วิจารณ์ภาพยนตร์ The Bourne Ultimatum

วิจารณ์ภาพยนตร์ The Bourne Ultimatum

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
The Bourne Ultimatum ในภาคนี้ "เจสัน บอร์น "(แมตต์ เดม่อน)" ชายผู้ถูกลบความจำ เพื่อรับการฝึกเป็นมือสังหารลับ ตามโครงการของเจ้าหน้าที่ทางการ ยังคงจำตัวตนที่แท้จริงของตัวเองไม่ได้ทั้งหมด แถมเขายังถูกตามเก็บจากหน่วยงานที่ว่าอีกด้วย บอร์นจะหนีการไล่ล่า และตามหาตัวตนที่แท้จริงอย่างไร เป็นสิ่งที่หาชมได้จากภาคจบของหนังเรื่องนี้ The Bourne Ultimatum" คือหนังภาคต่อตอนสุดท้ายอีกเรื่องที่หลายคนรอคอย หลังจากที่ 2 ภาคก่อนได้สร้างความประทับใจและเรียกเสียงชื่นชมจากทั่วโลกมาแล้ว โดยภาคนี้ยังมี "พอล กรีนกราสส์" เจ้าเก่ารับหน้าที่กำกับฯอีกเช่นเคย ผมคิดว่า หนังเรื่องนี้ทำออกมาระห่ำสะใจดีครับ มันไม่เหมือนกับหนังแอ็คชั่นอื่นตรงที่ไม่ใช้อุปกรณ์ที่เกินตัวคือขอแค่ใช้ของข้างๆกายก็สามารถทำเป็นอาวุธได้แล้ว บวกกับความสามารถของนักแสดงที่พี่ความนิ่งในหน้าตา ตั้งแต่ 3 ภาค ตัวคนแสดงสีหน้าเดิมตลอดเลยนิ่งมากๆ ยิ้มหน่อยก็น้อยนิดออกไปแนวเครียดกับชีวิตแต่มันออกมาทำให้รู้สึกว่า เขากำลังหาอะไรบ้างอย่างอยู่ถือว่านักแสดงคนนี้มีฝีมือร้ายกาจจริงๆครับ ทางด้านองค์ประกอบภาพผมชอบ คือฉากที่คุยกันการถ่ายทำคือการใช้การถ่ายทำแบบ ชัดลึกชัดตื้นได้ดี เช่นฉากคุยกัน สังเกตได้เลยว่าการใช้มุมกล้องถ่ายทำผ่านไหล่คนหนึ่งให้เห็นภาพอีกฝั่งอีกคนหนึ่งกำลังพูดอยู่นั้นรายละเอียดตรงนี้หนังบางเรื่องมองข้ามไป การที่ผู้กำกับจงใจทำแบบนี้ ผมคิดว่าเขามองถึงบรรยากาศให้เราเสมือนว่าอยู่ในเหตุการณนั้นด้วยจริงๆก็เป็นได้ ผมชอบนะ แต่นั้นก็แค่องค์ประกอบภายนอกเท่านั้น จริงๆแล้วฉากที่เร้าใจคนดูบวกความรู้สึกว่าแอ็คชั่นเชิงสืบสวนสุดยอดสุดมัน นั้นในภาพยนตร์ The Bourne Ultimatum ได้แทรกข้อคิดที่ว่า การเป็นสุดยอดคนนั้นไม่ได้เป็นด้วยกันง่ายๆทุกอย่างต้องเริ่มด้วยการสังเกตและฝึกฝนและลงมือทำ มีหนังสืบสวนหลายเรื่อง จากหลายๆ ชาติ ที่มีเนื้อหาทำนองว่าเจ้าหน้าที่รัฐใช้องค์กรลับสั่งปิดบัญชีดำผู้ก่อการร้าย หรือต้องสงสัยว่าเป็นภัยต่อรัฐ โดยไม่ผ่านขั้นตอนกฎหมาย พวกเขาทำได้ทุกวิธี ขอเพียงแค่รักษา "ความมั่นคง" ของชาติได้เท่านั้นพอ ซึ่งเรื่องนี้ก็มีสาระนั้นเช่นกัน แต่ผมก็กลับมานั่งนอนคิดดูนะครับว่าทำไมนะ เจสัน บอร์น พระเอกของเราถึงเก่งขนาดนี้ โดนทั้งยิงและลอบทำร้ายการเอาตัวรอดของเขานั้นเก่งและเรียบเนียนมาก บางครั้งผมย้อนมาดูตัวเองยังแทบจะบอกว่าทำไมเราไม่เก่งเหมือนเขาบ้างนะ ทั้งๆที่เรื่องยากแสนยากในภาพยนตร์เขาสามารถแก้ไขสถานการณ์ต่างๆได้ง่ายดายนัก แต่สำหรับเราปัญหาบางอย่างอาจจะเล็กน้อยแต่เรากลับหาทางออกไม่ได้เลย ซึ่งถ้ามองมุมจริงๆ เขาก็เป็นแค่มนุษย์คนหนึ่งบนโลกเท่านั้นไม่ได้มีพลังวิเศษอะไรซักหน่อยแต่เขากลับทำได้ถึงเพียงนี้น่าชื่นชมมากเลยครับ สรุปจากการดูภาพยนตร์เรื่องนี้นะครับว่า 2 ชั่วโมงกลับการดูหนังเรื่องนี้รู้สึกเหมือนว่าเวลามันผ่านไปรวดเร็วนักถ้าคุณเป็นสาวกหนังสืบสวนแอ็คชั่นที่ใช้อุปกรณ์ที่มีอยู่จริงบนโลกใบนี้ที่ไม่ โอเวอร์จนเกินคนและสิ่งนั้นทุกคนเคยเห็นและสัมผัสได้ ผมว่าเรื่องนี้เป็นแนวทางการผ่อนเบาสมองหลังจากการที่เราต้องอมทุกข์ กลับหลายๆอย่างในชีวิต ทางออกย่อมมีทุกที่แต่เราเท่านั้นจะเห็นช่องทางออกที่ดีได้หรือไม่เท่านั้นเอง หนังเรื่องนี้ ขอบอกเลยครับว่า ไม่ดูแล้วจะเสียใจจริงๆ การันต์ตรีความมันและข้อคิดที่คุณจะคิดตามหนังหรือหนังจบค่อยคิดก็ได้ครับ ไม่น่าแปลกใจที่ ผมจะ ให้ 5 ดาว เพราะสมกับการรอคอยของผมจริงๆ เยี่ยมครับ..!! " บทวิจารณ์ภาพยนตร์เป็นเพียงความเห็นส่วนบุคคล กรุณาตัดสินจากการชมภาพยนตร์ด้วยตัวเอง " วิจารณ์ ภาพยนตร์ โดย Tendama

อัลบั้มภาพ 5 ภาพ

อัลบั้มภาพ 5 ภาพ ของ วิจารณ์ภาพยนตร์ The Bourne Ultimatum

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook