วิจารณ์หนัง แวมไพร์ ทไวไลท์ 4
สำหรับภาพยนตร์ที่น่าดูในต้นเดือนสุดท้ายของปีนี้ น่าจะเป็นเรื่อง The Twilight saga : Breaking Dawn Part 1 (มหากาพย์ภาคความรักหวานๆของแวมไพร์4.1) ตามโปรแกรมเดิม เรื่องนี้มีโปรแกรมเข้าฉายวันที่ 24 พ.ย.ที่ผ่านมา แต่ว่า แวมไพร์ ก็กลัวน้องน้ำเหมือนกัน ก็เลยขอเลื่อนมาฉาย วันที่ 1 ธ.ค.นี้ ก็ยังไม่รู้ว่าจะพอสู้กับน้องน้ำที่ยังคงขังอยู่ในหลายๆพื้นที่ของ กทม.ได้หรือเปล่า
ตามที่จริงแล้ว เรื่องนี้จะเป็นภาคที่ 4 และเป็นภาคสุดท้ายของตำนานแห่งแวมไพร์เรื่องนี้แล้ว แต่ทว่า ด้วยความหนาของหนังสือ BREAKING DAWN มีถึง 754 หน้าจึงทำให้ทีมงานที่สร้างเรื่องนี้ไม่สามารถที่จะถ่ายทอดภาพยนตร์ในตอนที่ 4 นี้ออกมาเป็นภาคเดียวได้ นอกจากจะต้องแบ่งออกเป็นสองภาคเท่านั้น เพื่อที่จะเก็บรายละเอียดของเรื่องได้อย่างครบถ้วย และอาจจะเป็นทำเนียมของภาพยนตร์ TWILIGHT SAGA ก็เป็นไปได้ ที่แต่ละภาคจะเลือกผู้กำกับหน้าใหม่มาทำ ไม่ว่าจะเป็น แคทเธอรีน ฮาร์ดวิค จาก Twilight, คริส ไวทซ์ จาก New Moon และ เดวิด สเลด จาก Eclipse และเมื่อมาถึง Breaking Daen ทีมผู้สร้างได้เลือกผู้กำกับมือรางวัลออสการ์ บิล คอนดอน ให้เข้ามารับหน้าที่กำกับ
หนังสองภาคสุดท้ายนี้ สำหรับ บิล คอนดอน ถือเป็นผู้กำกับที่น่าประทับใจที่สุด เขาเคยได้รับราววัลออสก้าร์มาแล้วจาก God and Monster และเคยกำกับภาพยนคร์อย่าง Dreamgirl ที่ได้เข้าชิงรางวัลออสก้าร์มาแล้วถึง 8 สาขา
สำหรับในภาคนี้นอกจากนักแสดงชุดเดิมที่กลับมารับบทเดิมของตัวเองอย่างครบถ้วนแล้ว ผู้กำกับหนังยังได้เปิดตัวละครใหม่ๆ โดยในช่วงต้นเรื่องของ Breaking Dawn Part 1 เดนาลี กลุ่มแวมไพร์พันธมิตรจากอลาสก้า จะได้รับการแนะนำ เป็นครั้งแรก โดยสมาชิกของแวมไพร์กลุ่มนี้ นักนักแสดงอย่าง มายแอนนา เบอร์ริ้ง, เคซี่ย์ ลาโบว์ และ แม็กกี้ เกรซ เข้ามารับบทเป็น ทันย่า,เคท และ อริน่า แวมไพร์สามพี่น้องที่มีเชื้อสายรัสเซีย รวมถึง คริสเตียน คาร์มาโก้ และ มิอา แมสโทร จะมารับบทเป็น เอเลอาซาร์ และ คาร็แมน พี่น้องแวมไพร์เชื้อสายสเปน
สำหรับใครที่ยังไม่ได้ดูภาคที่แล้ว ความเดิมมีดังนี้ องค์ที่ 3 ของการต่อสู้เพื่อปกป้อง คนที่ตนรักของทั้งเผ่าพันธุ์แวมไพร์ และ มนุษย์หมาป่า เมื่อ เบลล่า ได้ให้คำมั่น แก่ เจน แห่งกลุ่มโวลตูรี่ ที่ให้เอ็ดเวิร์ด เปลี่ยนเธอเป็นแวมไพร์ เพื่อรักษาความลับของตระกูลคัลเลน และ เผ่าพันธุ์แวมไพร์ไว้กับเธอตลอดไป แต่ เอ็ดเวิร์ด กลับลังเลใจที่จะทำตามคำสัญญานั่นจนทำให้ทั้งคู่ต้องเผชิญกับการจู่โจมของแวมไพร์เพชฌฆาตกลุ่มใหม่ที่มี วิคตอเรีย เป็นผู้สร้างพวกมันขึ้น ด้วยอันตรายที่คอยคุกคาม เบลล่า เจคอบและพ้องเพื่อน หมาป่า คอยวนเวียนและ พิทักษ์เบลล่าตลอดทั้งวันคืนจนทำให้ เจคอบ เผลอเผยความในใจที่มีต่อเบลล่าออกมา และเกือบต้องใช้ชีวิตตัวเองเพื่อพิทักษ์เบลล่าจากคมเขี้ยวของ แวมไพร์ กลุ่มนั้น
แต่ต่อมาใน The Twilight saga : Breaking Dawn Part 1 เป็นเรื่องราวหลังจากที่ เบลล่า (คริสเต็น สจ๊วต) ตัดสินใจจะใช้ชีวิตที่เหลือกับ เอ็ดเวิร์ด (โรเบิร์ต แพททินสัน) ทั้งสองแต่งงานกันและไปฮันนีมูนเหมือนคู่รักธรรมดาทั่วไป แต่แล้วการฮันนีมูนก็จบลงกะทันหัน เมื่อเบลล่าพบว่าตัวเองตั้งท้อง ลูกของเธอกับเอ็ดเวิร์ด ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนและทำให้ครอบครัวคัลเลนต้องช่วยกันดูแลเบลล่า และหาข้อมูลเกี่ยวกับเด็กที่กำลังจะเกิดมา เพื่อจะรับมือให้ได้ พร้อมกับป้องกันไม่ให้ข่าวเล็ดลอดออกไปภายนอก เพราะอาจเป็นการนำมาซึ่งสงครามระหว่างแวมไพร์ โดยเฉพาะผู้คุมกฎอย่างโวลตูรี่ ที่ถือว่า แวมไพร์เด็กคือตัวอันตรายและต้องถูกกำจัด ครอบครัวคัลเลนจึงต้องปกป้องเบลล่า และยังต้องพึ่งพาความช่วยเหลือจากเพื่อนเก่าอย่าง เจคอบ (เทย์เลอร์ เลาท์เนอร์) และหมาป่าจากควิตยูลอีกด้วย
สำหรับหนังที่มีภาคต่ออย่างนี้ช่วงหลังๆ มักเป็นที่นิยม ถ้าเป็นของไทย คงเริ่มจากภาพยนคร์เรื่อง บุปผาราตรี 3.1 และ 3.2 ตามมาด้วยเรื่อง แฮรี่พ็อตเตอร์ ภาค 7.1 และ 7.2 หรือ ตำนานสมเด็ดพระเรศวร ของเราก็เอากับเขาด้วย และร่าสุดก็เห็นจะเป็นเรื่องนี้ที่มีภาค 4.1 และ 4.2 ทั้งๆที่งานทั้งสามภาคที่ผ่านมา สำหรับในไทย ก็มีแฟนคลับอยู่แค่กลุ่มหนึ่งเท่านั้น
ตัวหนังบางภาคบางตอนก็แทบไม่มีอะไรดำเนินเรื่องอย่างเอื่อยเฉี่อย แต่อาจเพราะเป็นไปได้ว่า เป็นเรื่องที่เกิดจากหนังสือที่ขายดีทั่วโลก เมื่อนำมาทำเป็นภาพยนคร์ก็อาจจะมีคนอยากดูว่าสนุกในหนังสือที่เขาอ่านหรือเปล่า แต่ก็เห็นผิดหวังกันไปมาก ที่หนังสือเป็นแบบหนึ่งส่วนในภาพยนตร์ก็เป็นอีกอย่างนึ่ง แต่สำหรับ Breaking Dawn Part 1 นี้จะเป็นอะไรที่พิสูจณ์ว่าหนังเรื่องนี้แหละ เป็นหนังที่ทุกๆคนรอคอย แต่ที่แน่ๆ ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นตัวเต็งในการเปิดตัวรอบปฐมฤกษ์ที่อเมริกา ว่าจะสามารถทำลายสถิติหนังเรื่องอื่นๆได้มากน้อยเท่าไหร่
ฉากที่น่าดูในเรื่องนี้คงเป็นฉากเหตุการณ์อันตรายสองเหตุการณ์พร้อมๆกัน นั้นคือฉากที่ เบลล่า กำลังจะตายเพราะการคลอดลูก ขนาดเดียวกันฝูงหมาป่าก็บุกเข้ามาถึงบ้านอัลเลน ทั้งเจคอบและเอ็ดเวิร์ด ต่างพยายามที่จะช่วยชีวิตเบลล่า พร้อมๆกับคอยต่อสู้กับกลุ่มหมาป่าอีกด้วย
สำหรับแฟนๆ หนังเรื่องนี้ คงอยากเห็นฉากที่หลายๆคนอดใจไว้ดูในเรื่องนี้ มีแน่นอนครับฉากทีว่าที่ทุกคนรอคอย และถึงแม้ว่า นางเอกของเรื่อง จะเลือกที่จะแต่งงานกับพระเอกหน้าซีดอย่างเอ็ดเวอร์ดแล้วก็ตาม ซึ่งจะทำให้เจคอบ พระเอกท่าเดียวของเรา หัวใจแตกสลาย แต่แฟนคลับของเจคอบก็ไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ จะบอกใบ้เป็นนัยน์ว่า สุดท้ายแล้ว สเตฟานี่ เมเยอร์ ผู้เขียนหนังสือเล่มนี้ จะไม่ปล่อยให้ เจคอบ ต้องเปล่าเปลี่ยวและเหงาใจอยู่คนเดียวเป็นแน่..มีอะไรเกิดขึ้นคงต้องไปดูในโรงภาพยนต์กันเอาเอง
ตอนนี้น้ำในกรุงเทพเริ่มลดลงตามลำดับแล้ว โรงภาพยนคร์ที่เคยปิดไปช่วงน้ำท่วมกลับมาให้บริการตามปกติ ก็หวังว่า หนังสนุกๆ ภาครองสุดท้ายอย่างเรื่อง The Twilight saga : Breaking Dawn Part 1 (มหากาพย์ภาคความรักหวานๆของแวมไพร์ 4.1) คงไม่ทำให้แฟนๆผิดหวังนะครับ ดูเสร็จแล้ วก็ต้องใจจดใจจ่อรอภาคจบแบบจริงๆในปีหน้า แล้วเมื่อถึงตอนนั้น ก็คงสรุปได้สักที่กับความรักของเขาทั้งสามว่าจะลงเอยกันอย่างไร...
บทวิจารณ์โดย ทชากร tck05@sanook.com
ตัวอย่างหนัง The Twilight saga : Breaking Dawn Part 1