วิจารณ์หนัง 30+ โสด On Sale

ผมยังคงติดอกติดใจ กับผลงานการกำกับของท่านผู้กำกับ เสนาเพชร พุฒิพงศ์ พรหมสาขา ณ สกลนคร และคุณวศิน ปกป้อง ที่เคยกำกับภาพยนตร์เรื่อง "สิ่งเล็กๆที่เรียกว่ารัก" ที่ทำให้วงการหนังไทยมีหนังดีๆ อีกเรื่อง และภาพยนตร์เรื่องนี้ยังได้รับรางวัลไปหลายสาขา ทั้งในประเทศและต่างประเทศ อีกด้วย มาในคราวนี้ แม้ว่าภาพยนตร์เรื่องใหม่ของเขาจะมีแค่ท่านผู้กำกับ เสนาเพชร พุฒิพงศ์ พรหมสาขา ณ สกลนคร เพียงท่านเดียวก็ตาม แต่ผมว่าแม้กำกับท่านเดียวก็คงมีอะไรสนุกๆ และประทับใจไม่ต่างจากเรื่องที่แล้วแน่กับภาพยนตร์เรื่อง "30+ โสด ON SALE" หลังจากที่ประสบความสำเร็จอย่างเหนือความคาดหมายกับภาพยนตร์เรื่องที่แล้ว อย่าง "สิ่งเล็กๆที่เรียกว่ารัก" หนังรักวัยรุ่น ที่เล่าเรื่องของความรักแบบวัยรุ่นผ่านมุมมองของเด็กผู้หญิงวัยมัธยมคนหนึ่ง ที่แอบไปชอบผู้ชายรุ่นพี่ และพยายามทำตัวเองให้สวยที่สุด ซึ่งเป็นที่มาของความประทับใจในเรื่องที่แล้วที่ผ่านมา สำหรับ "30+ โสด ON SALE" ยังคงเป็นเรื่องของความรักโรแมนติกคอมมิดี้เหมือนเดิม เป็นมุมมองผ่านทางด้านผู้หญิงเหมือนเดิม แต่ขยับวัยมาเป็นช่วงอายุ 30 ต้นๆ เป็นภาพยนคร์อารมณ์บวกๆ ไม่มีตัวอิจฉา ไม่มีตัวร้าย เป็นการเล่าแต่สิ่งดีๆ และปัญหาสำหรับหญิงสาวที่อายุเข้าสู่วัย 30 ที่ยังไม่มีแฟน หรือยังหาคู่ไม่ได้ เธอเลยต้องทำวิธีทางเพื่อหาแฟนให้ได้ ก่อนที่อายุจะมากไปกว่านี้และไม่มีคู่ หรือที่ภาษาชาวบ้านจะเรียกกันว่า "ขึ้นคาน" นั้นเอง ปัจจุบันประเทศไทยเรา มีผู้หญิงมากกว่าผู้ชายถึง 2 ใน 3 ส่วนเลยทีเดีย และผู้ชายที่มีเพียงน้อยนิด หนึ่งส่วนนั้น บางส่วนยังแอบไปเป็นเพศที่สามเสียอีก จึงทำให้ประชากรเพศชายนั้นน้อยมากๆ ประจวบกับการดำรงชีวิตของคนในเมืองหลวงต่างๆ ที่ต้องทำงานแข่งกับเวลา ผู้ที่เป็นวัยหนุ่มสาว ก็เริ่มที่จะทำงานกันแบบลืมเวลากันเลยที่เดียว ยากนักที่จะหาเวลาส่วนตัวไปนั่งเลือกคู่กัน จึงทำให้คน "เป็นโสด" มากขึ้น โดยเฉพาะคุณสุภาพสตรี เมื่อมั่วแต่ทำงานหรืออกหักจากความรัก จนวัยร่วงเลยไปถึง 30 และยังไม่สามารถหาคู่ด้วยแล้ว ถือเป็นสิ่งที่เลวร้ายที่สุดของผู้หญิงส่วนใหญ่เลยก็ว่าได้ เพราะฉะนั้นเธอจึงต้องทำทุกวิธีทางเพื่อให้หลุดจากคำว่า "ขึ้นคาน" ให้ได้ จึงไม่แปลกที่ผู้กำกับภาพยนตร์รุ่นใหม่ๆ มักจะหยิบยก หรือเอาจุดสำคัญตรงนี้มาสร้างเป็นภาพยนตร์หลายต่อหลายเรื่องด้วยกัน อย่างเรื่อง "รถไฟฟ้ามาหานะเธอ" ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ในภาพยนตร์แนวเดียวกันนี้

แล้วทำไมต้องเล่าเรื่องโดยผ่านมุมมองของผู้หญิง เพราะผู้หญิง มีเรื่องเล่าเยอะมาก เยอะกว่าผู้ชาย ผู้หญิงมีหลากหลายอารมณ์ มากกว่าผู้ชาย ผู้หญิงมีรักหลายแบบ มีเกลียดหลายแบบ อารมณ์ดีก็มีหลายแบบ ผู้หญิงมีเยอะกว่าผู้ชาย เพราะฉะนั้นการเล่าเรื่องโดนผ่านมุมมองของผู้หญิง จึงน่าค้นหามากว่ามุมมองชองผู้ชายนั่นเอง อย่างเช่นเรื่องนี้ "30+ โสด ON SALE" เป็นเรื่องราวของ อิง (พลอย เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์) ช่างภาพสาวฝีมือดีพอๆกับหน้าตาถูกแฟนหนุ่มที่คบกันมา 7 ปี ขอไปแต่งงานกับคนอื่น ชีวิตเธอต้องเสียศูนย์ เมื่อดันมาสูญเสีย "คนรัก" แต่ก็มี "เพื่อนสนิท" อยู่สองคนแถมวัย30อัพเป็นกูรูตัวแม่ที่จะมาช่วยสลัดความ "โสด" และความ "โศก" ออกจากอกเพื่อนสาวในแบบฉบับของแต่ละคน เริ่มที่มิ้นท์ (เจี๊ยบ พิจิตรา สิริเวชชะพันธ์) สาวเปรี้ยวชอบกินเด็ก แนะนำ ตรงเข้าฟิตเนสหาครูฝึกหนุ่มๆ หรือปาร์ตี้ จับคู่ แนะนำผู้ชายมาไม่ซ้ำหน้า ตามด้วยยี้ (ตุ๊กกี้ชิงร้อย - สุดารัตน์ บุตรพรม) สาวเฟมินิสต์ แนะนำทางธรรม ชวนนั่งสมาธิ ทำตัวเพื่อสังคม แต่ก็ยังไม่มีเค้าว่าจะได้แฟนสักคน เมื่อเข้าตาจนอยู่ๆ ฟ้ามีตาส่ง จืด (เป้ - อารักษ์ อมรศุภศิริ) หนุ่มหน้าตาสมชื่อมาช่วยอิงตามหา "ผู้ชายในฝัน" พร้อมกับสารพัดวิธีที่จะช่วยให้ "สาว30+ อย่างอิงลงจากคาน" แล้วผู้ชายที่ต้องการก็จะมาจริงๆ แทน (ต้น - เดิมพัน อยู่วิทยา) คือ ผู้ชายที่อิงใฝ่ฝัน เพียบพร้อมทุกอย่างตามสเปคที่ อิงต้องการ อยู่ๆก็มีผู้ชาย 2คนเข้ามาเดินวนเวียนในชีวิต แทน เป็นผู้ชายที่อิงใฝ่ฝัน แต่ จืด กลับเป็นผู้ชายที่อิงอยู่ด้วยแล้วสบายใจอย่างประหลาด ความรักมักเป็นแบบนี้ การตัดสินใจคราวนี้ไม่ต้องใช้ เหตุผล แต่ใช้...ความรู้สึก แต่จะรู้ได้อย่างไรว่างานนี้ ใครคือคนที่ "ใช่" และใครคือคนที่ "ไม่ใช่"...

ช่วง 30 นาทีแรก หนังเดินเรื่องเอื่อยๆ น่าเบื่อเล็กน้อย แต่ก็เป็นช่วงที่สำคัญ เพราะเป็นการปูเรื่องถึงนิสัยตัวละครฝ่ายหญิง ตัวละครฝ่ายชายแทบไม่มีเลย หลังจาก 30 นาทีแล้วหนังเริ่มน่าดูเรื่อยๆ ความสนุกเริ่มมา การแสดงของตุ๊กกี้ยังคงเรียกเสียงหัวเราะได้เหมือนเดิม ผิดกับคุณเจี๊ยบ พิจิตรา บทยังน้อยมาก มีไม่กี่ฉากก็หายไปแล้ว สำหรับนักแสดงหน้าใหม่อย่างคุณต้น เดิมพัน แม้จะเป็นหนังเรื่องแรกของเขา แต่ก็ทำและเล่นได้ดีมาก ตอนแรกดูผ่านๆ นึกว่าเป็นคุณ เคน ธีรเดช เสียอีก ตัวหนังยังเอาเรื่องความเชื่อ อย่างเช่นการดูหมอ ดูดวงมาผูกเข้ากับเรื่องของวิทยาศาสตร์อีกด้วย เช่นการเล่นอินเตอร์เน็ต หรือการหาคู่ทางอินเตอร์เน็ต ตอนสุดท้ายของเรื่องยังคงมีฉากเซอร์ไพรส์ให้ดูเหมือนเช่นเคย

สรุปแล้วหนังเรื่องนี้ดูสนุกดีครับ หนังดูเบาๆ อารมณ์บวก ใครที่ยังไม่มีคู่ก็ไปดูวิธีหาคู่ซะ ใครที่มีคู่แล้วก็ชวนกันไปดู ส่วนสาวที่อายุ 30 อัพ คลาดว่า น่าจะมีมากเป็นพิเศษสาวโสด ไปดูวิธีหลุดออกจาก คาน ไปดูวิธีคัดเลือกชายในฝัน แล้วจะรู้ว่า งานนี้คือคนที่คุณเลือก "ใช่" หรือ "ไม่ใช่"........

บทวิจารณ์โดย ทชากร tck05@sanook.com

>>>อ่านวิจารณ์หนังอีกเพียบ