วิจารณ์ภาพยนตร์ The Golden Compass

วิจารณ์ภาพยนตร์ The Golden Compass

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
หมีแพนด้า หมีแพนด้า หมีแพนด้า หมีหมีหมี แพนด้า เย้ยย..!! แหมๆ ได้ยินเพลงหมีแพนด้าปุ๊บ ทุกคนอาจจะขัดใจว่า ข้าพเจ้าเป็นอะไรไม่สบายหรือป่าว อ๊ะๆ ไม่ใช่นะครับ คือว่าได้ไปดู หนังเรื่อง The Golden Compass หรือ อภินิหารเข็มทิศทองคำ แล้วเห็นหมีตัวใหญ่ๆ ที่เป็นเหมือนโลโก้หนังเรื่องนี้เลย เอามาแซวซะ ถ้าเป็นหมีแพนด้าวิ่งแทนหมีขาวจะดีไหมนะ อิอิ ส่วนตัวนะครับ ขำขำ พอดีเป็นคนรักสัตว์ ซะด้วยสิคร้บผม..หุหุ เรานอกเรื่องมามากมายแล้ว เข้าสู่เนื้อหาภาพยนตร์กันดีกว่าเนาะ เพื่อนๆ..ไปกันเลยฟิ๊วว เข็มทิศทองม้วนช่วยบอกข้าทีว่าเรื่องนี้จะออกมาแบบใดงั่มๆ..!! ถ้าพูด The Golden Compass นั้นถ้ามองตามเนื้อหนัง ภาพรวมผมถือว่าน่าพอใจอย่างมาก ตัวหนังสามารถดำเนินเรื่องใน 2 ชม อย่างคุ้มค่าดำเนินเรื่องไม่ช้า รวดเร็วฉับไว แถมยังรักษาคุณภาพไว้ได้อย่างดีตอนแรกนึกว่าหนังจะต้องลงรายละเอียดมากมาย กว่าจะได้ผจญภัย หนังดูสนุกมาก และไม่น่าเบื่อแม้แต่น้อยแต่ก็ยอมรับเลยว่า บางช่วงไม่ค่อยมีอารมณ์ร่วมตามหนังสักเท่าไร แต่ความกระชับของหนังที่ทำให้ผมพอให้อภัยกับส่วนนี้ไปได้บ้าง พูดถึงส่วนของประเด็นศาสนจักรที่ทั่วโลกและศาสนากำลังเพ่งเล็งอยู่นั้น ผมยอมรับอยู่ว่าในหนังสือน่าจะแรงกว่ามาก ( เพราะเพื่อนเล่าให้ฟังเพราะผมไม่ได้อ่านหนังสือเรื่องนี้ซะด้วย ) แม้จะอยู่ในหนังและลดประเด็นลงไปค่อนข้างเยอะ แต่ก็ยังกล่าวถึงความเผด็จการและสิ่งต่างๆที่หนังสือสื่อได้เกือบครบ ในด้านการแสดง Dakota Blue Richards รับบท Lyra ได้เยี่ยมยอดมากๆ เล่นได้ไม่แพ้รุ่นใหญ๋ในหนังเลย ขอแถมด้วย Nicole Kidman อีกคนยิ่งตอนเกือบหลังๆ ที่เธอเล่นได้อย่างน่าเชื่อถือและดูธรรมชาติมากๆ ยอมรับว่าอินจริงๆ ข้อดีข้อเด่น ที่เราเห็นได้ชัดคือ ความแปลกใหม่คับ ได้เห็นอะไรใหม่ ๆ และที่น่าสนใจคือดาราครับ แสดงกันได้โอเคทุกคนครับ แต่ส่วนตัวคิดว่าดาราไม่ว่าจะเป็น, Eva Green , Daniel Craig น่าจะมีบทมากกว่านี้นะ เพราะดูโดยรวมแล้วรายละเอียดยังน้อยไปหน่อย ส่วนเนื้อเรื่องที่ดูค่อนข้างง่าย สบาย ดูแล้วลุ้นระทึก เอาใจช่วยตัวละครดี ดำเนินเรื่องกระชับ แต่ไวไปนิดนึง ฉากใช้เข็มทิศดูลุ้นดี และก็ฉากต่อสู้ทำออกมาได้สนุก แต่ก็สนุกไม่สุดเพราะดูเหมือนจะสับสนบ้างบางฉากบางตอน แต่ก็ถือว่าทำได้ดีมากๆแล้วนะระดับนี้ ส่วนเอฟเฟกต์ก็ต้องบอกว่าของเขาดีจริงครับ ดูแล้วสบายตา และเหมือนกับว่าฉากพวกนี้มีจริงๆในโลกแห่งความเป็นจริงนี้เลย และก็ฉากหมีต่อสู้ก็ดูสนุกดี จบแบบให้เราติดตามต่อไป และก็ CG สัตว์ที่ใช้ทั้งเรื่องชอบตรงนี้จริงๆเพราะว่าทำได้เหมือนสัตว์ที่มีชีวิตทั้งการเคลื่อนไหวการกระพริบตาแล่บลิ้น เก็บรายละเอียดได้ดีมากเลย ส่วนหมีขาวอีกนั้นต้องบอกว่าถ้าเป็นไปได้ผมก็อยากกอดขนขาวๆปุกปุยแบบ หนูน้อย Dakota Blue Richards หรือ Lyra จริงๆ เห็นแล้วหมั่นเขี้ยว และสัตว์ต่างๆนาๆที่ดูแล้วทึ่งกับทึ่งไปเลย ดูจบแล้วอยากจะดูภาคต่อจากนี้ไวไวซะแล้ว ข้อเสีย มีข้อดีและก็ต้องมีข้อที่ไม่ดีกันบ้าง ที่เห็นได้ชัดของหนังคือการวางเนื้อเรื่อง ส่วนตัวผมว่าหนังก็มีท่าจะดำเนินไปในทางที่ดีครับ แต่พอๆ ไปๆ มา หนังก็ดันลืม เล่ารายละเอียดต่างๆ เช่น ผงธุลี ผมว่าผมดูแล้วยังงง ก่งก๊ง อยู่เลยว่ามันคืออะไรวะเนี่ย และก็ฉากต่างๆ ที่ดูแล้วไม่ค่อยจะประทับใจสักเท่าไหร่ ตัวละครบางตัวก็เล่าที่มาที่ไปน้อยไปนะ ดูแล้วยัง งง ว่าเป็นไงมาไง รู้สึกว่าหนังจะดำเนินเรื่องเร็ว เลยขาดฉากอารมณ์ต่าง ๆ ( ไม่รู้ว่าหนังสือจะมีฉากดราม่าไหม เพราะผมเป็นคนหนึ่งที่ไม่ได้อ่านหนังสือเรื่องนี้ ) แต่ในหนังที่เห็นก็คือ แทบจะไม่มีเลย รวมถึงฉากต่อสู้ที่ดูวุ่นวาย จนดูตัวละครแทบไม่ทันเลย ตอนจบที่ยังคาใจหลายๆอย่างเลย อาจจพเป็นไปได้ว่าหนังไตรภาคนั้นต้องติดตามต่อไป ปัญหาต่างที่คาใจหรือสงสัยอาจจะคลี่คลายไปเองและบางคนบางรายก็ เริ่มมีเสียงออกมาแล้วบ้างว่า Narnia ดีกว่า Golden Compass บ้างบ้างก็เถียงว่าเรื่องหลังดีกว่า ผมขอให้อย่าเอามาเปรียบเทียบกัน เพราะมันออกมาคนละแนวเสียด้วยซ้ำ แต่ถ้าเอาตามตรงนั้น Narnia พลอตดีจริง แต่กลับนำเสนอออกมาไม่ค่อนน่าสนใจเท่าไรแต่กลับ Golden Compass ที่ให้ผู้ชมครบ ตั้งแต่เนื้อเรื่องที่ฉับไว ไม่น่าเบื่อ และไม่จำเป็นต้องอ่านหนังสือหรือรู้รายละเอียดมาก่อนสามารถสนุกได้อย่างไม่มีปัญหา แถมยังความแอ็คชั่นที่ใส่ลงมาอย่างลงตัวผมว่าถ้า Golden Compass จะได้เปรียบกว่าก็คงตรงนี้แหละ อีกอย่างจะเอามาเทียบไม่ได้หรอกครับ ว่ามันดีหรือต่างกันอย่างไร เพราะมันคนละเรื่องกันผู้กำกับก็ไม่ใช่คนเดียว จะมาพูดนู่นพูดนี่ทำไส้ติ่ง อะไรไม่รู้ ผมฟังแล้วก็หงุดหงิด งั้นถ้าเถียงๆกันผมว่า น่าจะทำ Golden Compass of Narnia ไปเลยดีไหมครับ เอามาเทียบกันไม่ได้หรอกครับ นอกจากมาเทียบกันที่ เอฟเฟกต์ แต่ก็อีกแหละ Narnia ของเขานั้นออกมานานแล้วเอฟเฟกต์ตอนนั้นกับตอนนี้มันต่างกันแล้ว ถือว่า อย่าไปเทียบกันเลยครับมันคนละอย่างกัน สรุป โดยรวมถือเป็นหนังให้ความบันเทิงครับ ดูสบายๆ สไตล์หนัง Fantasy ไม่มีให้คิดหนักสักเท่าไหร่ มีฉากหักมุมเรื่องครอบครัว และก็ถ้ามองลึกเข้าไปอีกก็จะพบปัญหาอยู่ เอาเป็นว่าก็ไม่ผิดหวังครับ ส่วนตัวคิดว่าทำตอนต้นเรื่องได้ดีมากๆด้วย แต่ตอนกลางเรื่องค่อนข้างมีปัญหาพอสมควรนะ เอฟเฟกต์ สมจริงมากๆ โดยเฉพาะเรื่องภูตที่สมจริงที่สุด แถมฉากต่อสู้สุดท้ายยังทำออกมาได้ดีมาก การแสดง Dakota Blue Richards และ Nicole Kidman ที่น่าประทับใจที่สุด เล่นได้ธรรมชาติมากๆ ความบันเทิง หากท่านใดไม่ปลื้ม Narnia ในด้านความบันเทิงนัก Golden Compass สามารถทำให้2 ชม. ในหนังเรื่องนี้น่าประทับใจได้แน่นอน คุณภาพ ถ้าตามควมเห็นส่วนตัวผมว่า ยอดเยี่ยมครับ เล่าเรื่องได้ดี ประทับใจในการดำเนินเรื่องนี้และครับ รอภาค 2 แน่นอนได้เลยครับ สำหรับคนชอบ หนังแฟนตาซีและยังเป็นภาคแรก คงไม่ ติติงกัน 4 ดาวสำหรับหนังแฟนตาซีส่งท้ายปี " บทวิจารณ์ภาพยนตร์เป็นเพียงความเห็นส่วนบุคคล กรุณาตัดสินจากการชมภาพยนตร์ด้วยตัวเอง " วิจารณ์ภาพยนตร์ โดย Tendama

อัลบั้มภาพ 7 ภาพ

อัลบั้มภาพ 7 ภาพ ของ วิจารณ์ภาพยนตร์ The Golden Compass

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook