วิจารณ์หนัง พุ่มพวง
"ตั้งแต่ เป็นสาวเต็มกาย หาผู้ชาย ถูกใจไม่มี" เนื้อเพลงท่อนหนึ่ง จากเพลง "ชายในฝัน" ของคุณ พุ่มพวง ดวงจันทร์ ใช่แล้วครับคราวนี้ผมขออนุญาตแฟนๆ ชาว "สนุก" ขอพาไปดูหนังไทยสักเรื่องนะครับ เพราะว่า ผมแนะนำหนังต่างประเทศมา 3 ฉบับติดแล้ว กลัวแฟนๆ หนังไทยจะงอนเอา ฉบับนี้ก็เลยขอแนะนำหนังไทยดีๆ สักเรื่องนะครับ เรื่องนั้นคือ "พุ่มพวง"
ภาพยนตร์เรื่อง "พุ่มพวง" นี้ก็คือ เรื่องราวของ ราชินีลูกทุ่งไทย ที่หลายๆ คนรู้จักกันดีในนาม คุณ "พุ่มพวง ดวงจันทร์" คุณพุ่มพวงถือเป็นเบอร์ 1 ของวงการลูกทุ่งอยู่เสมอมา แม้ว่าเธอจะเสียชีวิตไปหลายปีแล้วก็ตาม ถึงปัจจุบันนี้ ก็ยังหานักร้องคนไหนมาเทียบขั้นหรือเทียบชั้นเธอไม่ได้ สักคน แถมยังมีนักร้องหลายคน นอกจากจะเอาเธอเป็นแบบอย่างในการร้องเพลงแล้ว ยังนับถือเธอเปรียบเสมือนครูคนหนึ่งเลยด้วยซ้ำ ประวัติของคุณพุ่มพวงเคยถูกถ่ายทอดทำออกมาเป็นภาพยนตร์มาก่อนหน้านี้แล้วหลายเวอร์ชั่นด้วยกัน และยังเคยถูกนำมาถ่ายทอดเป็นละครฉายทางทีวีแล้วด้วย แต่ว่าก็ยังมีอีกหลายๆ คนที่เป็นแฟนพันธุ์แท้คุณพุ่มพวง ดวงจันทร์ อยากจะเห็นเธอในจอเงินอีกสักครั้ง และคราวนี้ก็คงไม่ทำให้แฟนๆ คุณพุ่มพวงผิดหวัง
ในส่วนของผู้กำกับนั้นได้คุณ บัณฑิต ทองดี มากำกับให้ ถ้าเราดูผลงานที่ผ่านมาของเขา เริ่มตั้งแต่ "มนต์เพลงลูกทุ่งเอฟเอ็ม" งานนี้คุณบัณฑิต เกิดเลย เพราะตัวหนังสนุกมาก ต่อมาเรื่อง "เฮี้ยน" ได้นักแสดงในดวงใจผมมาเล่นอย่างคุณทราย เจริญปุระ และก็มี "มนุษย์เหล็กไหล" และ "ฝัน หวาน อาย จูบ" (ตอน อาย) จะเห็นว่าหนังที่คุณบัณฑิต ทำได้ดีนั้นต้องเป็นหนังที่เกียวกับคนต่างจัวหวัดเท่านั้น สำหรับ งาน "พุ่มพวง" เวอร์ชั่นนี้ ดันแปลงมาจากบทประพันธ์เรื่อง "ดวงจันทร์ที่จากไป" ของนักเขียนรางวัลซีไรต์ "บินหลา สันกาลาคีรี" ซึ่งเป็นบุคคลที่อยู่ใกล้ชิดคุณพุ่มพวงมากที่สุดก่อนที่คุณพุ่มพวงจะจากโลกกลมๆ ใบนี้ไป และเพื่อให้นวนิยายชีวประวัติของราชินีเพลงลูกทุ่งที่คุณบินหลาเขียนขึ้นได้ออกมาเป็นภาพที่สะท้อนความฝัน ความสามารถ และความมุมานะของคุณพุ่มพวง ดวงจันทร์ อย่างเห็นได้ชัด คุณบัณฑิต ทองดี ยินดีที่จะทำเรื่องนี้อย่างเต็มที่และดีที่สุด
ส่วนเรื่องย่อของ พุ่มพวง ดวงจันทร์ในเวอร์ชั่นนี้มีอยู่ว่า เมื่อเด็กผู้หญิงคนหนึ่งฝันอยากเป็นนักร้อง วินาทีแห่งการไขว่คว้าเพื่อความฝันอันยิ่งใหญ่ และการเดินทางของชีวิตจึงเริ่มต้นขึ้น ผึ้ง (รับบทโดย เปาวลี พรพิมล) เกิดและโตที่จังหวัดสุพรรณบุรี ด้วยฐานะทางบ้านที่ยากจน จึงเรียนจบเพียงแค่ชั้นป.2 แต่มีความฝันอยากเป็นนักร้องที่มีชื่อเสียงโด่งดัง เธอจึงตัดสินใจเดินทางออกตามหาความฝัน ด้วยการมุ่งหน้าเข้ามาแสวงโชคในเมืองกรุง ผึ้งเริ่มต้นจากตำแหน่งหางเครื่องในวงดนตรีของ ครูไวพจน์ เพชรสุพรรณ (รับบทโดย บุญโทน คนหนุ่ม) จนได้พบรักกับ ธีระพล แสนสุข (รับบทโดย ณัฐวุฒิ สกิดใจ) นักดนตรีเป่าแซกโซโฟนในวง และทำให้ความฝันอยากเป็นนักร้องกลับฝันสลาย เพราะความรักของทั้งคู่เป็นตัวก่อเหตุให้โดนไล่ออกจากวงไวพจน์ ทั้งคู่ยอมอดทน ฝ่าฟันอุปสรรคต่อสู้กับชีวิตที่ต้องดิ้นรนเอาตัวรอดอย่างยากลำบาก จนเมื่อได้พบกับ ครูมนต์ เมืองเหนือ (รับบทโดย วิทยา เจตะภัย) ผึ้งขอฝากตัวเป็นศิษย์ ครูมนต์จึงตั้งชื่อใหม่ให้เป็น "พุ่มพวง ดวงจันทร์" และปั้นเธอให้เป็นนักร้อง ถึงแม้จะอ่านหนังสือไม่ออก เขียนไม่ได้ ต้องเผชิญกับความผิดหวังเสียใจ การพรากจากของคนรัก หรือการเจ็บป่วย สิ่งเหล่านี้ใช่ว่าจะเป็นอุปสรรคทำให้เธอท้อถอยและถอดใจจากความฝัน แต่กลับกลายเป็นความน่าอัศจรรย์ในความเป็นอัจฉริยะของ "พุ่มพวง ดวงจันทร์" ที่จดจำเนื้อเพลงได้มากกว่า 500 เพลง และเป็นนักร้องลูกทุ่งอันเป็นที่รักของคนไทยทุกระดับชั้น จนถูกยกย่องให้เป็น "ราชินีลูกทุ่ง" เพียงหนึ่งเดียวตลอดกาล ภาพยนตร์เรื่องนี้จะออกไปในโทนบ้านนอกๆ หรือต่างจังหวัด ทำให้เราเหมือนดูหนังย้อนกลับไปเมื่อ 20-30 ปี ตัวหนังไม่มี CG แต่ประการใด เป็นการถ่ายดิบๆ ล้วนๆ ก็เลยต้องขึ้นอยู่ที่นักแสดงทุกคนที่ต้องแสดงอย่างเต็มที่ ตีบทให้แตกทุกคน แต่น่าเสียดาย ตัวหนังตัดฉากเร็วไปหน่อย อาจจะเพราะว่าข้อมูลชีวิตของคุณพุ่มพวงมีอยู่มาก ถ้าจะทำให้จบภายใน 2 ชั่วโมงคงยากน่าดู ก็เลยต้องทำให้ดูแต่ละฉากแว้บเดียวเท่านั้น บางฉากกำลังซึ้งๆ อยู่ตัดฉับๆ ไปเสียแล้ว "เฮ้อ..เสียดายจัง เฮ้อ..เสียดายจัง" แต่ก็ยังดี พอยังมีมุขตลกแทรกมาให้ดูบ้าง ไม่อย่างนั้นเบื่อแย่เลย
อีกอย่างที่ทำให้ผมหงุดหงิดเหมือนดูละครไทยก็คือในเรื่องคุณ ธีระพล แสนสุข ที่รับบทโดยคุณ ณัฐวุฒิ สกิดใจ ตอนเจอคุณพุ่มพวงใหม่ๆ ตอนนั้นคุณพุ่มพวงยังเป็นเด็กเล็กอยู่ ไม่น่าจะเกิน 10 ขวบ คุณธีระพลก็หนุ่มฟ้อหล่อเฟี้ยวเป็นนักเป่าแซกโซโฟนประจำวงครูไวพจน์ เพชรสุพรรณ แต่พอตอนที่คุณพุ่มพวงโตเป็นสาวแล้ว กลับมาหาครูไวพจน์อีกครั้ง น่าจะห่างจากครั้งแรก8-10 ปี แต่คุณธีระพล ยังหนุ่มฟ้อหล่อเฟียวอยู่เหมือนเดิม ไม่แก่ลงหรือเปลียนไปสักนิด เช่นเดียวกับครูไวพจน์เลย แต่ก็เอาเถอะ เพราะอาจแค่เป็นตัวละครที่มาเชื่อมความสัมพันธ์ในเส้นทางการเป็นนักร้องของคุณพุ่มพวงก็ว่าได้ จึงไม่จำเป็นต้องแก่ลง ในส่วนของนักแสดง ผมคงตรงปรบมือดังๆ ให้กับดาราหน้าใหม่อย่างคุณเปาวลี พรพิมล ถึงแม้ว่าจะเป็นเรื่องแรกของเธอ แต่เธอก็เล่นได้ดีมาก เสียงเพราะดี บวกกับหน้าตาบุคลิกท่าทางเธอถอดแบบมาจากคุณพุ่มพวง ไม่ผิดเพี้ยน ในส่วนของนักแสดงคนอื่นๆ ผมคงไม่ต้องพูดถึงเพราะว่าแต่ละคน มืออาชีพทั้งนั้น สำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้แสดงให้เห็นว่า ชีวิตของนักร้องคนหนึ่งภายนอกดูสวยสดดูดีมีชีวิตชีวา สามารถทำให้แฟนๆ เพลงของเธอมีความสุขได้ แต่ตัวตนที่แท้จริงของเธอนั้นใช่มีเพียงความสุขเสมอไป ความสุขของเธอเพียงอย่างเดียวเท่านั้นคือการร้องเพลงให้แฟนๆ หรือคนที่รักเธอฟัง ไปดูเถอะครับ ไปดูการ "ล่าฝัน" ของผู้หญิงคนหนึ่ง ที่เธอทุ่มเททั้งแรงกายแรงใจหยาดเหงื่อและน้ำตา จนบางครั้งเธอยังมองไม่เห็นจุดที่เธอใฝ่ฝันด้วยซ้ำ ด้วยปัจจัยหลายๆ อย่างที่แทรกเข้ามา จนกำลังใจแทบจะหมดลงเรื่อยๆ มีเพียงผู้หญิงอย่างเธอที่กล้าจะบอกว่า เธอจะไม่ยอมแพ้ และเธอจะต้องทำความฝันของเธอให้มาอยู่ตรงหน้าให้ได้ และเธอก็ทำได้สำเร็จด้วย ดูเรื่องนี้จบแล้วผมเชื่อว่า "การล่าฝันของบุคคลคนหนึ่ง เมื่อเขาทำสำเร็จแล้ว ก็มักเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้อื่นอยู่เสมอ" ตอนนี้คุณฝันอยากเป็นอะไร แล้วคุณพยายามได้เท่าเธอคนนี้หรือเปล่า ขอเพียงแค่คุณได้ลองทำและพยายามที่สุดเท่าที่คุณทำได้ก็พอแล้ว ความฝันของคุณจะมาอยู่ข้างหน้าเหมือนเธอคนนี้ ... พุ่มพวง ดวงจันทร์...ก็ได้นะครับ
บทวิจารณ์โดย : ทชากร E-mail :TCK05@sanook.com
>>>อ่านวิจารณ์หนังอีกเพียบ....คลิกเลย