้รู้ดีรู้ชั่ว จะบอกว่าไม่มีพิษมีภัยกับใครและ เพื่อเฉลิมฉลองเนื่องในวโรกาสที่ พระบามสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระชนมายุครบ ๘๐ พรรษา ในวันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๕๐ นี้ด้วยการดูสิ่งที่ดี คิดดีทำดี จิตผ่องใสใจเบิกบาน ผมว่า หนังการ์ตูนเรื่องนี้ทำออกมาได้ถูกที่และเวลามากเลยทีเดียวครับ 3 ดาวกับความรู้ทางธรรมมะและพระธรรมคำสั่งสอนครับ ดูแล้วอิ่มอกอิ่มใจครับ
" บทวิจารณ์ภาพยนตร์เป็นเพียงความเห็นส่วนบุคคล กรุณาตัดสินจากการชมภาพยนตร์ด้วยตัวเอง "
วิจารณ์ภาพยนตร์
โดย tendama