วิจารณ์หนัง รถไฟฟ้ามาหานะเธอ
เรียกว่าเปิดตัวแรงจริงๆ กับสถิติฉายวันแรก 15 ล้านกว่าๆ แซง 5 แพร่งที่ได้ตำแหน่งแชมป์ประเทศไทยไปหยกๆ (5 แพร่งทำได้ 14 ล้าน กว่าๆ) หนังกระแสแรงอย่างนี้ถ้าผมไม่เขียนถึงคงไม่ได้ซะแล้ว
รถไฟฟ้ามาหานะเธอ เป็นผลงานการกำกับในลำดับที่ 3 ของคุณปิ๊ง (อดิสรณ์ ตรีสิริเกษม) โดยงานชิ้นแรกที่คุณปิ๊งกำกับคือเรื่อง แฟนฉัน เรื่องนี้ดังเป็นพลุแตกใครๆ ก็รู้ ต่อมาคือเรื่อง หมากเตะรีเทิร์น เรื่องนี้มีอุปสรรคนิดหน่อย คือทางประเทศลาวไม่อนุญาตให้ฉาย ก็เลยต้องตัดต่อและเปลี่ยนบทให้ใหม่เล็กน้อยจึงออกฉายได้
อาจจะเป็นเพราะเข็ดจากการทำหนังที่มีประเทศอื่นเข้ามาเกี่ยวข้อง กลัวจะมีปัญหาระหว่างประเทศอีก คุณปิ๊งเลยหันมากำกับหนังรักกุ๊กกิ๊กดูบ้าง สำหรับสไตล์ของคุณปิ๊ง ใครที่ไม่สนิทกับคุณปิ๊งจะเห็นว่าคุณปิ๊งเป็นคนพูดน้อยคุยน้อย แต่ถ้าสนิทแล้วจะตรงกันข้ามเลยทีเดียว คุณปิ๊งมักมีมุขตลกต่างๆ มาเสนออยู่เสมอ ดูอย่างเรืองหมากเตะ ในเรื่องของเนิื้องานแล้วมุขตลกต่างๆ เรียกว่ามีแทบทุกช็อตเลยก็ว่าได้ จึงไม่แปลกอะไรที่ภาพยนตร์เรื่อง รถไฟฟ้ามาหานะเธอ จะมีมุขตลกที่ทั้งเรียกเสียงฮาและทำให้อมยิ้มได้อยู่หลายฉากหลายตอนด้วยกัน อันนี้เป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของคุณปิ๊งที่สามารถเรียกคนดูให้นั่งดูหนังของเขาตลอด 2 ชั่วโมงโดยไม่เบื่อ ผมชอบมุขตอนที่เพลิน (อังศุมาลิน สิรภัทรศักดิ์เมธา) น้องข้างบ้านที่มาแย่งจีบคุณลุงแข่งกับเหมยลี่ และสามารถหลอกเอาเบอร์โทรศัพท์ของคุณลุงมาได้ และถามเหมยลี่ว่า ลุงสะกดยังไง ผมว่ามุขนี้ฮาดีนะครับ
และสำหรับเรื่อง รถไฟฟ้ามาหานะเธอ ถ้าพูดถึงในเรื่องของตัวบทแล้ว มีหลายคนบ่นว่าสะดุดนิดหน่อย แต่ก็ไม่มาก แต่ผมกลับเห็นว่าเรื่องที่บอกว่าสะดุดนั้นทางคุณปิ๊งน่าจะมีเหตุและผลพอสมควรที่พอจะอธิบายได้ อย่างเช่น มีคนสงสัยว่า เหมยลี่ ที่แสดงโดยคุณคริส (ศิริน หอวัง) เป็นหญิงลูกครี่งคนจีนที่อยู่กับอาม่ามานานกว่า 30 ปี แต่ทำไมไม่รู้จักภาษาจีนบ้างเลย ต้องคอยให้แม่แปลอยู่ตลอดเวลา หรือว่าอาม่าพูดจีนได้อย่างเดียวเหรอ ทำไมไม่พูดภาษาไทย เพราะอยู่เมืองไทยมานานแล้ว ผมก็เลยไปสอบถามเพื่อนๆ ผมที่เป็นครอรัวคนจีน ที่อยู่กันมานานแล้ว 30 ปีขึ้นไป ก็ได้ความว่าเป็นไปได้ที่ลูกหลานคนจีนที่อยู่ในไทย แม้จะอยู่กันมานาน แต่ก็ไม่สามารถฟังภาษาจีนของอาม่าอากงที่สนทนากันยาวๆ ได้
แต่ถ้าเป็นศัพท์ง่ายๆ อย่างเช่น กินข้าวหรือยัง ไปเที่ยวมา ฯลฯ ยังพอจะฟังแล้วเข้าใจอยู่บ้าง คราวนี้ก็มาถึงเรื่องของอาม่าที่อยู่เมืองไทยมานานแล้วทำไมพูดภาษาไทยไม่ได้ แถมยังนั่งดูละครไทยเฉยเลย ผมก็ถามมาเหมือนกัน สรุปว่าถ้าอยู่เมืองไทยมาถึงขนาด 30 ปีแล้ว น่าจะพูดได้บ้าง ถึงจะพูดไม่ชัดก็เถอะ อ้าว..แล้วอย่างนี้ทำไมอาม่าถึงไม่พูดภาษาไทยกับเหมยลี่ล่ะ ทำไมต้องพูดแล้วให้แม่คอยแปลอยู่ทุกครั้ง... ก็น่าจะเป็นไปได้อีกนั้นแหละครับ ในตัวของภาพยนตร์ไม่ได้แจ้งเอาไว้ว่า อาม่า อยู่กับลูกหลานได้นานขนาดนั้นหรือเปล่า อาจจะเป็นไปได้ว่าอาม่าเพิ่งมาจากเมืองจีนก็ได้ อาจจะอยู่ในไทยไม่ถึงปีด้วยซ้ำก็เลยไม่สามารถพูดภาษาไทยได้ ส่วนที่นั่งดูละคร แม่ของเหมยลี่อาจจะคอยแปลให้ฟังก็ได้
ส่วนเรื่องที่บอกว่า นางเอกบ้านอยู่ เจริญกรุง ทำไมถึงต้องนั่งรถนั่งเรือหลายต่อกว่าจะได้ไปถึงสถานีรถไฟฟ้า แล้วทำไมถึงขึ้นรถไฟฟ้าสะเปะสะปะไปหมด และสถานีสะพานตากสินน่าจะเป็นสถานีที่ไกล้ที่สุดสำหรับชาวเจริญกรุง อันนี้ก็สอบถามมาแล้วเช่นกัน ได้ความว่าไกลครับไกลมาก ชาวเจริญกรุงกว่าจะได้นั่งรถไฟฟ้าก็คงเป็นเหมือนดังในเรื่องนั่นแหละครับ ส่วนที่นางเอกขึ้นรถไฟสะเปะสะปะเพราะว่าตามจีบคุณลุงอยู่นั่นแหละครับ
ในด้านการแสดงผมต้องยกนิ้วให้คุณคริส เพราะว่าคุณคริสเล่นเรื่องนี้ได้โก๊ะมากครับ ผมติดใจฝีมือการแสดงของคุณคริสมาตั้งแต่เรื่อง อีติ๋มตายแน่ ตอนนั้นคุณคริสเล่นบทเป็นชาวเขา ก็เรียกว่าฮามากเหมือนกัน และก็ไม่ผิดหวังเลยครับที่มาเล่นเรื่องนี้ได้ฮาขนาดนี้ ผมชอบฉากที่เป็นความคิดของคุณคริสนะครับ เหมือนการ์ตูนดี ส่วนคุณลุง (เคน-ธีรเดช วงศ์พัวพันธ์) ผมว่าเรื่องนี้คุณเคนแสดงได้นิ่งมากครับ ไม่ใช่เล่นไม่ดีนะครับ แต่ด้วยตัวบทที่เป็นถึงวิศวกร เลยต้องมาดขรึมหรือเปล่าอันนี้ก็ไม่รู้ เลยดูนิ่งๆ ทำให้เกิดความรู้สึกลึกๆ ดูเหมือนว่าคุณเคนไม่ค่อยอยากเล่นสักเท่าไหร่เหมือนฝืนใจเล่นยังไงไม่รู้..(เป็นความรู้สึกส่วนตัวนะครับอย่าว่ากัน) แต่รวมๆ แล้วผมว่าถึงแม้คุณคริสและคุณเคนจะเล่นดีแล้วแต่ก็อดรู้สึกไม่ได้ว่า ทั้งสองคนยังเป็นแม่เหล็กดึงดูดคนดูได้ไม่ดีพอ ที่หนังได้เงินเพราะเป็นหนังกระแสมากกว่า แต่ผมก็นึกไม่ออกเหมือนกันว่าถ้าเรื่องนี้ไม่ใช่คุณเคนและคุณคริสแสดงแล้วจะให้ใครมาแสดงถึงจะดูดีกว่า..สรุปแล้วก็ต้องบอกว่า ณ เวลานี้ก็เหมาะสมดีแล้วครับ แต่ผมก็สงสัยอยู่อย่างหนึ่งในเรื่องของตัวบท พระเอกเรียกว่าหล่อขั้นเทพเลย แต่ทำไมถึงยอมทิ้งสาวสวย (อดีตแฟนสาว) ที่เป็นนางเอกละครทีวี แต่กลับมาสนใจเหมยลี่หญิงอายุ 30 โก๊ะๆ คนนี้ ซึ่งจริงๆ แล้วมันก็เป็นเหตุผลส่วนตัวของคุณลุงเขานะ ผมแค่สงสัยไปอย่างนั้นเองไม่มีอะไร
ในเรื่องของฉากแสดง สีเสียงนั้นก็พาอารมณ์ไปได้เยอะเลยนะครับ โดยเฉพาะฉากดูดาว ฉากดาวตก ฉากหน้าพระที่นั่ง ฉากในท้องฟ้าจำลอง ดูสวยๆ ทั้งนั้น ยกเว้นฉากตอนเล่นสงกรานต์ เหมือนเซตขึ้นมามากเกินไป ในเรื่องของเพลงประกอบเพราะดีครับ
สรุปแล้วเรื่องนี้ผมว่าดูสนุกดีนะครับ ดูได้เรื่อยๆ การลำดับภาพก็โอเค เสียดายอย่างเดียวไม่มีฉากเซอร์ไพส์ที่โดนๆ เหมือนหนังของ GTH เรื่องอื่นๆ ถ้าจะให้ผมนิยามหนังเรื่องนี้ ก็คงเป็นว่า รถไฟฟ้ามาหานะเธอ หนังรักตลกที่ดำเนินเรื่องเป็นเส้นตรงอย่างเดียวไม่มีซิกแซกเลย โดยเฉพาะฉากจบยังไม่ค่อยประทับใจเท่าไหร่นัก เพราะยังคงอดสงสัยไม่ได้ว่า คุณลุง แอบขึ้นรถไฟฟ้ามาตอนไหน ทั้งที่ตอนแยกกันประตูรถไฟฟ้าปิดแล้ว หรือทาง BTS ให้อภิสิทธิ์พนักงานทุกคนสามารถวาร์ปเข้ามาในรถไฟฟ้าได้ทุกเมื่อทุกเวลาทุกสถานที่....เรื่องนี้ผมให้คะแนน 8 เต็ม 10 ก็แล้วกันครับ....
บทวิจารณ์โดย : TCK E-mail :TCK05@sanook.com