วิจารณ์ Predators

ใครที่เป็นแฟนคลับของเจ้าเอเลี่ยนต่างดาวพันธุ์นักล่าเขี้ยวโค้งงอที่มีชุดเป็นเกราะบังตามีอาวุธเป็นปีนเลเซอร์และดาบปลายมือก็คงต้องมีเฮกันคลาวนี้เพราะว่าเจ้าตัวที่ผมว่านี่นะกลับมาสร้างความสะพรึงกลัวให้กับผู้ที่ถูกมันไล่ล่าอีกครั้งใน "มหากาฬพรีเดเตอร์" (Predators) ผู้กำกับเรื่องนี้คือ นิมโรด อันทาล(Nimrod Antal) แต่นั้นก็ไม่สำคัญเท่ากับ ผู้แต่งหรือเขียนบทเรื่องนี้ แถมพ่วงเป็นผู้อำนวยการสร้างอีกตำแหน่งหนึ่งด้วยคือ โรเบิร์ต รอดริเกซ (Robert Rodriguez) โรเบิร์ต รอดริเกซ เป็นทั้งผู้เขียนบทและเป็นทั้งผู้กำกับก็มาหลายเรื่องแล้ว ผลงานการกำกับเด่นๆของโรเบิร์ตอย่างเช่น Grindhouse - Planet Terror (โคโยตี้ แข้งปืนโหด), Once Upon a Time in Mexico (เพชฌฆาตกระสุนโลกันตร์) และเรื่องล่าสุดอย่าง Sin City ก็ได้รับแรงตอบรับจากผู้ชมอย่างดีพอสมควร ก่อนหน้านี้โรเบิร์ต ก็มองหาผู้กำกับฝีมือดีที่จะมากำกับ เรื่อง Predators ให้กับเขาหลายคนด้วยกัน อย่างเช่น นิล มาร์แชลล์, ไมเคิล เจ บาสเซตต์, บิล ดุก ฯลฯ แต่แล้วผู้อำนวยการสร้างอย่างโรเบิร์ต ก็เลือกที่จะใช้บริการของ นิมโรด อันทาล เหตุเพราะว่า โรเบิร์ต ชอบผลงานการกำกับของ นิมโรด อันทาล ที่เคยกำกับมาอย่าง เรื่อง Vacancy (ห้องว่างให้เชือด) หนังแนว Horror - Thriller นั่นเอง มหากาฬพรีเดเตอร์ เป็นเรื่องราวของ ทหารรับจ้าง รอยซ์ ( เอเดรียน บรอดี้ /Adrien Brody) ที่อยู่ๆเขาก็ตกมาจากฟากฟ้าลงมายังดาวดวงหนึ่ง ซึ่งไม่ใช่โลกมนุษย์เรา และต้องรับหน้าที่เป็นหัวหน้ากลุ่มของเหล่านักสู้ฝีมือดี ที่ถูกพามารวมกัน ณ ดาวแห่งนี้ พวกเขาถูกพามาในฐานะ "เหยื่อ" และถ้าเราไม่นับรวมแพทย์ที่ไร้จรรยาบรรณด้วยแล้ว ทุกคนล้วนแล้วแต่เป็นนักสู้โดยแท้ มีทั้งทหารรับจ้าง, ยากูซ่า, นักโทษ, และหน่วยล่าค่าหัวจับตายสถานเดียว ซึ่งครั้งหนึ่งทุกคนเคยเป็น นักล่า แต่ตอนนี้กลับกำลังตกที่นั่งลำบากกลายเป็น "ผู้ถูกล่า" โดยสิ่งมีชีวิตต่างดาวเหล่าสายพันธุ์ใหม่ ที่ดุร้ายที่สุด พรีเดเตอร์ โดยรวมๆแล้ว งานชิ้นนี้ เหมือนงานขั้นเวลามากกว่า เพราะจากเรื่องของทุนการสร้าง ระยะเวลาในการถ่ายทำ บวกกับเนื้อเรื่องแล้ว แถบไม่มีอะไรที่โดดเด่นเลย เรื่องของทุนสร้าง ก็ถือว่าน้อยมากสำหรับงานระดับนี้ ระยะเวลาในการถ่ายทำก็น้อยมาก เพียง 53 วันเท่านั้น เรียกว่า เป็นรุ่นพี่ "บ้านผีปอบ" ของไทยเลย (บ้านผีปอบบางภาคใช้เวลาในการถ่ายทำเพียง 7 วันเท่านั้น) หรือแม้แต่เนื้อเรื่อง ก็คือไม่มีเนื้อเรื่องนั่นเอง เป็นการไล่ล่า ของสิ่งมีชีวิต 2 อย่าง คือ มนุษย์กับสัตว์ต่างดาว เนื้อเรื่องหลักๆ แทบไม่มีเลย หรือจะอธิบายง่ายๆก็คือ พระเอกและพรรคพวก รวมถึงตัวพรีเดเตอร์ด้วยต่างก็ถูกใครสักคนหรือสักตัว(ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเป็นใคร) จับตัวมายังดาวดวงหนึ่ง เพื่อเล่นเกม เพราะอยากรู้ว่า ระหว่างนักล่าอย่าง พรีเดเตอร์ กับมนุษย์ ที่เคยเป็นนักล่าเหมือนกัน ใครจะเก่งกว่ากัน การดำเนินเรื่องเป็นไปอย่างช้าๆ น่าเบื่อบ้างไม่น่าเบื่อบ้างแต่ก็ละสายตาไม่ได้ เพราะว่ามีฉากแอ็คชั่นสลับกับฉากตื่นเต้นตลอดเวลา ในขณะที่เป็นฉากดราม่า ดูแล้วน่าเบื่อเล็กน้อย แต่ก็เป็นการเก็บข้อมูลที่น่าจะมีให้ได้ ถึงแม้ว่าจะเป็นภาพยนตร์ที่ต้องดูตลอดเวลาอย่างนี้ แต่ก็ไร้ซึ่งฉากที่จะเป็นจุดที่น่าจดจำ หรือฉากที่ประทับใจแต่อย่างไร เรียกว่าดูสนุกเอามันส์ ไม่ต้องคิดมากล่ะก็โอเคเลย มีอยู่ฉากหนึ่งเหมือนสถานที่ท่องเที่ยวในไทยมาก ที่เรียกว่า "สามพันโบก" หรือ "แกรนด์แคนยอนเมืองไทย" ที่พื้นมีแต่หินเป็นหลุมเป็นบ่อนั่นแหละครับแต่ผมไม่ฟันธงนะครับว่าใช่เหรอเปล่า แต่เหมือนมาก การถ่ายภาพ ภาพสวยๆ ภาพประทับใจไม่ค่อยมี เพราะภาพยนตร์เรื่องนี้ จะอยู่ในโซนมืดตลอดเวลา แม้แต่ฉากที่พวกพระเอกมายืนเรียงกันอย่างเท่มองดูเห็นดาวต่างๆ ผมนึกว่า พวกเขายืนมองดูวอร์เปเปอร์อยู่นะครับ แข็งถื่ออย่างกับหินดูแล้วไร้ซื้ออารมร์ค้อยตาม ตัวพรีเดเตอร์ ทั้งเก่ง ทั้งไว แถมยังหายตัวได้อีกต่างหาก เวลาเตะคนทีกระเด่นไปไกล และยังสามารถเอามือเจาะดึงกระดูกของคนออกมาได้ แต่ไหงถึงต้องออกมาสู้กับยากูซ่าตัวๆ ช่างเป็นสุภาพบุรุษเสียจริงยากูซ่าเล่นดาบเพียวๆ แต่พรีเดเตอร์ มีปีนเลเซอร์เป็นอาวุธ แต่ไม่ใช้ ใช้ดาบปลายมือแทน ฟันกันโช้งเช้งสองสามทีพรีเดเตอร์หงาท้องตายเสียแล้ว ไม่เข้าท่าเลย ถ้าเล่นแบบนี้ น่าจะให้พรีเดเตอร์เป็นฝ่ายชนะ แล้วไปเจอด่านต่อไป อาจจะเป็นมวยสากลกับพระเอกก็ได้ให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเลย ในด้านนักแสดงหนุ่มอย่าง เอเดรียน บรอดี้ (Adrien Brody จาก The Pianist) นักแสดงหนุ่มเจ้าของรางวัลออสการ์ รับบท รอยซ์ (Royce) ทหารรับจ้างที่ต้องทำหน้าที่หัวหน้า แสดงได้ดีมาก สมแล้วการถูกเรียกตัวมาให้รับบทนี้ เพราะว่าถ้าเป็นคนตัวใหญ่ๆจะดูข่มพรีเดเตอร์ไปซะหมด และจะดูเป็นแบบซ้ำๆอีกด้วย อีกคนที่น่ายกยกในเรื่องของการแสดงก็คือ อลิซี่ บราก้า (Alice Braga) เธอดูมีความเป็นนักสู้อยู่ในตัว ห้าวหาว เด็ดเดียวดี แต่ก็คือผู้หญิงที่ไว้ใจคนง่ายไปหน่อย ดูหนังจบแล้วแต่ยังไม่มีอะไรที่น่าจดจำ ถึงแม้ว่าตัวภาพยนตร์เรื่องนี้จะจบ แต่ก็เหมือนหนังทั่วๆไป คือทิ้งเชื้อเอาไว้นิดหน่อย หวังเพียงว่า ถ้าหนังทำเงิน ก็มีภาคต่อได้ทันที แต่ถ้าไม่ทำเงินก็ขอจบเพียงเท่านี้ แต่ถึงแม้จะบอกว่าไม่มีอะไรๆ เลย ก็ใช่ที่ เพราะว่าเรื่องนี้ถ้าดูลึกๆแล้วยังมีแฝงคำสอนให้ข้อหนึ่งว่า อย่าดูคนที่ภายนอก บางครั้งภายนอกนั้นดูดี แต่ข้างในเป็นสิ่งที่เลวร้ายมาก เพราะฉะนั้นอย่าเชื่อในสิ่งที่ตาเห็นครั้งแรกควรพิจารณาและศึกษาดูให้ดีก่อน ก่อนจะฟันธงว่า สิ่งที่เราเห็นเป็นสิ่งที่ดีที่ถูกต้องจริงๆ แล้วคอยเชื่อใจกัน สรุปว่าหนังเรื่องนี้ดูเพลินๆ ครับ อย่าหวังมาก ไม่เสียดายเงินที่เสียไป ถ้าให้คะแนน ผมให้7.5 เต็ม 10 ครับ

TCK E-Mail : tck05@sanook.com