กระจกวิเศษบอกข้าเถิด...ใครงามเลิศในปฐพี? คำฮิตที่มาจากนิทาน เรื่อง "สโนไวท์กับคนแคะทั้ง7" เป็นคำถามของ แม่มดในเรื่อง ที่ถามกระจกวิเศษของเธอว่า ใครที่สวยที่สุดในปฐพีนี้ แต่ผมว่า ถ้ากระจกวิเศษมีจริงๆละก็ ชื่อของคนที่งามเลิศในปฐพีคงไม่ใช่คนชื่อ สุดารัตน์ บุตรพรม(ตุ๊กกี้ ชิงร้อยชิงล้าน) เป็นแน่ และชื่อของเธอ อาจจะเป็นชื่อที่อยู่ในอันดับท้ายๆของผู้หญิงทั้งโลก ที่กระจกวิเศษได้บันทึกไว้ แต่นั้นมันเป็นเรื่องของกระจกวิเศษ แต่ความเป็นจริงในวันนี้ วินาทีนี้ ใครที่ไม่รู้จักคุณ ตุ๊กกี้ ชิงร้อยชิงล้านคนนี้ล่ะก็ ต้องถามกลับไปว่า คุณไปอยู่ที่ไหนมา สุดารัตน์ บุตรพรม มีชื่อเล่นว่า ตุ๊กตา เป็นคนจังหวัดอุดรธานี หลังจากจบการศึกษา จากมหาวิทยาลัยมหาสารครม คณะศิลปกรรมศาสตร์เอกวิชา นาฏศิลป์ไทย แล้วก็เข้ามาสมัครงานที่บริษัทเวิร์คพอยท์ ในแผนกจัดเสื้อผ้าให้กับนักแสดง จนทางบริษัทเห็นแววในด้านการแสดงของตุ๊กตา ก็เลยลองให้เล่นกับแก๊งค์ 3 ช่า ในรายการ ชิงร้อยชิงล้าน จนคนดูติดใจ จากชื่อเล่นตุ๊กตา ก็เลยเปลี่ยนชื่อเล่นมาเป็น ตุ๊กกี้ ชิงร้อยชิงล้าน และงานแสดงต่างๆ ก็เริ่มหลั่งไหลเข้ามาหาเธออย่างไม่ขาดสาย ก่อนที่ตุ๊กกี้จะมาเป็นเจ้าหญิงขายกบในเรื่องนี้ ได้ผ่านงานแสดงมาแล้วหลายเรื่องด้วยกัน เช่น "ว้อ..หมาบ้ามหาสนุก", "บอดี้การ์ดหน้าเหลี่ยม2","แต๋วเตะตีนระเบิด","วงษ์คำเหลา","หอแต๋วแตก แหกกระเจิง" ฯลฯ ในทุกๆเรื่องที่ตุ๊กกี้ได้มีส่วนในการแสดงนั้นเรียกว่า เรียกเสียฮาให้กับผู้ชมทั้งโรงภาพยนตร์แบบไม่ขาดสายเลยทีเดียว ไม่ว่าจะออกมาในฉากไหนก็ตาม แต่สำหรับเรื่องนี้ ตุ๊กกี้ อาจหาญก้าวขึ้นแทน "นางเอกเต็มตัว" เป็นครั้งแรกในชีวิตของเธอ เพราะฉะนั้น ตุ๊กกี้ต้องปล่อยฝีมือสุดฤทธิ์สุดเดชแน่ "ตุ๊กกี้เจ้าหญิงขายกบ" เป็นเรื่องราวของ แม่ค้าต่างด้าวปากตลาดที่ชื่อว่า "ตุ๊กกี้" อาชีพของเธอคือการขายกบและกบที่เธอเลี้ยงนั้นจะเป็นกบที่ตัวใหญ่ยักษ์ ในแบบที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อนได้ และที่สำคัญเธอยังสามารถพูดคุยกับกบรู้เรื่องอีกต่างหาก ถ้าหากเธอขายกบได้ เธอจะให้ราววัลพิเศษกับกบตัวใหญ่ของเธอ โดยการจูบปากกบ 1 ทีเป็นของรางวัล แต่ทั้งนี้ทั้นนั้นเพราะเธอเองก็แอบหวังลึกๆว่า สักวันกบจะกลายเป็นเจ้าชายสุดหล่อขึ้นมาเหมือนดังนิทานที่เธอเคยอ่าน และตัวเธอเอง นั้นก็อยากเป็นเจ้าหญิงเสียเหลือเกิน และแล้วก็เหมือนกับฟ้าสั่งสวรรค์แกล้ง ที่ทำให้ตุ๊กกี้กลายมาเป็นเจ้าหญิงจริงๆ เจ้าหญิงตุ๊กกี้ เจ้าหญิงที่หายสาปสูญไปนานกว่า 20 ปี แห่งแคว้นปาดังราวี แถมยังเป็นเจ้าหญิงรัชทายาทเพียงองค์สุดท้ายที่เหลืออยู่เพียงพระองค์เดียวอีกด้วย เธอคือความหวังสูงสุดของชาวปาดังราวีทั้งหมดทั้งมวล และเมื่อตุ๊กกี้ได้เป็นเจ้าหญิงแล้ว เรื่องเฮฮาทั้งหลายจึงเกิดขึ้น ผู้กำกับเรื่องนี้คือคุณพรชัย พงษ์รัตนาภรณ์(พิ้งค์) ผมว่าผู้กำกับคนนี้เก่งมากนะครับโดยเฉพาะเรื่องของคอมมาดี้ และมุขตลกต่างๆ โดยเฉพาะผู้กำกับคนนี้เกิดมาจากมุขที่เรียกว่า "มุขควาย" จากเรื่อง "ทวานยังหวานอยู่" ที่เขากำกับเป็นเรื่องแรก และเรื่องต่อมา อย่างเช่น Before Valentine ก่อนรัก...หมุนรอบตัวเรา และก็มาเรื่อง My Valendtine ซึ่งก็ล้วนแล้วแต่เป็นภาพยนตร์คอมมาดี้ทั้งนั้น ส่วนในด้านของการเขียนบทเรื่องนี้ก็ได้คุณพัลลภ สินธุ์เจริญ (ต้อง) กับคุณสฤษดิ์รงค์ หยงสตาร์ (เติร์ก) นักเขียนบท 2 ต. ที่เคยเขียนบทร่วมกันมาจากภาพยนตร์เรื่อง "6:66 ตายไม่ได้ตาย"มาเขียนบทให้ โดยเฉพาะคุณต้องนั้นถือว่าเป็นผู้มีความสามารถหลายด้านเลยทีเดียว ถ้าใครยังจำได้คุณต้องเคยออกเทปในนามวงไทละเมอ มาแล้ว เคยเขียนบทละครเวทีมาแล้ว เคยเขียนบทละครโทรทัศน์มาแล้ว ทั้งยังเคยเขียนหนังสือพ๊อกเก็ตบุ๊คออกจำหน่ายอีกหลายเล่มด้วยกัน อย่างเล่มที่ผมชอบอ่านก็คือ "รวมเรื่องนั้นประจำส้วม"เคยเขียนบทภาพยนตร์มาแล้ว อย่างเรื่อง "มนต์เพลงลูกทุ่งเอฟเอ็ม" และ "โหน่งเท่ง นักเลงภูเขาทอง" เพราะฉะนั้นฝีมือในด้านเขียนบทจึงการันตีได้เลย ภาพรวมๆในภาพยนตร์เรื่องนี้ ก็เป็นหนังตลกแฟนตาซีที่สามารถดูได้ทั้งครอบครัว อาจมีคำหยาบนิดหน่อย เด็กเล็กก็ควรมีผู้ปกครองแนะนำ ผมชอบฉากหลายฉากในเรื่องนี้ อย่างฉากในตลาดสด ที่เนรมิตให้เป็นตลกแฟนตาซี แม่ค้าทุกคนแต่งตัวแบบแฟนตาซีกันหมด เรียกว่าถ้ามีตลาดอย่างนี้จริงๆ ล่ะก็ ผมคนหนึ่งล่ะที่อยากไปเดินซื้อของในตลาดแห่งนี้ ฉากในวังต่างๆ ก็เป็นอีกฉากที่ดูยิ่งใหญ่ตระการตา คนเลือกโลเกชั่นเป็นคนที่ตาถึงมาก ในด้านเรื่องเครื่องแต่งกายก็ดูสง่าสมกับเป็นเจ้าหญิงเลยทีเดียว มุขตลกต่างๆผู้กำกับยังคงเอา "มุขควาย" มาเล่นได้อีก แล้วก็เรียกเสียฮาได้ด้วย อย่างเช่น มุขนักเลงหัวไม้ (มีนักเลงในเรื่องอยู่ 3 คนแล้วก็มีไม้หน้าสามติดอยู่ที่หัว) หรืออยากมุข พระประสงค์,พระทัยอะไรทำนองนี้ พอมาดูมุขอย่างนี้แล้วให้นึกถึงเรื่อง ทวานยังหวานอยู่ ขึ้นมาทันที ในเรื่องของการแสดงนั้น คุณตุ๊กกี้หายห่วง เพราะอย่างที่บอกไว้ เธอผ่านการแสดงมาแล้วหลายเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องนี้เธอได้เล่นเป็นนางเองเต็มตัวอย่างนี้ เป็นไงเป็นกันเรียกว่าตีบทจนมุกกระจาย ฮาตั้งแต่เห็นหน้าเธอในวินาทีแรก จนวินาทีสุดท้ายของหนังเรื่องนี้ พระเอกของเรื่อง หลุยส์ สก๊อตต์ พระเอกคนนี้ก็หล่อวันหล่อคืนเสียจริงๆ ผมจำได้สมัยก่อน ที่น้องเขาเป็นนักร้องอยู่ในวง "แร็พเตอร์" หลุยส์ สก๊อตต์ คนนี้หน้าตาดูไม่ได้เลย เรียกว่าเด็กฝรั่งที่หน้าออกไปทางอีสานบ้านเรา ในตอนนั้นคู่หูของเขาอย่าง จอนนี้ อันวา ดูจะเด่นกว่า เมื่อวงแร็พเตอร์แยกวงแล้ว จอนนี่ยังออกเทปเดียวอีกด้วย ซึ่งหลุยส์ หายเงียบเลย แล้วก็มาโผล่อีกทีตอนที่ได้เล่นภาพยนตร์เรื่อง "วัยระเริง" ในปี 1998 จากนั้นงานละครก็เริ่มเข้ามาเยอะขึ้น หน้าตาของหลุยส์ดูดีขึ้นถึงขั้นได้เป็นพระเอกละครโทรทัศน์ก็หลายเรื่องแล้ว ส่วนนักแสดงคนอื่นๆ อย่างนาตาลี เดวิด,ชูศักดิ์ เอี่ยมสุข(โหน่ง ชะชะช่า),อาคม ปรีดากุล(คอม ช่วนชื่น), พงษ์ศัดดิ์ พรษ์สุวรรณ(เท่ง), วัชระ ป่านเอี่ยม ล้วนแล้วแต่เป็นตัวประกอบที่มาช่วยสร้างสีสันเท่านั้น อีกคนหนึ่งที่ผมอยากจะพูดถึงคือคุณ เฉลิม แย้มฆะมัง ได้รับบทเป็น นายกรัฐมนตรีในเรื่องนี้ ผมว่าหน้าตาคุณเเฉลิมนี้ตลกเข้าขั้นเลยที่เดียวขอบอกว่าในเรื่องคุณเป็นนายกรัฐมนตรีที่ขี้เหร่ที่สุดในโลก แต่เป็นตอนที่เรียกเสียฮาได้มากที่สุดอีกฉากหนึ่งผมชอบฉากเต้นรำกับเจ้าหญิงตุ๊กกี้กับนายกรัฐมนตรีมากที่สุดครับ หนังตลกตอนนี้ก็เข้ามาให้ชมหลายเรื่องด้วยกัน ผมว่าเรื่องนี้เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ดูแล้วคลายความเครียดได้ดี ไม่เสียดายเงิน บ้านเมืองเรากำลังจะเข้าสู่สภาวปกติ ใครที่เคยเครียดๆอยู่ ก็มาดูภาพยนตร์เรื่องนี้ จะได้หายเครียด ถ้าภาพยนตร์เรื่องนี้ได้ ร้อยล้านเมื่อไหร่ ทำเนียบนางเอกร้อยล้านอันดับใหม่ต้องยกให้คุณตุ๊กกี้แน่อย่างไม่ต้องสงสัย ดังไม่ดังไม่รู้แต่ปัจจุบันเธอมีเว็บแฟนคลับคนรักตุ๊กกี้อีกด้วยนะครับ ใครที่อยากเป็นแฟนคลับของเธอก็เข้าไปสมัครได้ที่ http://www.tukkyfanclub.com รับรองว่าได้คุยกับผู้หญิงที่หน้าตาไม่ธรรมดาคนนี้แน่นอน แล้วอยากฝากไปถึงกระจกวิเศษอีกครั้งถ้ามีจริงด้วยว่าควรจัดอันดับให้ผู้หญิง สั้นเตี้ย ก้ามใหญ่ ปากไว คนนี้ เป็นผู้หญิงที่ ตลกที่สุดในปฐพี ด้วย....

บทวิจารณ์โดย TCK tck05@sanook.com

อัลบั้มภาพ วิจารณ์ ตุ๊กกี้เจ้าหญิงขายกบ ภาพที่ 3 / 4

วิจารณ์ ตุ๊กกี้เจ้าหญิงขายกบ