วิจารณ์หนัง สาระแน ห้าวเป้ง
ถ้าใครเคยดูรายการ สาระแนจัง ทางทีวีมาบ้างแล้ว ซึ่งรายการนี้ดำเนินรายการโดย 3 พิธีกรชื่อดังของไทย คือคุณวิลลี่ (เริงฤทธิ์ แมคอิน ทอช) คุณเปิ้ล (นาคร ศิลาชัย) และคุณหอย (เกียรติศักดิ์ อุดมนาค) รายการที่มีคอนเซ็พท์ในการไปแกล้งดาราคนดังทั่วไป โดยจะสร้างสถานการณ์ และมีการนำกล้องถ่ายภาพยนตร์ไปแอบซุ่มไว้ในมุมต่างๆ เพื่อแอบถ่ายปอากัปกิริยาของดาราผู้ถูกแกล้ง โดยพิธีกรทั้ง 3 คนนี้ได้ร่วมกันเปิดบริษัท ลักษ์666 ผลิตรายการทีวี (สาระแนจัง, นั่งยางโชว์ ฯลฯ) ผลิตสิ่งพิมพ์ (นิตยสาร OHO / เป็นนิตยสารเกี่ยวกับเรื่องซุบซิบดารา) และปัจจุบันก็ขยายการทำงานมาทำภาพยนตร์อีกอย่างหนึ่งแล้วในนาม ลักษ์ฟิล์ม โดยภาพยนตร์เรื่องแรกของบริษัทนี้ก็คือ สาระแนห้าวเป้ง�
ภาพยนตร์เรื่อง "สาระแนห้าวเป้ง" ก็คือรายการสาระแนจัง นั่นเอง เพียงแต่ว่าสาระแนจังจะฉายทางทีวี ส่วนสาระแนห้าวเป้งก็มาฉายทางจอภาพยนตร์ คำว่าห้าวน่าจะมาจากการกระทำที่กล้าเกินเหตุ ส่วนคำว่า เป้ง ตัดมาจากคำว่าเจ๋งเป้ง ครับ สำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้ ก็จะถูกแบ่งออกเป็น 4 ตอน และใน 4 ตอนที่ว่านี้ก็ครอบคลุมไปถึงตอนที่ 5 ด้วย คือตอนของ 2 นักศึกษาจบใหม่เข้ามาสมัครงานในตำแหน่งครีเอทีฟของรายการสาระแน ที่มีสมัครเข้ามาให้เลือกกว่า 500 คน และสุดท้ายก็มาจบลงที่ คุณสตาร์บัคส์ กับ คุณหลังเลนส์ ที่ได้รับเลือกและต้องเจอกับเหตุการณ์ต่างๆ นานาที่ทางทีมงานสาระแนสรรหามาให้ (อย่างแสนสาหัส)
ในตอนของ โก๊ะตี๋ อารามบอย
-ดูแล้วมีความรู้สึกว่า โก๊ะตี๋โดนหลอกจริงๆ ไม่ได้มีการเตี๊ยมกันมาก่อน ไม่ได้เสแสร้ง ไม่ได้แกล้งทำ ยกเว้นในตอนที่ไปกราบพระและมีผีเข้าเท่านั้น ที่น่าจะเป็นการเตี๊ยมกันมา หรือเรียกว่าเป็นช่วงเอาคืนของดาราคนที่ถูก 3 พิธีกรนี้แกล้ง ดูแล้วก็ฮาดี แต่เอาความกลัวของคนมาทำเป็นเรื่องฮา มันก็ยังไงๆ อยู่ ถ้าเกิดคนที่โดนแกล้งเป็นโรคหัวใจ แล้วคิดว่าเกิดเรื่องอย่างนี้จริงๆ หัวใจวายไปจะทำไง? (แต่คิดว่าทางทีมงานคงมีการตรวจสอบกันมาเป็นอย่างดีแล้ว) และก็รู้สึกดีกับโก๊ะตี๋อย่างนึง ในตอนที่ซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์ไปดูพวกแข่งรถ โก๊ะตี๋สอนเรื่องดีๆ ไปตลอดทางเลย ดูเหมือนบ่น แต่เป็นคำพูดที่ดีมีสาระนะ ส่วนเรื่องคำหยาบนั้นก็คงรู้ๆ กันอยู่ คำหยาบกับดาราตลกมักเป็นของคู่กันอยู่แล้ว
ในตอนของดาราต่างประเทศ BABY V.O.X.
- ผมว่าทั้ง 4 ตอน ดูตอนนี้คุ้มสุดแล้วล่ะ ตามประสาผู้ชาย และสาวๆ ที่เป็นนักร้องวงนี้สวยๆทั้งนั้น ผมก็ชอบในผลงานของพวกเธออยู่เหมือนกัน สำหรับในตอนนี้เหมือนเป็นการหยอกล้อกลายๆ มากกว่าการแกล้งกัน (คงไม่กล้าเล่นแรง เพราะว่าเป็นดาราต่างประเทศ) แต่ยอมรับว่าคุณหอยแกกล้ามาก ที่ใส่ชุดแบบนั้นในตอนท้ายของเรื่อง กล้าจริงๆ
ในตอนของ หม่ำ จ๊กมก
- ขอบอกว่า ในตอนของคุณหม่ำ ดูยังไงๆ ก็เหมือนเตี๊ยมกันมาตลอดรายการ ในตอนแรกที่ สตาร์บัคส์ และ หลังเลนส์ ไปติดต่อกับคุณหม่ำที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง คุณเปิ้ลก็บอกเองว่า คุณหม่ำรู้ตัวแล้ว และพอดูตอนที่ 2 ก็ยิ่งเข้าใจว่าคุณหม่ำรู้ตัวแล้วเช่นกันและในเรื่องของการออกมาโวยวายด่าคำหยาบคายในตัวหนังของคุณหม่ำ ดูแล้วก็ทำให้นึกถึงเรื่อง บอดี้การ์ดหน้าเหลี่ยม ที่คุณหม่ำเคยทำเอาไว้ ในตอนท้ายของเรื่องนั้น ที่ให้คุณโหน่งออกมาโวยวายด่าคำหยาบคายต่างๆ นานา มีการเอ่ยชื่อถึงเจ้าของหนังด้วย ดูแล้วเหมือนกันมาก เพียงแต่ในเรื่องบอดี้การ์ดหน้าเหลี่ยมเป็นคุณโหน่ง ส่วนในเรื่องนี้เป็นคุณหม่ำแทน และอาจจะมีการวางแผนถึงขั้นโปรโมทหนังไปในตัวด้วย แบบที่มีข่าวหน้าหนึ่งตามหน้าหนังสือพิมพ์ ถ้าเป็นแผนในการโปรโมทหนังจริงๆ และสื่อ(หนังสือพิมพ์) ไม่ได้รับค่าจ้างในการโปรโมทจริงๆ ก็น่าสงสารสื่อนะครับที่โดนหลอกให้ลงในหน้า 1 อย่างนี้ แต่อย่างว่าล่ะครับ บางทีสื่ออาจจะรู้ตัวเช่นกัน แต่ข่าวอย่างนี้ ขายดีออกใช่ไหมครับ?
ในตอนของ คุณแอ๊ด คาราบาว
-ในตอนนี้ก็ไม่มีอะไรมาก เพราะว่ารู้อยู่แล้ว ว่าคุณแอ๊ดน่าจะรู้ตัวอยู่แล้ว คุณแอ๊ดก็เลยกลับเป็นหน้าม้าเสียเองในการหลอก สตาร์บัคส์ กับ หลังเลนส์แทน
ส่วนในตอนที่ถูกซ่อนไว้ ก็คือตอนของ สตาร์บัคส์ (พงศ์พิชญ์ ปรีชาบริสุทธิ์กุล) กับ หลังเลนส์ (เสกสรร รัตนพรพิศ) น้องทั้งสองคนนี้ (ขอเรียกน้องก็แล้วกัน ดูแล้วน้องสองคนนี้อายุน้อยกว่าผม) โดนหลอกตั้งแต่วันสมัครงานแล้ว เรียกว่าโดนหลอกตั้งแต่ต้นเรื่องจนจบเรื่องเลยก็ว่าได้ ในตอนนี้คนที่ดูในโรงภาพยนตร์ก็เหมือนกับการดูรายการ เรียลลิตี้โชว์ ในการทำงานด้านครีเอทีฟของ 2 คนนี้ ว่าเขาจะผ่านการทดสอบได้หรือไม่ แต่บททดสอบของ 2 คนนี้ ก็หนักหนาสาหัสเอาการเหมือนกันที่ของรักของหวงจะต้องถูกแยกจากไป หรือพังไปต่อหน้าต่อตา แต่นั้นก็คงเป็นจุดประสงค์ของการทำหนังเรื่องนี้
ยอมรับอยู่อย่างหนึ่งว่า ทางรายการสามารถซ่อนกล้องไว้ได้ทุกซอกทุกมุมจริงๆ เรียกว่าบางจุดที่ไม่น่าซ่อนกล้องได้ ทางทีมงานก็ซ่อนได้เรียกว่าถ้าเป็นนักสืบก็ประสบผลสำเร็จเลยทีเดียว เก่งจริงๆ ครับ
ใครที่ต้องการความฮาแบบแปลกใหม่ในโรงภาพยนตร์ ก็ลองเข้าไปดูหนังเรื่องนี้ดู เชื่อว่าฮากระจายแน่ หรือใครที่เคยดู สาระแนจัง อยู่ที่บ้าน ก็ลองมาเปลียน บรรยากาศมาดูในโรงภาพยนตร์บ้าง ก็ให้บรรยากาศที่แปลกไปอีกแบบ หนังตลกดูแล้วไม่ต้องคิดอะไรมาก แต่เด็กเล็กมากๆ ก็ไม่ควรดู เพราะว่ามีคำหยาบเยอะมากเดี๋ยวจะจำติดออกมาด้วย....
บทวิจารณ์โดย TCK E-mail :TCK05@sanookcom