วิจารณ์หนัง บังเอิญ...รักไม่สิ้นสุด
หลังจากที่หายหน้าหายตาไปนานถึง 4 ปี อุดม อุดมโรจน์ ก็เข็นผลงานภาพยนตร์อันดับต่อไปของเขาออกมาให้แฟนๆหนังได้ชมกันอีกเรื่องแล้ว นั่นคือ "บังเอิญ...รักไม่สิ้นสุด" (As It Happers) หลังจากเมื่อปี 06 คุณอุดมมีผลงานเรื่อง "มากับพระ" (The Golden Riders) ภาพยนตร์แนว Comedy (สังกัดค่าย พระนครฟิลม์) ซึ่งไม่ประสบผลสำเร็จสักเท่าไหร่ แม้ว่าได้นางเอกแม่เหล็กอย่างคุณปู (ไปรยา สวนดอกไม้ ลุนด์เบิร์ก) และพระเอกอย่าง อ่ำ (อัมรินทร์ นิติพน) และ โน้ต (วัชรบูล ลี้สุวรรณ์) มาแสดงนำก็ตาม
ซึ่งก่อนหน้าเรื่อง มากับพระ นั้น คุณอุดมก็เคยลองทำหนัง Action มาแล้วอย่างเรื่อง "คนป่วนสายฟ้า" (Destiny Upside Done) หนังเรื่องนี้ทำให้ค่าย Five Stars และได้พระเอกนางเอกดังแห่งยุค อย่างคุณติ๊ก เจษฏาภรณ์ ผลดี, คุณชาคริต แย้มนาม, คุณบิลลี่ โอแกน และคุณซอนย่า คูลลิ่ง แต่ก็ยังไม่เป็นที่ชื่นชอบของคนดูเท่าไหร่นัก มีหลายคนบอกว่า หนังที่คุณอุดม อุดมโรจน์ ทำได้ดี จะต้องเป็นหนังโรแมนติกเท่านั้น ดูอย่างเรื่อง "คู่แท้สองโลก" "บุญตั้งไข่" หรือ "ปุกปุย" ก็เป็นหนังรักโรแมนติกที่ได้รับความนิยมพอสมควร ก็เรียกได้ว่า คุณอุดม อุดมโรจน์ ลองทำหนังมาเกือบทุกแนวแล้ว แต่ที่ถนัดน่าจะเป็นภาพยนตร์รักโรแมนติกเสียมากกว่า ว่าแล้วภาพยนตร์เรื่อง บังเอิญ..รักไม่สิ้นสุด ก็ได้คุณอุดม อุดมโรจน์ ลงมาทำให้กับค่ายใหม่ กลองชัยภาพยนตร์ นั่นเอง
บังเอิญ...รักไม่สิ้นสุด จึงเป็นหนังรักโรแมนติกเรื่องล่าสุดของคุณอุดม อุดมโรจน์ หนังแนวถนัดของผู้กำกับคนนี้ จะว่าไปแล้วหนังแนวโรแมนติกบ้านเราตอนนี้ก็ออกมาเยอะมาก ผมว่าหลังจากเรื่อง "รถไฟฟ้ามาหานะเธอ" ที่ทางค่าย GTH ทำเอาไว้ รายได้ถล่มทลายไปแล้วนั้น ทำให้ผู้กำกับคนอื่นๆ ค่ายอื่นๆ หรือแม้แต่ ค่ายGTH เอง ที่ต้องทำหนังรักต่อๆมา ถือว่าต้องทำการบ้านอย่างหนัก เพราะว่ามุมมองในเรื่องของความรักนั้น แม้จะมีมากมายแต่ก็ถูกหยิบยกมาสร้างเป็นภาพยนตร์เสียเกือบจะหมดแล้ว เพราะฉะนั้นผู้กำกับคนอื่นๆ ที่ต้องการทำหนังรัก จึงต้องหามุมมองในเรื่องของความรักอื่นๆ มาเสนอและให้ถูกใจคนดูให้ได้
เรื่อง บังเอิญ...รักไม่สิ้นสุด กล่าวถึงความรักของคนสองคนที่บังเอิญมาพบกันและเกิดรักกันขึ้นมา คนหนึ่งคือ ปิ๊ก สาวใสเปิ่นๆ โก๊ะๆ นำแสดงโดย จ๋า (ณัฐฐาวีรนุช ทองมี) และหนุ่มนักเดินทาง ขจร นำแสดงโดย ต้า (นาวิน เยาวพลกุล) ซึ่งเหมือนว่าทั้งเรื่องจะบังเอิญสมชื่อเรื่องจริงๆ บังเอิญแทบทุกอย่างจนไม่น่าเชื่อว่า จะมีเหตุการณ์อย่างนี้จริงๆ ในโลก คุณอุดม อุดมโรจน์ ลงทุนเขียนบทเรื่องนี้เองเลย เพราะอยากให้เป็นหนังรักที่ไม่ซ้ำแนวหนังเรื่องอื่นๆ ที่จะมีแต่อกหักบ้าง ไม่สมหวังบ้าง ประเภทมีตัวเผื่อเลือกประมาณ เราสามคน อย่างนั้นก็ไม่เอา
หนังเรื่องนี้มันเป็นเรื่องบังเอิญ เพราะฉะนั้นถ้าจะมาอยู่ในที่แคบๆ แค่ประเทศไทยก็จะดูไม่บังเอิญเท่าไหร่นัก ก็เลยยกกองถ่ายไปถ่ายต่างประเทศซะเลย (บูดาเปสต์-อังการี, โซล-เกาหลี และ เวียนนา-ออสเตรีย ถ้ารวมประเทศไทยด้วยที่ภูชี้ฟ้า-เชียงใหม่ ก็จะเป็นหนังรัก 4 ประเทศพอดี) เพื่อให้เชื่อว่า มันบังเอิญจริงๆ แต่เท่าที่ดูผมว่าหนังเรื่องนี้อยู่ในโซนเดียวกันกับเรื่อง "ตามหากาลิเลโอ" ของค่าย GTH นะ อารมณ์ของหนังจะคล้ายกันมาก นางเอกไปเมืองนอก ต้องการไปเรียน ไปหางานทำเพื่อหาเงินมาเรียนแล้ว บังเอิญ ไปเจอพระเอกอยู่เมืองนอก อะไรประมาณนั้น หนังแบบนี้ถ้ามีภาพเมืองนอกมากไปก็ดูเหมือนคลายสารคดีท่องเที่ยว
ภาพรวมๆ แล้วก็สวยดี ฉากสวย อาจจะเป็นเพราะว่าเป็นฉากต่างประเทศที่เราไม่เคยเห็นในหนังไทยมาก่อน ส่วนภูชี้ฟ้า ของไทยเราก็ใช่ย่อย ใครที่เคยไปมาแล้วจะเห็นทะเลหมอกเหมือนในหนังเลย เป็นภาพที่สวยงามมากไม่แพ้ต่างประเทศ เพลงประกอบก็เพราะดีครับ โดยเฉพาะเพลง บังเอิญ/โลกกลม /พรหมลิขิต ที่ได้วง Potato มาร้องให้
ในด้านการแสดง ภาพยนตร์เรื่องนี้ถือว่าใช้ตัวแสดงหลักๆ น้อยมาก จะไม่น้อยได้ยังไงก็แค่ สองคนเท่านั้น อย่าง จ๋า คงไม่ต้องอธิบายถึงเรื่องการแสดงของเธอแล้ว เพราะว่าเธอผ่านงานแสดงมาแล้วอย่างโชกโชน และถือเป็นนางเอกร้อยล้านอีกคนของเมืองไทย (จากภาพยนตร์เรื่อง ชัตเตอร์ กดติดวิญญาณ) ผมชอบการแสดงโก๊ะๆ ของคุณจ๋ามากนะครับ ผมว่ามันเข้ากับคาแร็คเตอร์หรือบุคลิกของคุณจ๋าได้ดี ดูอย่างเรื่อง แสบสนิท ศิษย์ส่ายหน้า ที่คุณจ๋าเล่นไว้ ก็โก๊ะสมใจ หรืออย่างเรื่อง คริต กับจ๋า บ้าสุดๆ จ๋าก็เล่นได้โก๊ะแบบหลุดโลกไปเลย
สำหรับเรื่องนี้เธอก็มา "ดุ๊กดุ๋ยๆ" ให้เราฮาได้อีก ส่วนพระเอกของเราอย่าง นาวิน-ต้า พระเอกคนนี้ไม่เคยคิดว่าจะได้มาเล่นหนังเรื่องนี้ด้วยซ้ำ เพราะว่านาวิน-ต้า เคยเป็นนักร้องในสังกัด เมกเกอร์เฮด ของบริษัทแกรมมี่ และได้ทุนอนันทมหิดลได้ไปเรียนต่อถึงประเทศอเมริกา พอจบมาแล้วก็ได้มาเป็นอาจารย์สอนเศรษฐศาสตร์จุลภาค และสอนคณิตศาสตร์สำหรับเศรษฐศาสตร์อีกด้วย ซึ่งปัจจุบันเป็นอาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ การแสดงของนาวิน ต้า ที่รับบทเป็นตัว ขจร นั้น ผมว่าตัวขจรเป็นคนเรียบง่าย ไม่ค่อยมีอะไรมากเท่าไหร่ บทก็ยังพื้นๆ ทั่วไป แต่นาวินต้า ก็ทำได้ดีในฐานะนักแสดงน้องใหม่
ภาพยนตร์เรื่องนี้ ในช่วงแรกๆ นั้น ก็ยังคงดำเนินเรื่องไปอย่างเรียบง่าย แต่ก็ไม่ทำให้ถึงกับน่าเบื่อ เป็นหนังที่ค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป จะน่าติดตามมากที่สุดก็คงเป็นช่วง 20-30 นาทีสุดท้ายของเรื่อง ยังไม่ค่อยมีจุดที่ดึงอารมณ์สุดๆ ที่ทำให้คนดูซื้งหรือเก็บความประทับใจไว้ ก็ดีหน่อยตรงที่พระเอกโทรมาสารภาพรักกับนางเอก จนนางเอกกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่ ถ้ามีสาวคนไหน คนรักมาสารภาพอย่างนี้ก็คงกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่เช่นเดียวกัน ช่วงหลังที่บอกน่าติดตามที่สุดนั้น แม้ว่าจะเดาถูกบ้างผิดบ้าง แต่ก็ไม่ยากที่จะเดา สรุปแล้วเนื้อเรื่องถือว่าผ่านครับ ดูไม่น่าเบื่อ ถ้ามีมุขตลกแทรกมาบ้างก็คงจะดีไม่น้อยนะครับ
ช่วงนี้ใกล้วันวาเลนไทน์แล้ว หนังรักอาจจะออกมาเยอะสักหน่อย แนวหนังก็น่าจะคล้ายๆ กัน อยู่ที่ว่าหนังรักเรื่องไหนได้นักแสดงแม่เหล็กขนาดไหนมาเล่น และเนื้อเรื่องเป็นอย่างไร สำหรับจ๋าผมว่าเธอมีแรงที่จะดึงดูดคนเขามาดู บังเอิญ...รักไม่สิ้นสุด จำนวนหนึ่ง ซึ่งถือว่ามากพอควร ถ้าคุณอยากรู้ว่า ความรักของคุณนั้นเป็นแบบ บังเอิญ หรือเป็นเพราะพรหมลิขิต ก็อยากให้คุณ "บังเอิญ" เขาไปดูเรื่องนี้ แล้ว "บังเอิญ" ชอบเรื่อนี้ แค่นี้คนทำหนังไทยก็ยิ้มได้แล้วครับ...
บทวิจารณ์โดย : TCK E-mail :TCK05@sanook.com