วิจารณ์หนัง เขี้ยวอาฆาต
ช่วงนี้บรรยากาศบ้านเมืองยังอึมครึม ตึงเครียดหนัก พระเอกขี่ม้าขาวอย่างผมจึงต้องออกโรงช่วยชาติ ไม่ใช่สิ ต้องบอกว่าเข้าโรงช่วยชาติ ด้วยการไปดูหนัง อิอิ ก็จะให้ไปอาสารับหน้าที่สมานฉันท์เหตุการณ์ตอนนี้ก็คงไม่ไหว จึงต้องพักไว้ก่อน แล้วไปเติมอารมณ์สนุก ด้วยการตระเวนหาหนังตื่นเต้น หนุกๆ ดูสักเรื่อง เพื่อหลุดจากโลกความเป็นจริงหน่อย และที่สำคัญต้องหนังไทยด้วยนะ สถานการณ์นี้ขออุดหนุนหนังไทยช่วยชาติแทนแล้วกัน หลังจากโรงภาพยนตร์ย่านสยามปิดกันตรึม หนังไทยขาดรายได้ไปเยอะอยู่
เคยดูหนังงูมาเหมือนกัน ทำเป็นกระเป๋า สวยดี เฮ้ย !ไม่ใช่ นอกเรื่องตลอด เคยชมหนังงูสมัยยังละอ่อนชอบจริงๆคงยกให้เรื่อง อนาคอนดอม เย้ย อนาคอนด้า หนังเมื่อปีสิบกว่าปีก่อน หากเป็นทางฝั่งหนังไทยที่ข้องแวะกับงูก็มีเรื่อง แม่เบี้ย เท่าที่เคยเห็นผ่านตามา และปีนี้ เขี้ยวอาฆาต เป็นเรื่องล่าสุดที่หยิบยกความเชื่อเกี่ยวกับอาถรรพ์ความแค้นของงูที่จ้องจองเวรผู้ที่ล่วงเกินมันมาเล่าสู่กันฟังในรูปแบบภาพยนตร์
เรื่องราวการหนีตามกาลิเลโอ น่าน เอาอีกแล้ว หนีตายจากฝูงงูของบรรดาผู้เช่าภายในอพาร์เม้นท์เก่าๆ ที่ประกอบไปด้วยกลุ่มวัยรุ่น กลุ่มนักดนตรี นักข่าวฝึกงาน แอร์โฮสเตสสาว ครอบครัวที่กำลังแตกร้าว เจ้าของอพาร์ทเม้นท์กับป้าสติไม่ดี และ security guard มีคนนอกคือหมอหนุ่มไฟแรงและผู้ช่วยของเขา พูดได้ว่าไล่เฉดสีตั้งแต่หัวดำวัยละอ่อน ยันหัวงอกขาววัยไม้ใกล้ฝั่งกันเลย แม้ต่างวัยต่างชีวิต แต่ทั้งหมดต้องเผชิญชะตากรรมหนีอสรพิษลิ้นสองแฉกร่วมกัน เวลาเดียวกันปริศนาความอาฆาตแค้นของตัวร้ายเลื้อยคลานก็ค่อยๆเฉลยเผยไต๋ออกมา
ด้านงานแสดงไม่ต้องพูดถึงเลยครับ ข้ามไปเลยแล้วกัน อิอิ ล้อเล่น การสวมบทบาทของแต่ละคน แปรผันตรงตามอายุเลยครับ คือว่า สูงวัยก็เข้าถึงบทบาทได้มาก เด็กหน่อยก็ยังดูขัดๆเขินๆไม่สมจริง ขาดความน่าเชื่อถือ ตามประสบการณ์และความสามารถ คนที่หนักสุดเห็นทีจะเป็นนางเอกหน้าใหม่ของเราอย่าง นิน (รับบทโดย แพง-ขวัญข้าว เศวตวิมล) เจ้าของอพาร์ทเม้นท์แสนงอน รอหมอหนุ่มอย่าง สดายุ (สวมบทบาทโดย กอฟ-อัครา อมาตยกุล) มาง้อ การแสดงออกทางสีหน้า แววตา กิริยาอาการของเธอ ดูยังไง๊ ยังไงก็คือการแสดงตัว มากกว่าเป็นตัวแสดง ยังห่างชั้นราวฟ้ากับเหว หากเทียบกับฝีมือชั้นโปร ระดับเทพของผ้อาวุโสสุดในหนังอย่าง ป้าแดง-วาสนา ชลากร ที่รับบทเป็น ป้าไพร หญิงสติไม่ดี ที่กุมความลับบางอย่างเอาไว้ แต่การแสดงดี ใช่ว่าจะทำให้ดูหนังสนุก ตรงข้ามตัวละครป้าไพรในเรื่องเนี่ย บุคลิกสุดจะมโหฬาร อลังการ ล้านแปด เจ้าแห่งความน่ารำคาญซะจริงๆ ทุกครั้งที่ป้าไพรโผล่มาจะไม่เพียงแค่ขโมยซีนเท่านั้น แกยังเล่นขโมยอารมณ์ดีๆของผู้ชมไปหมด(แอบได้ยินเสียงถอนหายใจเฮือกใหญ่ในโรงด้วย) เจอแกทีไร อึดอัดมาก ไมเกรนแทบพุ่ง ความรู้สึกเช่นนี้เกิดจากความไม่สมเหตุสมผลของตัวบทด้วย หนังแทบยกตัวละคร ป้าชุบ(ที่แสดงโดย ป้าแดง เจ้าเก่า) จากเรื่อง แปดวันแปลกคน มาปล่อยลงในเรื่องนี้ ถอดแบบกันออกมาเลยทีเดียว ส่วนนักแสดงคนอื่นๆก็แสดงได้ดีตามระดับอายุและประสบการณ์ ไม่ดีเด่น แต่ก็ไม่ได้เสียหายย่อยยับอะไร
ตลอดเวลาเกือบ 2 ชั่วโมง เขี้ยวอาฆาต ยัดเยียดฉากเครียดๆมาแบบ non-stop ต่อเนื่องอย่างไม่หยุดยั้ง หาช่วงผ่อนคลายไม่พักหายใจหายคอแทบไม่เจอ ถ้าจะพบ ก็คงจากมุขตลกไม่ได้ตั้งใจของเรื่อง ด้วยความอ่อนของบทภาพยนตร์ที่ขาดเหตุผลรองรับนั่นแหละ มีให้เห็นฉากฮาได้เรื่อยๆไม่ขาดระยะ อาทิเช่น ฉากลูกสาวที่ช่างดูเป็นเด็กร่าเริงมาตั้งแต่ต้นเรื่อง ของเฮียกิจ(เต้-ศุกล พงษ์ทัต) และ มล(สโรชา วาทิตตพันธ์) พอน้องเขามีอาการเซื่องซึมจากพิษงูอยู่นานสองนาน ก็ไม่เห็นมีใครสังเกต กลับเพิ่งมารู้เมื่อตอนที่แม่ของเด็ก ร้องตกใจ ช้าไปมั้ยครับคุณ โดยเฉพาะอีตัวแม่เนี่ย กอดลูกตลอด นึกว่าลูกหลับหรือแกล้งตายหลอกงูหรือไงจ๊ะ ทั้งๆที่งูไล่ฉก วิ่งหนีกันตาลีตาเหลือกจนผมเสียทรงทุกคนเนี่ยนะ!?! ส่วนนักศึกษาฝึกงานสายข่าว ปาย (สายป่าน-อภิญญา สกุลเจริญสุข) นี่ก็อีกคน เลือดนักข่าวแรงฤทธิ์ติดเทอร์โบมาก กลัวไม่ผ่านฝึกงานมากกว่ากลัวตายเสียอีก ยอมเธอจริงๆคนนี้ สามารถส่งคลิปวีดีโอเหตุการณ์ทางมือถือให้สำนักข่าวได้(น่าจะเป็นคนเดียวที่โทรศัพท์มือถือมีสัญญาณ สงสัยจริงๆว่าน้องสายป่านใช้เครือข่ายอะไร) แต่กลับไม่โทรแจ้งตำรวจหรือขอความช่วยเหลือใดๆทั้งสิ้น หากมองว่าเจ้าตัวกำลังช็อค ตกใจทำอะไรไม่ถูกสักแค่ไหน ก็คงต้องโทรบอกบ้างแหละสักครั้ง ขาดความสมจริง สมเหตุ สมผล ดูแล้วสมน้ำหน้าที่เธอต้องตกในชะตากรรมนั้นจริงๆ เห็นแล้วเกิดอาการหงุดหงิด อึดอัด ระสำระส่าย คล้ายจะเป็นลมยังไงชอบกล
ผมเชื่อว่าหลายคนถ้าไม่สยองในรูปลักษณ์อันน่าเกลียดน่ากลัวของงองูใจกล้า ก็ต้องกลัวงูกัดบ้างแหละนะ อย่างแรกน่ะผมธรรมดาเฉยๆ แต่อย่างหลังเนี่ยกลัวมากมาย ก็ใครจะพกเซรุ่มติดตัวตลอดเวลาอย่างพระเอกของเรื่องนี่หน่า! หากพูดถึงความน่ากลัวของภาพยนตร์เรื่อง เขี้ยวอาฆาต แล้ว ไม่ทำให้ผมรู้สึกกลัวหรือสนุกตามได้เลย ไม่ใช่เพราะนิสัยส่วนตัวที่ไม่กลัวงูหรอกนะ อย่างที่กล่าวมาข้างต้น เป็นเพราะการแสดงที่ขาดพลัง ขาดความน่าเชื่อถือของตัวละคร บทหนังที่ไร้ตรรกะในหลายๆจุด รวมถึงซีจีภาพที่ดูไม่เนียนตาเท่าไหร่ เผลอนึกไปว่าในหนังมีงูจริงบ้างหรือเปล่า เห็นแต่งูซีจีตลอดทุกฉากทุกตอน หากจะจูงใจโน้มน้าวสร้างอารมณ์ร่วมได้สำเร็จก็คงไม่พ้นเหล่าสาวกหัวงู เอ๊ย กลัวงู ที่ขยาดเข้าเส้นชนิดอินจัด ชัดจริงไปกับตัวหนัง
ดีที่หนังยังมีส่วนที่น่ายกย่องหลงเหลืออยู่บ้าง โดยสองผู้กำกับอย่าง เจมส์ - ธนดล นวลสุทธิ์ และ ปิง ธรรมนูญ สกุลบุญถนอม ได้แอบสอดแทรกเรื่องบาปบุญคุณโทษ การทำความดีย่อมได้ดี ทำชั่วก็ต้องรับผลกรรมที่ก่อ เอาไว้ในเนื้อหา ทั้งสองผู้กำกับยังทำหน้าที่ได้ดีในการถ่ายทอดความเห็นแก่ตัวของมนุษย์ได้ถึงแก่น อาทิ ฉากที่ลิฟท์ ไม่สามารถปิดประตูได้ เพราะมีคนเข้าเยอะเกินไป สื่อออกมาถึงความรู้สึกได้โดนใจไปเต็มๆเอาไปเลย 5 กะโหลกครับ หรือฉากตัวละครแย่งเซรุ่มที่มีจำนวนจำกัด ก็ทำได้ดีไม่แพ้กัน ดูไปดูมาทำไม๊ ทำไม คล้ายกับดูหนังแนวทางเดียวกันอย่างภาพยนตร์ฮอลลีวูดเรื่อง THE MIST จังเลย เพียงแต่ของเรายังเป็นรองเขาอยู่ไกลโขเท่านั้นเอง หลังจากชม เขี้ยวอาฆาต จบลง ความเครียดก็ทวีคูณขึ้นอีก สงสัยไปผ่อนคลายผิดเรื่อง คนดูงู เครียดเพราะงูจริงๆ ให้เกรด C- ครับสำหรับเรื่องนี้
บทวิจารณ์โดย ทรงนักเรียน