วิจารณ์หนัง มหาลัยสยองขวัญ

วิจารณ์หนัง มหาลัยสยองขวัญ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
ผมไม่ทราบว่าโปรเจคท์ภาพยนตร์เรื่องนี้ตั้งใจให้คล้าย หรือบังเอิญไปคล้ายภาพยนตร์เรื่อง 4 แพร่งก็ไม่รู้ เพราะดูจากบทรวมๆ แล้วคล้ายมาก มหาลัย’สยองขวัญ ในตอนแรกที่ผมเห็นชื่อนี้ ก็ให้นึกไปถึงเรื่อง รับน้องสยองขวัญ อะไรประมาณนั้น คำว่า มหาลัย’สยองขวัญ ผมนึกว่าจะเป็นภาพยตร์ที่เกี่ยวกับมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งซึ่งเกิดเรื่องสยองขวัญขึ้น แต่เอาเข้าจริง มหาลัย’สยองขวัญ ก็เป็นแค่เรื่องที่เล่ากันในมหาวิทยาลัยต่างๆ ที่เคยเล่าต่อๆกันมาจากรุ่นสู่รุ่น ยอมรับว่ามันเป็นเรื่องที่น่าสนใจ ที่น่าจะหยิบยกออกมาทำเป็นภาพยนตร์ได้ หนังเรื่องนี้จึงเปรียบเสมือนมีหนังสั้น 4 เรื่อง 4 สถานที่ที่เป็นเรื่องราวที่ถูกเล่าขานต่อๆ กันมาถึงความน่ากลัว สำหรับผู้กำกับเรื่องนี้ก็มีถึง 2 ท่านด้วยกัน คือคุณบรรจง สินธนมงคลกุล สำหรับผู้กำกับท่านนี้เคยผ่านงานกำกับมาแล้วเรื่องหนึ่งคือ “ว้อ..หมาบ้ามหาสนุก” ส่วนผู้กำกับอีกท่านคือ คุณสุทธิพร ทับทิม สำหรับผู้กำกับท่านนี้เคยแต่ทำหน้าที่ในด้านกำกับภาพให้กับภาพยนตร์ดังๆ มาแล้วเกือบ10 เรื่องด้วยกัน อย่างเรื่อง เฮี้ยน, พรางชมพูฯ, เกมล้มโต๊ะ เป็นต้น และเรื่องนี้ได้ก้าวขึ้นมาเป็นผู้กำกับครั้งแรก ภาพยนตร์เรื่องนี้ถูกจัดเรทให้อยู่ในหมวด 18+ เพราะว่าในตัวภาพยนตร์มีบางฉากบางตอนแสดงให้เห็นถึงความรุนแรงเป็นอย่างมากโดยเฉพาะในตอนแรก (ศาลในห้องน้ำหญิง) และตอนสุดท้าย หอเจ็ด(ป๊อก ป๊อก ครืด) พูดถึงฉากรุนแรงในตอนศาลในห้องน้ำหญิง ตอนที่จิมมี่ (อธิศ อมรเวช) ถูกพวกค้ายาตามมาทวงเงินแล้วเกิดการต่อสู้กันขึ้น และเพื่อนของจิมมี่โดนขวดตีๆๆๆ ฉากนี้ผมถือว่าเป็นฉากที่รุนแรงมาก จริงๆ แล้วฉากนี้ไม่มีก็ได้นะตัดออกไปเลย หรือต้องการแสดงให้เห็นว่า คนที่เป็นนักเลงกล้าตีผู้อื่นอย่างโหด ก็กลัวผีเหมือนกัน แต่ผู้กำกับก็คงจะเข้าใจด้วย เลยลดทอนลงด้วยการบังคนที่ถูกตีด้วยโต๊ะเอาไว้ แต่ถึงยังไงก็รู้ว่าเพื่อนของจิมมี่กำลังถูกตีอย่าทารุณ เรียกว่าศพไม่สวยแน่นอน ส่วนฉากที่รุนแรงอีกฉากอยู่ที่ตอนหอเจ็ด (ป๊อก ป๊อก ครื่ด) ตอนที่ ไอ้โรคจิตเอาลูกกอล์ฟใส่ไว้ในปากสา (แอนนา รีส) แล้วใช้ไม้กอล์ฟหวด อันนี้โหดจริงๆ ไม่รู้ว่าตอนที่เป็นเรื่องเล่ามานั้น มันมีฉากตอนนี้ด้วยหรือเปล่า ไหนๆ เรื่องนี้ก็คล้ายภาพยนตร์เรื่อง 4 แพร่งแล้ว เพราะฉะนั้นผมเลยลองมาเทียบกับ 4 แพร่งดูแบบตอนต่อตอนเรื่องต่อเรื่องเลย ตอนศาลในห้องน้ำหญิง VS กลัว (4 แพร่ง) เรียกว่าผมเอาตอนที่ 1 กันตอนที่ 1 มาชนกันเลย พูดถึงความน่ากลัว และฉากที่ทำให้ตกใจ ทั้งสองตอนนี้ทำได้ใกล้เคียงกันมาก แต่เรื่องกลัวดูจะหลอนกว่า ผีในเรื่อง ศาลในห้องน้ำหญิง เรียกกว่าดุเกินเหตุ ไหนป้อน (ภัณฑิลา ฟูกลิ่น) และ จิมมี่ (อธิศ อมรเวช) บอกว่าผีจะอยู่ที่ชั้น 5 แต่ในเรื่องผีโผล่ทุกชั้นเลย ออกมาเป็นตัวๆ เลย ออกมารำ ออกมาเต้น ถ้าผีดุขนาดนี้ผมว่าคงไม่มีใครกล้าอยู่หอพักนี้แน่ และอีกอย่างจากเนื้อเรื่องที่เห็น ป้อนกับจิมมี่ก็ไม่ได้อยากเจอหรือลบหลู่ท่านผีแต่ประการใด ที่ไปเพราะโดนบงคับ แต่ไหงท่านผีถึงแยกแยะไม่ออกว่าใครมาลบหลู่ใครอยากลองดี ก็อย่างที่บอกนั่นแหละ หลอกดะอย่างนี้ต้องไม่มีใครอยู่ในหอพักนี้แน่ๆ สำหรับความน่ากลัวของสองตอนนี้ ให้คะแนนเท่ากันก็แลัวกันครับ ตอนลิฟท์แดง VS ยันต์สั่งตาย (4 แพร่ง) ถ้าจะให้เครดิต 2 ตอนนี้ ก็เรียกว่าทั้งสองตอนนี้เป็นรอยด่างของทั้งสองเรื่อง ในตอนที่เรื่อง 4 แพร่งฉาย เรื่องยันต์สั่งตายถือเป็นเรื่องที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์มากที่สุด ถึงความไม่สนุก ไม่น่ากลัว ไม่ตื่นเต้น และเรื่องลิฟท์แดงใน มหาลัย’สยองขวัญ ก็เดินตามรอยยันต์สั่งตายอย่างไม่ผิดเพี้ยน โดยเฉพาะเรื่องของ CG ไม่ต่างอะไรกับ CG ของเครื่องเล่นเกม PS1 ยังไงยังงั้น (ทั้งสองเรื่องเลย) สรุปแล้วเรื่องนี้ผมว่ายังไม่ผ่านในสายตาของคนดูนะครับ ในบทของนกน้อย ที่แสดงโดยคุณอาชิรญาณ์ ภีระพัภร์กุญช์ชญา ก็ถือว่าโอเคครับ อาจจะเป็นเพราะเธอเริ่มจับทิศทางถูกแล้วหลังจากเล่นภาพยนตร์มาถึง 3 เรื่อง (มนุษย์เหล็กไหล, คนไฟลุก, หลวงพี่กับผีขนุน) และเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ 4 ของเธอ ตอนห้องดับจิต VS คนกลาง(4 แพร่ง) เรียกว่าตอนที่ 3 ของหนังทั้งสองเรื่องนี้ โทนเดียวกันเลย คือเรียกว่าเป็นตลกแบบน่ากลัว ซึ่งเรื่องคนกลางใน 4 แพร่งเคยทำเอาไว้ได้เป็นอย่างดี แต่สำหรับเรื่องห้องดับจิตนี้ แม้จะใช้ตัวละครที่น้อยกว่าคนกลางถึงเท่าหนึ่ง (คนกลาง 4 คน ห้องดับจิต 2 คน) แต่จังหวะในการหลอกคนดูนั้นถูกเดาทิศทางได้หมดแล้ว จึงทำให้ส่วนของเนื้อเรื่องไม่ค่อยน่ากลัวสักเท่าไหร่ ยิ่งตอนฉากจบด้วยแล้วเทียบกันไม่ได้เลย สำหรับในตอนนี้ถ้าคนกลางทำเอาไว้ 9 คะแนน เรื่องห้องดับจิต ผมก็ให้แค่ 7 ครับ เหตุเพราะว่าตอนจบของเรื่องห้องดับจิตจบไม่ดีครับ คนที่ดูแล้วตลกที่สุดก็ให้เครดิตบทของ ประเสริฐ ที่แสดงโดยคุณปองสิชฌ์ พิศิษฐการ(อิคคิว) และถือว่าเป็นผลสำเร็จของคุณปองสิชฌ์เลยนะครับ ที่เล่นเรื่องแรกก็สามารถสะกดคนดูให้หัวเราะได้ขนาดนี้ สำหรับบทของโจ๊ก(ปริญญา งามวงศ์วาน-อ๊อฟ) ก็เป็นแค่ตัวเสริมเท่านั้นไม่เด่นอะไรมากนัก ตอนหอเจ็ด(ป๊อก ป๊อก ครืด) VS Last Flight ( 4 แพร่ง) กะจะให้เรื่องสุดท้ายเป็นเรื่องที่ช็อกสุดๆ เช่นกัน แต่ไหงเรื่องหอเจ็ดกลับเป็นหนังแนวโรคจิตไปซะอย่างนั้น มีผีโผล่มาตอนเดียวเท่านั้น ตอนที่พยายามคลานไปเอาผัดไทไปแขวนไว้ที่ลูกบิดประตู (ช่างเป็นผีที่มีความพยายามเสียจริงๆ) ในเรื่องหอเจ็ดนี้เต็มไปด้วยฉากรุนแรงทั้งนั้น ฉากโรคจิตที่ทำกับผู้บริสุทธิ์ที่เราไม่สามารถเอาผิดกับพวกเขาได้นอกจากให้คนที่ถูกพวกนี้กระทำแก้แค้นคืน คุณแอนนา รีส เล่นเรื่องนี้ได้ดีมากเลยครับ แม้จะผ่านงานภาพยนตร์มาแค่ 2 เรื่อง (ปืนใหญ่จอมสลัด, เดอะเล็ตเตอร์ เขียนเป็นส่งตาย) แต่งานละคร คุณแอนนาก็เล่นมาแล้วหลายเรื่อง สรุปแล้วงานนี้นอกจากน่ากลัวบ้างไม่น่ากลัวบ้างแล้ว ถ้าคนดูที่หวังไว้กับหนังเรื่องนี้มาก คงผิดหวังน่าดู แต่ถ้าดูแบบกั๊กๆ ไว้ก็คงไม่คิดอะไรมาก ตัวหนังน่าจะอยู่ในระดับ C คือ พอดูได้ ถ้าให้ผมให้คะแนนทั้งเรื่องก็คงให้แค่ 6.5 เท่านั้น ก็ถือว่าสอบผ่านอย่างฉิวเฉียดครับ

บทวิจารณ์โดย : TCK E-mail :TCK05@sanook.com

อัลบั้มภาพ 5 ภาพ

อัลบั้มภาพ 5 ภาพ ของ วิจารณ์หนัง มหาลัยสยองขวัญ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook