วิจารณ์หนังเรื่อง 3 ย่าน

วิจารณ์หนังเรื่อง 3 ย่าน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
น่าสงสารผู้สร้างหนังและผู้กำกับหนังชาวไทยเป็นอย่างมาก ยิ่งในช่วงนี้ที่บ้านเมืองยังไม่สงบเรียบร้อยเหมือนเมื่อก่อนด้วยแล้ว การที่จะนำภาพยนตร์ที่ผลิตหรือที่สร้างไว้ออกฉายยิ่งเพิ่มความเสี่ยงเข้าไปอีกเท่า ถ้าภาพยนตร์เรื่องนั้นเป็นภาพยนตร์ในกระแสก็คงไม่กระทบมากสักเท่าไหร่ แต่ถ้าเป็นภาพยนตร์นอกกระแสด้วยแล้ว โอกาสเจ็บตัวมีสูงมากเลยทีเดียว ในบางครั้งที่มีเหตุการณ์ภาพยนตร์เข้าชนกันหลายเรื่อง ในฐานะที่เป็นคนไทยก็อยากจะอุดหนุนหนังไทย แต่คุณภาพหนังไทยบางเรื่องก็ยากที่จะทำใจอุดหนุนได้ จะว่าผู้กำกับไม่ตั้งใจกำกับก็คงจะไม่ใช่ เพราะผมคิดว่า บุคคลที่อยู่ในฐานะผู้กำกับทุกคนตั้งใจกับงานที่ตัวเองรับผิดชอบอยู่มาก เพียงแต่ว่างานที่ออกมานั้นมัน โดน ใจคนดูหรือเปล่า!? FILM R US ถือว่าเป็นบริษัทผลิตภาพยนตร์น้องใหม่ก็ว่าได้ แต่จริงๆ แล้ว FILM R US ก็คือค่ายเก่าของ RS FILM นั่นเอง อย่างที่รู้ๆกันอยู่ว่าระยะหลังๆ ภาพยนตร์ที่มาจากค่าย RS FILM ไม่ค่อยประสบผลสำเร็จทางด้านรายได้สักเท่าไหร่นัก ผู้กำกับบางคนที่เคยอยู่ในค่ายนี้ก็กระจัดกระจายไปอยู่ที่ค่ายอื่นกันเกือบหมด บางคนก็ไปเปิดบริษัทผลิตหนังขึ้นมา และจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม ทาง RS FILM จึงปรับปรุงค่ายขนานใหญ่ ทั้งอุปกรณ์ และบุคลากร และเปิดบริษัทใหม่ขึ้นมาแทนก็คือ FILM R US นั่นเอง และผลงานเรื่องแรกของค่ายนี้กื็คือภาพยนตร์เรื่อง 3 ย่าน 3 ย่าน คือภาพยนตร์เรื่องแรกของค่าย FILM R US ที่ได้ 3 ผู้กำกับมากำกับให้ เป็นเหมือนเรื่องสั้น 3 เรื่องที่รวมกันเป็นเรื่องเดียว ผู้กำกับทั้งสามคนที่มากำกับเรื่องนี้ก็คือ คุณพิง ลำพระเพลิง, คุณต้อม ยุทธเลิศ และ โก๊ะตี๋ อารามบอย ถ้าจะพูดถึงผู้กำกับทั้งสามคนอย่าง คุณต้อม​(ยุทธเลิศ สิปปภาค) ซึ่งมีผลงานเรื่องล่าสุดอย่าง บุปผาราตรี 3.2 ซึ่งก็แป้กสนิท ทั้งรายได้และคำวิจารณ์ มาดูคนที่สองอย่าง โก๊ะตี๋ อารามบอย (เจริญพร อ่อนละม้าย) ผู้กำกับคนนี้ถือว่าเป็นตลกอันดับต้นๆ ของเมืองไทยอีกคนหนึ่งที่หันมาลองจับงานกำกับการแสดงดูบ้าง เรื่องการแสดงถือว่าสอบผ่านไปแล้ว แต่เรื่องการเป็นผู้กำกับการแสดงอย่างเรื่องแรก หัวหลุด แฟมิลี่ ก็แป้กสนิทเช่นกัน ถึงแม้จะเป็นหนังตลกแต่ก็ไม่โดนใจคนดูสักเท่าไหร่นัก จะดีหน่อยก็ผู้กำกับคนสุดท้ายอย่าง คุณพิง ลำพระเพลิง (ภูพิงค์ พังสะอาด) ที่มีผลงานเรื่องล่าสุดอย่าง ฝันโคตรโคตร เรื่องนี้ถือว่าได้รับทั้งคำติและคำชม แม้รายได้หนังเรื่องนี้จะไม่ค่อยสู้าหนัง 2 เรื่องที่กล่าวมาข้างต้น สรุปแล้ว 3 ย่าน จึงเป็นแหล่งรวมของ 3 ผู้กำกับมุขแป้กนั่นเอง แล้วก็คงไม่ต้องสงสัยนะครับว่าภาพยนตร์เรื่องแรกของค่าย FILM R US จะประสบผลสำเร็จหรือไม่ โดยรวมๆ ของเรื่องแล้ว ผมชอบนะครับ ที่ดูแล้วเหมือนว่าหนังเรื่องนี้ไม่มีจุดเริ่มต้นและไม่มีจุดลงท้าย ผมว่าเป็นความสามารถอย่างหนึ่งของคนเขียนบท (คุณพิงเป็นคนเขียนบทเรื่องนี้) ผมคิดว่าตอนที่ยังเป็นบทอยู่ก็คงดูดี แต่ไหงพอทำเป็นภาพยนตร์แล้วกลับแป้กเอามากๆ ไม่ค่อยขำเลย ตัวอย่างที่ตัดออกมาให้ดูก่อนก็เห็นแล้วว่า มุขไม่ขำแต่ก็ทำใจคิดว่า ในเรื่องจริงๆ น่าจะมีมุขซ่อนอยู่อีกเยอะก็เลยตัดสินใจไปดู แต่เมื่อดูจบแล้วน้ำตาแทบไหล ไม่ได้ซึ้งหรืออินกับภาพยนตร์หรอกนะครับ ในเรื่องแรกที่เป็น ผีรถทัวร์ นั้น ผีก็ไม่น่ากลัว มุขแต่ละมุขก็ไม่ขำ นักแสดงหลักๆ ในเรื่องนี้มีอยู่ประมาณ 4-5 คน อย่างคุณค่อม ชวนชื่น (อาคม ปรีดากุล) มุขที่แกเล่นแบบกลัวผีมีเกือบทุกเรื่องที่แกเล่นแล้ว เห็นจนเบื่อ ถ้าถามว่าคุณค่อมเล่นดีไหม เล่นดีครับ แต่เล่นมุขนี้บ่อยๆ ก็เบื่อเหมือนกัน อย่างคุณอังเคิล (ดิเรก วัฏลีลา) ปกติเวลาคุณอังเคิลโผล่หน้ามาก็ได้เสียงฮาแล้ว แต่กับเรื่องนี้ก็นิ่งสนิท หรืออาจจะเป็นเพราะแกขาดคู่หูไป เพราะปกติแล้วแกจะต้องออกมา 2 คนกับคู่หูด้วย แต่ภาพยนตร์เรื่องนี้แกออกมาคนเดียวแล้วก็เป็นบทอะไรที่ซ้ำๆ กับเรื่องอื่นๆ เหมือนเคย คือบท ตำรวจเจอผี เฮ้อ...ส่วนเจ๊ โซเพีย ลา แกก็คุยไม่ค่อยรู้เรื่องอยู่แล้ว นี่ถ้าให้แกมาคุยกับ แอนนา ชวนชื่น คงจะมีมุขขำมากกว่านี้ ส่วนคนที่เล่นเป็นผีเป้ย (ปิยา พงศ์กุลภา (กิ๊ฟซ่า) แห่งวง GIRLY BERRY) เธอเล่นได้ดีแล้วครับ และ คุณปานวาด เหมมณี ที่รับบทเป็นบัสโฮสเตสคู่กับคุณค่อม ก็เข้าขากันได้เป็นอย่างดีครับ ในเรื่องที่สอง ที่เป็นมือปืน 006 พยัคฆ์ร้ายตั้งใจทำ ดูเหมือนจะขำ แต่ก็นั่งนิ่งสนิท คนที่เล่นเป็นบิ๊ก (ทองภูมิ สิริพิพัฒน์) เล่นได้แข็งมากๆ เป็นนักแสดงน้องใหม่ เพิ่งเคยผ่านงานแสดงมาแค่เรื่องเดียวคือเรื่อง อยากได้ยินว่ารักกัน และเรื่อง สามย่าน นี้เป็นเรื่องที่สอง ก็อยากจะบอกน้องเขาให้ฝึกการแสดงให้มากกว่านี้อีกหน่อย เวลาเล่นจะได้เป็นธรรมชาติมากกว่านี้ จากเรื่องแรกมาเข้าเรื่องนี้ อารมณ์ตัดกันอย่างเห็นๆ ซึ่งดูๆ แล้วก็เป็นหนังคนละแนวกันอย่างสิ้นเชิง แต่ผู้สร้างพยายามให้มันเกี่ยวเนื่องกัน ก็แค่บัสโฮสเตสสาวจากตอนที่แล้วมานั่งรอหมอเรียกตัวในโรงพยาบาลที่เดกับพระเอกของตอนที่สอง ที่มาผ่าตัดขนาดของน้องชายให้ได้ 10 นิ้ว จริงๆ แล้วคนดูรู้ว่าก่อนหน้าที่บิ๊กจะมีหน้าตาดีอย่างที่เห็น หน้าเยินมาก่อน ดูอย่างแฟนที่เป็นน้องแพนเค้กก็คงเข้าใจ แต่ไม่มีรูปก่อนผ่าตัดให้ดูเลยสักนิด ถ้ามีน่าจะเป็นมุขฮาอีกมุข อย่างน้อยๆ ก็เรียกยิ้มเล็กๆ จากคนดูได้บ้าง แต่นี่ไม่มี และมาดอย่างแพนเค้กและบิ๊กไม่สมกับเป็นมือปืนแม้จะเป็นหนังตลกก็ตาม แต่ชอบคำพูดสุดท้ายของเรื่องนี้นะ สามนิ้วครึ่งยังดีกว่าครึ่งนิ้ว ในเรื่องที่สาม กองถ่ายหนัง เรื่องนี้จะแมทช์กับตอนแรกมากอย่างที่บอก หนังเรื่อง 3 ย่าน ไม่มีตอนที่สองก็ไม่แปลก น่าจะเอาตอนที่ 3 กับตอนที่ 1 มาพัฒนาบทให้มันดีกว่านี้ ก็น่าจะเป็นหนังตลกจริงๆ ได้ สำหรับในตอนที่ 3 นี้ ผมว่าน่าจะเป็นหนังดราม่ามากกว่า ถึงแม้จะมีตัวชูโรงอย่าง อี๊ด วงโปงลางสะออน (สมพงษ์ คุนาประถม) ลาล่า (ขวัญนภา เรื่องศรี) และ ลูลู่ (ดวงฤดี บุญบำรุง) ก็ตาม แต่ก็ไม่ได้เรียกเสียงฮาเลย ยิ่งลาล่า กับ ลูลู่แล้ว ตัวประกอบดีๆ นี่เอง ดูในตอนนี้แล้วเหมือนเราไปเยี่ยมกองถ่ายหนังเรื่องหนึ่ง ซึ่งก็ไม่มีอะไรเป็นพิเศษ นอกจากดูการทำงานของทีมงานถ่ายหนังเท่านั้น อีกคนไม่รู้เอามาทำไม ป๋าต๊อบ ด้วยมาดและท่าทางของป๋าต๊อบแล้วไม่เหมาะกับหนังตลกอย่างมากเรียกว่าเอามาเล่นก็ไม่ได้เพิ่มสีสัน อ๋อ...ลืมไปเรื่องนี้มันเป็นหนังดราม่าไม่ใช่หนังตลก สรุปแล้ว ภาพยนตร์เรื่อง 3 ย่าน ถ้าใครไม่ใช่พวกเส้นตื้นจริงๆ คงนั่งดูนิ่งๆ หรือว่าใครที่ไม่มีอะไรทำ ถ้าอยากดูหนังตลกแปลกใหม่ (หนังตลกที่ไม่ตลก) ก็ไม่ว่าอะไรครับ ช่วยกันอุดหนุนหนังไทยหน่อย ถึงแม้ผมติมาขนาดนี้แล้ว ผมยังยอมเสียเงินเข้าไปอุดหนุนหนังเรื่องนี้มาแล้วรอบหนึ่งเลยครับ แต่รับรองไม่มีรอบสองแน่

บทวิจารณ์โดย : TCK E-mail :TCK05@sanook.com

อัลบั้มภาพ 4 ภาพ

อัลบั้มภาพ 4 ภาพ ของ วิจารณ์หนังเรื่อง 3 ย่าน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook