วิจารณ์หนัง Fast 5

วิจารณ์หนัง Fast 5

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
คุณเคยมีอาการอย่างนี้บ้างไหม "รักพี่เสียดายน้อง" ช่วงหลังๆ นี้ผมเป็นบ่อยมาก เพราะว่าเดือนสองเดือนที่ผ่านมานี้ มีภาพยนตร์ดีๆ เข้าฉายพร้อมกันทีละหลายเรื่อง ครั้นผมจะแนะนำภาพยนตร์เรื่องนู้น ก็เสียดายภาพยนตร์เรื่องนี้ พอจะแนะนำภาพยนตร์เรื่องนี้ก็เสียดายภาพยนตร์เรื่องนู้น เป็นอย่างนี้มาสองถึงสามครั้งแล้ว ปักษ์นี้ก็เช่นกัน มีภาพยนตร์ดีๆ เข้าฉายพร้อมกันถึง 3 เรื่อง เป็นภาพยนตร์ไทย 1 เรื่องและ หนังต่างประเทศ 2 เรื่อง อาการ "รักพี่เสียดายน้อง" ก็เลยกำเริบขึ้นมาอีกครั้ง แต่ไม่ต้องห่วงผมหรอกนะครับ ที่ผมเป็นเช่นนี้ก็อาจจะเป็นเพราะว่าผมต้องการคัดหนังดีๆ คุณภาพให้พี่น้องชาว "เว็บสนุก" ได้ดูแต่หนังดีๆ มากกว่า เพราะว่าปัจจุบันค่าดูภาพยนตร์ขึ้นราคามาอีกแล้วเป็นราคา140-160-180-200 ตามแต่แถวนั่งโรงภาพยนตร์ เพราะฉะนั้นการดูภาพยนตร์แต่ละครั้งสมัยนี้ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ อีกแล้ว ไปดูหนังแค่ 2 คนรวมค่ารถค่ากินก็เกือบ 500 บาทเข้าไปแล้ว เพราะฉะนั้นผมจะพยายามคัดเลือกหนังดีๆ แบบดูแล้วไม่เสียดายเงินมาแนะนำให้ดูกัน ปักษ์นี้ผมขอแนะนำภาพยนตร์ที่มาแรงที่สุด เพราะว่าเป็นภาพยนตร์ ภาคที่ 5 แล้ว ของหนังในตระกูลความเร็วเรื่องนี้ ครับ เรื่องที่ผมจะ แนะนำอยู่ในตอนนี้คือเรื่อง "FAST & FURIOUS 5 (ฟาสต์ แอนด์ ฟิวเรียส 5)" หรือชื่อที่เป็นไทยๆ ว่า "เร็ว...แรงทะลุนรก 5" เมื่อ ปี 2001 ตอนที่ภาพยนตร์ ฟาสต์ แอนด์ ฟิวเรียส ภาคแรกเข้าฉาย ใครจะไปคิดว่า ดาราหัวเหม่งกล้ามใหญ่ใจดี อย่าง วิน ดีเซล (Vin Diesel) จะสามารถสร้างฐานใหญ่ให้ผู้ชมสนใจ จนกระทั้งหนังเรื่อง ฟาสต์ แอนด์ ฟิวเรียส จำเป็นต้องสร้างภาคต่อๆ ออกมา จนปัจจุบันก็มาถึงภาค 5 แล้ว อย่างนี้ถ้าไม่มันส์จริง ถ้าไม่สนุกจริง ถ้าไม่สะใจจริง ผู้จ้างหรือผู้อำนวยการสร้างจะยอมเสีงเงินให้มาทำภาคต่อๆ อย่างนี้เหรอ

ในภาค 5 ได้ จัสติน หลิน (Justin Lin) ผู้กำกับชาวไต้หวัน มากำกับให้อีกครั้งหนึ่ง ซึ่ง จัสตินเคยกำกับหนังในตระกูลฟาสต์มาแล้วถึงสองภาค คือภาค Fast and Furious (เร็ว...แรงทะลุนรก 4 : ยกทีมซิ่ง แรงทะลุไมล์), The Fast and the Furious: Tokyo Drift (เร็ว..แรงทะลุนรก : ซิ่งแหกพิกัตโตเกียว) จึงการันตีความมันส์และความต่อเนื่องได้เลย อีกทั้งยังได้คนเขียนบทคู่้หู คริส มอร์แกน (Chris Morgan) ที่เคยเขียนบทฟาสต์ให้กับจัสตินทั้งสองภาค มาเขียนบทในภาคนี้ให้อีกด้วย สำหรับเนื้อเรื่องย่อในภาคนี้ เริ่มต้นมาจะเป็นภาพที่ต่อจากฟาสต์ 4 คือตอนที่ ไบรอัน โอคอนเนอร์ (พอล วอล์คเกอร์ - Paul Walker) และ มีอา โทเร็ตโต้ (จอร์ดาน่า บรูสเตอร์ -Jordana Brewster) ช่วย ดอม (วิน ดีเซล-Vin Diesel) ให้พ้นจากการควบคุมตัว เมื่อช่วยดอมเป็นผลสำเร็จแล้วพวกเขาได้ซิ่งข้ามชายแดนเพื่อหลบหนีทางการ บัดนี้ เมื่อย้อนกลับมายังมุมถนนในรีโอ เดอ จาเนโร พวกเขาต้องรับงานสุดท้ายเพื่ออิสรภาพ โดยการไปขโมยรถสุดหรูบนขบวนรถไฟ ซึ่งหารู้ไม่ว่า เป็นรถของเจ้าพ่อซึ่งทรงอิทธพล เฮอร์แนน เรเยส (โจอาคิม เดออาร์เมดา) เป็นนักธุรกิจคอร์รัปชั่น และมีชิปที่ซ่อนความลับของพวกมันอยู่ในรถคันนั้นทำให้พวกดอมถูกการตามล่าจากแก้งผู้มีอิทธิพลรายนี้ แต่นี่ก็ไม่ใช้กลุ่มอิทธิพลกลุ่มเดียวที่ตามล่าพวกเขาอยู่

ลุค ฮ็อบบ์ส เจ้าหน้าที่หัวแข็ง (เดอะร็อค หรือ ดเวยน์ จอห์นสัน -Dwayne Jonhson) ทำงานไม่เคยพลาดเป้า เมื่อเขาได้รับมอบหมายให้ตามล่าตัวดอมและไบรอัน เขากับทีมจู่โจมเปิดฉากภารกิจโจมตีทุกวิถีทางเพื่อจับตัวสองขาซิ่งส์ให้ได้ แต่เมื่อคนของเขาทำบราซิลแทบแตก ฮ็อบบ์สได้เรียนรู้ว่าเขาไม่สามารถแยกคนดีออกจากคนเลวได้ บัดนี้ เขาต้องพึ่งสัญชาตญาณตัวเองเท่านั้นเพื่อไล่เหยื่อให้จนมุม...ก่อนที่จะมีคนอื่นถึงตัวพวกเขาก่อน ดอม ต้องหาวิธีแก้เกมโดยเขาต้องปฏิบัติภารกิจสุดท้ายเพื่อให้ได้อิสรภาพคืนมา ภารกิจของพวกเขาในครั้งนี้ก็คือการรวบรวมเหล่าตีนผีนักซิ่งฝีมือดี จากกลุ่มพัีนธมิตรของเขาเพื่อลงมือปล้นระห่ำที่มีเงินของวาคิมมูลค่ากว่า $100 ล้านเป็นเดิมพัน โดยดอมและไบรอันรู้ดีว่าโอกาสเดียวที่พวกเขาจะรอดไปได้อย่างตลอดรอดฝั่งนั้น หมายความว่า เขาต้องกำจัด วาคิม ที่อยากให้พวกเขาตายให้ได้ด้วย

หนังเรื่องนี้จัดความมันส์ให้อยู่ในระดับ 5 ดาว เรียกว่า ความมันส์และความตื่นเต้นอยู่ตั้งแต่ต้นเรื่องยันปลายเรื่องเลยทีเีดียว ถึงแม้ว่าภาคนี้ตัวละครจะเยอะ โดยการนำตัวละครจากภาคที่ผ่านๆ มา เอาเฉพาะตัวเด่นๆ เข้ามาสบทบในภาคนี้ แค่นี้ก็คุ้มค่าเงินที่ตีตั๋วเข้าไปดูแล้ว ตัวละครทุกตัวกระจายบทกันดีทุกตัวเด่นหมด แม้แต่ตัวละครที่เพิ่งเพิ่มเข้ามาใหม่อย่าง เดอะร็อค, เอลซา พาทากี หรือ โจอาคิม เดออาร์เมดา ก็ยังดีเด่นไม่แพ้พวกพระเอกเลย ไม่ว่าเป็นตัวละครตัวไหนดูเท่ๆ ทั้งนั้น สำหรับใครที่เคยดูภาคก่อนๆ มา พอมาดูภาคนี้อาจจะแปลกตาไปบ้างเพราะว่าเรื่องนี้ไม่เน้นการโชว์ภาพการซิ่งรถ หรือการแข่งรถอย่างเมามันส์เหมือนภาคก่อนๆ แต่เปลี่ยนเป็นการซิ่งรถแบบตำรวจจับผู้ร้ายแทน ซึ่งก็มีเนื้อเรื่องที่ผู้สร้างผูกเอาไว้สร้างได้หลายๆ ตอนเลยทีเดียว ในส่วนนักแสดงคนเก่า อย่าง วิน ดีเซล ก็แทบไม่น่าเชื่อว่า การแสดงของเขาจะสามารถสะกดคนดูในภาคที่แล้ว จนสามารถทำลายสถิติรายได้เปิดตัวและเก็บรายได้จากทั่วโลกไปถึง $350 ล้าน จากเงินลงทุน$85 ล้าน จนกลายเป็นภาพยนตร์ที่สร้างสถิติรายได้เปิดตัวดีที่สุดในสุดสัปดาห์ ที่ไม่ใช้วันหยุดเทศกาล และยังเป็นภาพยนตร์ที่ทำรายไ้ด้สูงที่สุดสัปดาห์นั้นในประวัติศาสตร์ภาพยนตร์ของฮอลลีวู้ดอีกด้วย สำหรับในภาคนี้ วิน ดีเซลก็ทำให้เรารู้ว่า นักแสดงอาชีพเขาเป็นเช่นไร นักแสดงอีกคนที่น่าจะกล่าวถึงคือ พอล วอล์คเกอร์ ที่รับบทเป็นเป็น ไบรอัน โอคอนเนอร์ คนนี้หล่อและเท่ การแสดงเยี่ยมไม่แพ้กัน ในภาคที่แล้วพอล ต้องรับบท ผู้นำครอบครัว ที่เพิ่งเริ่มจากภาคที่แล้ว มาภาคนี้ยิ่งดูชัดขึ้น เพราะเขาต้องทำทุกอย่างเพื่อครอบครัวของเขาให้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันอย่างดีที่สุด

ส่วนคนอื่นๆ ก็เล่นตามคาแร็กเตอร์ ที่เคยเล่นในภาคเก่าๆ มา อย่างดีที่สุด ยกเว้นนักแสดงที่มาสมทบในภาคนี้อย่าง เดอะร็อค นายตำรวจที่ไม่เคยทำงานผิดพลาด ผมว่าฉากตอนที่เดอะร็อค สู้กับ วิน ดีเซล ตัวต่อตัว เป็นอะไรที่สมน้ำสมเนื้อกันมาก เพราะว่าเขาทั้งสองคน มีรูปร่างที่ไม่ได้เปรียบหรือเสียเปรียบกันเลย จึงการเป็นฉากต่อสู้ที่ดุเดือดมาก เรียกว่า เดอะร็อคมาเพิ่มสีสันต์ให้กับเดอะฟาสต์ภาคนี้ให้ดูสนุกยิ่งขึ้น ถ้าพูดถึงเดอะฟาสต์ ก็คงหนีเรื่องของรถไปไม่ได้ ในภาคนี้เราจะเป็นรถที่เป็นรุ่นใหม่ๆ หลายคันด้วยกัน รวมทั้งรถรุ่นเก่าๆ ด้วย แล้วยังมีรถที่ถูกทำลายไปหลายคัน แต่ที่ผมชอบก็คือรถเก่าๆ ของ ดอมอย่าง Dodge Charger รุ่น ปี 1970 ที่เป็นมรดกตกทอดมาจากพ่อของดอมตั้งแต่ภาคแรก สมบุกสมบันพังเยินมาหลายครั้งแล้วในภาคนี้ก็ยังคงนำมาวิ่งซิ่งให้เห็นอยู่ แต่ไม่รู้ว่าถ้าหนังมีต่อภาค 6 เจ้าคันนี้จะยังมีอยู่หรือเปล่า เพราะว่าภาคนี้โดนรถหุ่มเกรา่ะ Gurkha F5 ขนาดยักษ์ 9.5 ตัน ของ ลุค ฮ็อบ์ส ชนซะแบนติดกำแพงไปเลย

ส่วนสาวสวยอย่าง กัล กาโดท์ ก็มีฉากขี่มอเตอร์ไซค์ดูคาตี้ Ducati Streetfighter ซึ่งเป็นรุ่นที่สวยที่สุดเลยก็ว่าได้ ออกมาโฉบเฉี่ยวให้เราเห็นอีกด้วย ยังมีรถเก่าๆ อีก 3 คันในฉากปล้นรถไฟคือ De Tomaso Pantera รุ่นปี 1972 เป็นรถสปอร์ตคลาสสิกจากประเทศอิตาลี, Corvette GS Roadster รุ่นปี2007 รถสปอร์ตจากประเทศอเมริกา เป็นตัวที่แรงที่สุด และอีกคัน Ford GT40 สปอร์ตอเมริกา สุดคลาสสิก และยังมีอีกหลายคันเลยทีเดียวทีำได้มาเข้าฉากหนังเรื่องนี้ เพราะฉะันั้นใครที่มีความชื่นชอบในเรื่องของรถแล้วละก็ มาดูเรื่องนี้ถือว่าได้สองเด้งเลยทีเดียว หนังจบแล้วอย่าเพิ่งลุกไปไหนนะครับ ดูเครดิตให้จบก่อนมีเซอร์ไพร์ตอนจบจริงๆ ให้ดูอีกนิดนึง... หนังเรื่องนี้ผมบอกไปแล้วว่า สนุกดี แต่ถ้าใครไม่เชื่อก็คงต้องเข้าไปพิสูจน์เอาเอง แต่ที่รู้ๆ FAST & FURIOUS ฟาสต์ แอนด์ ฟิวเรียส 6 มีตามออกมาให้ชมกันแน่ๆ เร็วๆ นี้ครับ ฟันธง...

บทวิจารณ์โดย TCK tck05@sanook.com

>>>คลิกอ่าน...วิจารณ์หนังอีกเพียบ

อัลบั้มภาพ 9 ภาพ

อัลบั้มภาพ 9 ภาพ ของ วิจารณ์หนัง Fast 5

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook