วิจารณ์หนัง Thor

วิจารณ์หนัง Thor

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
ถ้าเราจะกล่าวถึงตัวซูเปอร์ฮีโร่ของค่ายมาร์เวลแล้ว "ธอร์ " เทพเจ้าสายฟ้า ก็ถือเป็นซูเปอร์ฮีโร่อีกตัวหนึ่งที่ถือกำเนินมาจากมาร์เวลคอมิคส์ เช่นเดียวกันกับพวกฮีโร่ตัวอื่นๆ อย่าง ไอรอนแมน, แฟนแทสติค โฟร์, ดิ เอ็กซ์-เมน, The Hulk, กัปตันอเมริกา หรือแม้แต่ สไปเดอร์แมน ฯลฯ ด้วยกันทั้งสิ้น ใช่แล้วครับสำหรับปักษ์นี้ ผมอยากเชิญชวนแฟนๆ ของเว็บสนุกที่อยากจะดูหนังในช่วงสิ้นเดือนเมษาหน้าร้อนนี้ กับภาพยนตร์ "ธอร์ (THOR) เทพเจ้าสายฟ้า" งานเปิดตัวภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ เรื่องแรกของซัมเมอร์ปี 2011 นี้ที่เพียบพร้อมไปด้วยความอลังการงานสร้าง และความสนุกตื่นเต้นไม่แพ้ภาพยตร์ฮีโร่เรื่องอื่นๆ ธอร์ ถือกำเนิดเกิดมาเมื่อปี 1962 โดยคู่หูดูโอ สแตน ลี และ แจ็ค เคอร์บี้ ได้เปิดตัวหนังสือมาร์เวลคอมิคส์ หนังสือการ์ตูนที่มีชื่อว่า Journey into Mystery เล่มที่ 83 ในฐานะเป็นการ์ตูนเรื่องใหม่ตอนสั้นๆ 13 หน้ามีชื่อว่า The Mighty Thor ซึ่งถือเป็นการเปิดศักราชใหม่ในช่วงนั้น ด้วยเนื้อเรื่องแนวแอ็คชั่นผจญภัย ที่มาพร้อมกับเทพเจ้าของชาวสแกนดิเนเวีย ที่มีค้อน Mjolnir เป็นอาวุธ ตามตำนานกล่าวไว้ว่า ธอร์ เป็นเทพเจ้าที่ทรงพลังมาก เป็นชายหนุ่มร่างใหญ่ ผมสีทอง หนวดเคราสีแดง มีพาหนะคือแพะ และ เป็นเทพเจ้าแห่งสายฟ้า เขาเป็นบุตรของเทพเจ้าโอดิน เทพเจ้าสูงสุดของตำนานสแกนดิเนเวีย (เปรียบได้กับเทพเจ้าซูสของกรีกโรมัน) ธอร์ยังเป็นเทพเจ้าที่เกี่ยวของกับสายฟ้า สายฝน ต้นไม้อีกด้วย เมื่อเรื่องเล่ากันว่า ทุกครั้งที่เราได้ยินเสียงฟ้าร้องฟ้าผ่านั้นคือเสียงที่ ธอร์ กำลังกำจัดพวกไม่ดีไร้สติอยู่บนฟากฟ้า ทุกครั้งที่ธอร์ขว้างค้อนออกไปปุ๊บก็จะเกิดเรียงฟ้าร้องฟ้าผ่าขึ้นมาทันที

สำหรับ ธอร์ ในเวอร์ชั่นที่เป็นภาพยนตร์เรื่องนี้ ได้ เคนเน็ธ บรานาห์ มาทำหน้าที่เป็นผู้กำกับให้ โดย เคนเน็ธ บรานาห์ เป็นทั้งนักแสดงละครเวที นักแสดงภาพยนตร์ และผู้กำกับมากฝีมือดีอีกคนหนึ่ง ส่วนผลงานที่น่าจดจำของเขามักจะมาจากงานดันแปลงมาจากบทละครหรือบทประพันธ์ ชองเชคสเปียร์เป็นส่วนมาก และเรื่อง "ธอร์ เทพเจ้าสายฟ้า" นี้ก็เป็นภาพยนตร์ ไซ-ไฟเรื่องแรกที่เขากำกับ ผู้กำกับท่านนี้เล่าว่า สีสันภาพปกของมาร์เวล คอมิคส์ มันโดดเด่นออกมาจากชั้นหนังสือ และ The Mighty Thor ก็คือหนังสือการ์ตูนที่ดึงดูดผมได้เสมอตั้งแต่สมัยเด็กมาแล้ว และเมื่อรู้ว่าเขาจะต้องมากำกับภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วยแล้ว ความตื่นเต้นปนดีใจทำให้เข้าตั้งใจทำเรื่องนี้ให้ออกมาดีที่สุด เพราะธอร์คือส่วนหนึ่งของชีวิตเขามาตั้งแต่สมัยเด็ก

สำหรับเรื่องย่อในตอนนี้ ตัวละครเอกของเรื่องนี้คือ ธอร์ (คริส เฮมส์เวิร์ธ) ทายาทเทพเจ้า เป็นนักรบผู้แกร่งกล้าแต่หยิ่งทะนง ผู้ซึ่งการกระทำไร้การยั้งคิดของเขาได้จุดเพลิงสงครามโบราณระหว่างเทพให้ลุกโชนขึ้นมาอีกครั้ง ธอร์ถูก โอดิน(แอนโธนี ฮ็อปกินส์ ) เทพบิดาของเขาจำใจต้องขับไล่บุตรชายให้ลงมาลิ้มรสการไร้ซึ่งอำนาจยังโลกมนุษย์ และจำต้องใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางมวลมนุษย์ธรรมดาๆ จนกระทั้ง ธอร์ได้มาบพกับ เจน ฟอสเตอร์ (นาตาลี พอร์ตแมน) นักวิทยาศาสตร์สาวสวย ซึ่งสอนให้เขาได้รู้จักคำว่ารักแท้ และได้กลายเป็นรักแรกของเขา ระหว่างที่อยู่บนโลกมนุษย์นี้เองที่ธอร์ได้เรียนรู้ว่า การเป็นวีรบุรุษที่แท้จริงนั้นเป็นเช่นไร แต่หนทางก็ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบเสมอไป เมื่อวายร้ายที่อันตรายที่สุดจากโลกของเขา (แอสการ์ด) ได้ส่งกองกำลังที่เก่งกล้าสามารถที่สุด มาจู่โจมโลกมนุษย์ และนี่อาจจะเป็นเวลาที่ทำให้ธอร์ได้เรียนรู้ถึงความเป็นวีรบุรุษที่แท้จริงก็ได้... ฉากสวยดนตรีประกอบเล้าอารมณ์มากครับ อลังการงานสร้างมาก โดยเฉพาะฉากที่ต่อสู้กันบนสวรรค์ ดูแค่ฉากนี้ฉากเดียวก็ติดใจไปอีกนานเลยและยิ่งใครที่ได้ดูในระบบ 3D ด้วยแล้ว แทบจะเป็นส่วนหนึ่งของสงครามครั้งนี้ไปด้วยเลย

นักแสดงอย่าง คริส เฮมส์เวิร์ธ ที่รับบทเป็น ธอร์ ผมว่าเขาเหมือนตัวซูเปอร์ฮีโร่จริงๆ รูปหล่อ กล้ามใหญ่ กับค้อนทรงพลังที่เขาถือดูเข้ากันไปซะหมด นอกจากเรื่องของเครื่องแต่งกายเสื้อผ้าหน้าผมแล้ว เขาดูเป็นชายที่แข็งแกร่งมาก แสดงอารมณ์ได้ลึกซึ้งหลากหลาย ดูแล้วเป็นผู้ทรงพลังที่มีภูมิปัญญาที่เฉลียวฉลาด และสามารถทนแบกรับเหตุการ์ณต่างๆ ที่ผ่านเข้ามาในชีวิตได้อย่างน่าอัศจรรย์ยิ่งนัก ในส่วนของนางเอกของเราอย่าง นาตาลี พอร์ตแมน ที่รับบทเป็น เจน ฟอสเตอร์ นักวิทยาศาสตร์สาวสวย คนนี้คงไม่ต้องอธิบายอะไรมากนัก เพราะเธอคนนี้ผ่านการแสดงมาอย่างโชคโชนเธอเกิดและโด่งดังจากเรื่อง Star Wars จากนั้นชื่อเสียงของเธอก็ทำให้งานต่างๆ เข้ามาหาเธออย่างแน่นหนาขึ้นเรื่อยๆ จนทำให้เธอได้รับรางวัลออสการ์คนล่าสุด และผลงานที่ผ่านไปใหม่ๆ สดๆ ของเธออย่างเรื่อง Black Swan ก็ได้รับเสียงวิจารณ์การแสดงของเธอว่าดีขั้นเทพเลยทีเดียว นักแสดงอีกท่านหนึ่ง ซึ่งถือว่าเป็นตำนานเลยก็ว่าได้อย่าง แอนโธนี ฮ็อปกินส์ ที่รับบทเป็น เทพโอดิน เทพผู้เป็นพ่อของธอร์ กับบทดราม่าที่เขาได้รับบทบาทที่แสดงถึงความรู้สึกของผู้เป็นพ่อที่รู้สึก เจ็บปวดที่ลูกชายไม่นับถือเขา หยามเกียรติของวงศ์ตระกูล และทุกสิ่งทุกอย่างที่ผู้เป็นพ่อได้สร้างขึ้นมา ความรู้สึกเจ็บปวดจนน้ำตาคลอเบ้า หรือน้ำตาแทบไหลออกมาแบบนี้ ผมว่าแอนโธนี เล่นได้สมบทบาทมากครับ ยังมีนักแสดงอีกคนหนึ่งที่ผมจะไม่กล่าวเสียมิได้ ก็คือ ทอม ฮิดเดิลสตัน ที่รับบทเป็น โลกิ น้องชายไม่แท้ของธอร์ ทอมเล่นบทที่ต้องซ่อนอารมณ์ได้เก่งมาก ในขณะที่บทที่ต้องระเบิดอารมณ์ออกมาก็ดูน่ากลัวและมีความลึกลับอยู่ในตัว แม้ว่าเขาจะดูภายนอกเป็นน้องชายสุดที่รักของธอร์อย่างมากก็ตาม แต่ลึกๆ แล้ว เขาก็คือตัวร้ายเรียกพ่อเลยล่ะ

หนังฟอร์มยักษ์อย่างนี้ผมไม่อยากให้คุณพลาดโอกาส เพราะว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่มีครบทุกรสชาติ เรื่องราวของลูกชายที่เลือดร้อนที่ต้องการพิสูจน์ตนเองให้พ่อเห็นคุณค่า เรื่องของน้องชายที่แอบแค้นเคืองใจในตัวพี่ชาย เรื่องของความรักของหญิงสาวที่ช่วยให้ผู้ชายคนหนึ่งมองโลกในแง่ดีหรือมองโลกในอีกมุมมองหนึ่ง มีเรื่องของความพยาบาทอาฆาต ความยโสโอหัง เรื่องของสายเลือดและวงศ์ตระกูล แต่ไม่ว่าจะเป็นเรื่องใดก็ตาม ก็ล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องที่วกเข้ามาหามนุษย์ทุกผู้ทุกคนทั้งนั้น ถ้าเราเอาเรื่องราวของชีวิตมนุษย์เป็นตัวตั้งแล้ว ผมว่า ดูเรื่องนี้เราจะพร้อมรับเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นกับชีวิตประจำวันของเราได้ ไม่มากก็น้อยครับ...สุดท้ายนี้ผมก็หวังว่า "ธอร์ เทพเจ้าสายฟ้า" ผู้นี้จะเป็นฮีโร่คนสำคัญอีกตัวหนึ่ง ที่อยู่ในใจคุณ...

บทวิจารณ์โดย TCK tck05@sanook.com

>>>คลิกอ่านวิจารณ์หนังอีกเพียบ!!!

อัลบั้มภาพ 9 ภาพ

อัลบั้มภาพ 9 ภาพ ของ วิจารณ์หนัง Thor

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook