วิจารณ์หนัง Shinjuku Incident
ถ้าให้ทายว่านักแสดงจมูกโตที่สร้างเสียงหัวเราะกับผู้ชมมานับสิบๆปีคือใคร คำตอบอาจจะเป็นชื่อพี่โน้ต อุดม แต้พานิช แต่ถ้าใบ้คำตอบว่านักแสดงเอเชียคนนั้นดังก้องโลกระดับฮอลลีวู้ด และผลงานโดยมากของเขาจะเป็นแอ็คชั่นคอมเมดี้ ก็ชัดเจนมากว่าหมายถึงใคร คงหนีไม่พ้นคำตอบเดียวคือ เฉินหลง หรือชื่อโกอินเตอร์ว่า Jackie Chan
ตลอดระยะเวลากว่า 4 ทศวรรษที่เขาสรรสร้างผลงานอันน่าจดจำมากมาย ตลอดมาไม่เคยผิดหวังในความบันเทิงของผลงานเขาเลย อาทิเรื่อง Project A (เอไกหว่า) ที่ผมชอบมาก ตัวเฉินหลงรับบทเป็นตำรวจน้ำประกบหงจินเป่า ที่ทั้งมันทั้งฮาในเรื่องเดียวกัน จะดูซ้ำกี่ทีก็ไม่เคยเบื่อ แม้เอามาเปิดดูในยุคปัจจุบัน ความสนุกก็ไม่ได้ลดน้อยถอยลงเลยซักนิดเดียว เวลาไม่สามารถทำลายคุณค่าผลงานเขาได้ หรืออย่าง Drunken Master (ไอ้หนุ่มหมัดเมา) ถือว่าเป็นหนังที่ทำให้เรารู้จักชื่อของเฉินหลงมาจนถึงทุกวันนี้ ใครล่ะจะลืมกระบวนท่าหมัดเมาได้ ออกจะแปลกโดนใจซะขนาดนั้น
ผลงานของเฉินหลงจะมีฉากแอ็คชั่นหลากหลายรูปแบบ และแต่ละเรื่องที่เขาทำก็มีฉากสตั้นท์เสี่ยงตายใหม่ๆให้ตื่นตาตื่นใจเสมอ อีกอย่างที่สำคัญคือแอ็คชั่นของหนุ่มจมูกโตคนนี้มักจะแทรกด้วยมุขตลกโปกฮา ซึ่งเป็นเสน่ห์ที่สร้างความบันเทิงอย่างที่ฝรั่งเองก็ต้องซูฮกยกนิ้วโป้งให้สองข้างไปเลย สุดท้ายพ่อหนุ่มเฉินหลงก็โกอินเตอร์สู่อ้อมอกฮอลลีวู้ดเป็นรุ่นแรกๆกรุยทางให้รุ่นน้องจากฝั่งเอเชียไปก่อน
การโกอินเตอร์ไปเติบโตในต่างแดนของเฉินหลง ความเป็นหนังแอ็คชั่นคอมเมดี้เอกลักษณ์ของเขาก็ยังอยู่ เพียงแต่ฉากแอ็คชั่นท้าตายสไตล์เขาจะไม่ไฉไลเท่าเดิม ด้วยเพราะการร่วมงานกับฝรั่งเขาจะสรุปงานกันที่หน้าโต๊ะก่อนถ่ายทำ แต่สำหรับเฉินหลงแล้วนั่นไม่ใช่สไตล์เขา เฉินหลงจะไปที่โลเคชั่นถ่ายทำก่อน เพื่อดูว่าจะออกแบบเล่นฉากบู๊ท้าตายในลักษณะไหน
ผมเคยได้ดูสัมภาษณ์เฉินหลง เล่าว่าเขาปลาบปลื้มหนุ่มจีนนักบู๊ จอมแอ็คชั่นเสียงหลงบรู๊ซ ลี เป็นพิเศษ ในหนังบรู๊ซ ลีฆสามารถชกกำแพงทะลุอย่างสบาย แต่หากจะเลียนแบบ ก็คงจะซ้ำซาก เฉินหลงจึงประยุกษ์โดยตั้งข้อสงสัยว่า ถ้าเขาชกกำแพงแต่เจ็บมือล่ะ จะเป็นยังไงบ้าง นั่นจึงเป็นสาเหตุที่มาของแอ็คชั่นคอมเมดี้อันเป็นตราประทับผูกมัดติดกับชื่อเขาในภาพยนตร์แทบทุกเรื่องเรื่อยมา ไม่ว่าจะ Rush Hour 1-3, Shanghai Noon, Tuxedo, Around The World in 80 Day หรือ Rob-B-Hood แต่ใช่ว่าเฉินหลงจะตลกรับประทานเพียงอย่างเดียว ในหลายเรื่องเขาก็มีอารมณ์ดราม่าสูงเช่นกัน
ภาพยนตร์ล่าสุดที่หวงกลับมาสู่บ้านเกิดอีกครั้ง หลังจากทัวร์ฮอลลีวู้ดเป็นพักๆ เฉินหลงมาแสดงนำเรื่อง Shinjuku Incident : ใหญ่ แค้น เดือด สามารถสร้างความยิ่งใหญ่ได้สมฟอร์ม เนื่องจากได้รับเกียรติคัดเลือกให้เป็นภาพยนตร์ฉายเปิดเทศกาล Hongkong International Film Festival เทศกาลภาพยนตร์ที่เก่าแก่ที่สุดของเอเชีย เคยสังเกตไหมครับว่าชื่อหนังภาษาไทยของเฉินหลงมักจะมีคำว่าฟัดโน้นฟัดนี้อยู่เสมอ ใหญ่ฟัดโลก วิ่งสู้ฟัด คู่พายุฟัด ฟัดอมตะ ฯลฯ แต่เรื่องล่าสุดกลับไม่โผล่คำว่าฟัดซักนิด นัยแอบแฝงว่าต้องการจะเปลี่ยนแปลงภาพลักษณ์ที่ติดตัวเฉินหลงมาโดยตลอดให้หมดไป จากนักบู๊ตลก มาเป็นแนวบู๊เข้มข้น ดุดันดุเดือด เลือดพล่าน
ในเรื่อง Shinjuku Incident ถือว่าเป็นเรื่องที่เฉินหลงได้รับบทดราม่าเข้มข้นที่สุดแล้ว เท่าที่ผมเคยดูหนังที่เขาแสดงมา หลายคนอาจจะคุ้นเคยกับฉากแอ็คชั่นที่โลดโผนโจนทะยาน ความคล่องแคล่วว่องไวประดุจดั่งลิงลมในฉากการต่อสู้ที่เฉินหลงแสดงและเสี่ยงตาย หากคาดหวังจะได้ดูการฟัดแบบเดิมๆล่ะก็ คงต้องผิดหวังกันไปตามระเบียบ เพราะไม่มีให้เห็นในหนังเรื่องนี้อย่างแน่นอน เพราะแอ็คชั่นในเรื่องจะเน้นความดุดันแบบดิบๆ สมจริงสมจัง ดูไปเสียวไป หนังไม่ได้ฟัดกันแต่ เปลี่ยนฟันกัน สยิวจนผมขยาดไม่อยากไปญี่ปุ่นกันเลย ถ้าสมมุติผมมีปัญญาไปได้นะครับ โดยเฉพาะช่วงท้ายเรื่องลุ้นตัวโก่งเอาใจช่วยฮีโร่ของเราสุดใจ ก็เขาไม่ได้เก่งชนิดมาเดี่ยวตีตายหมดอย่างที่เคยดูนับสิบปี นี่จึงถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของเขาเลยก็ว่าได้ หรืออาจเพราะอายุและสังขารหรือเปล่าที่ต้องบีบให้เขาเปลี่ยนบทบาทบู๊ผาดโผนลง แล้วแทนที่ด้วยพลังการแสดงทางดราม่า
บทบาทของเฉินหลงมีพัฒนาการทั้งเหมือนและต่างจากหนังมาเฟียทั่วไป หนังแนวแก็งสเตอร์ที่พบเห็นอยู่บ่อยๆจะให้ตัวเอกมาจากคนต่อยต่ำด้อยคุณค่า แล้วไต่เต้าอย่างเร็วสู่ความยิ่งใหญ่ด้วยความทะเยอทะยาน ความโลภ หลงในเงิน อำนาจ อิทธิพล แต่สำหรับบทหัวเหล็กหรืออาโถที่เฉินหลงสวมอยู่นั้นต่างออกไป เขาไม่ได้ทำเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว การฆ่าคน โกง ค้าของเถื่อนล้วนแต่ทำเพื่อพวกพ้องให้พ้นจากสภาพความอดอยากยากจนข้นแค้น ทั้งให้รอดพ้นจากอิทธิพลยากูซ่าและพวกจีนที่รังเกลียดแถมรังควานชาวจีนหน้าใหม่ที่เพิ่งเข้าญี่ปุ่น เฉินหลงฉายแสงพลังการแสดงความเป็นดาราคุณภาพ ไม่ใช่เพียงรับบทบู๊หรือตลกได้อย่างที่คุ้นเคยเห็นกัน ซีนอารมณ์ในตอนที่อาโถเสียใจปนแค้นหลังจากเห็นสภาพอาเจี่ยโดนซ้อมยับเยินจนพิการ ถ้าไม่มีคนหัวเราะเพราะคำพูดอาเจี่ย ทำให้เสียอารมณ์ขึ้นเสียก่อน สารภาพเลยว่าผมอินตามไปด้วยแทบน้ำไหลเหมือนกัน ฉากดราม่าของเฉินหลงน่าเชื่อถือ สอบผ่านสบาย อีกตัวละครที่มีความซับซ้อนทางอารมณ์มากที่สุดของเรื่องต้องยกให้อาเจี่ย รับบทโดย แดเนียล วู หนุ่มจิตใจดี ไร้แววมิจฉาชีพ แต่ความกดดัน ความแค้นเปลี่ยนเขาให้แสดงท่าทางนักเลง ใจกล้า เด็ดเดี่ยว แต่งเสื้อผ้าหน้าผมใหดูน่ากลัว ทั้งหมดนั้นเพื่อบดบังซ่อนความอ่อนแอภายในใจ ซึ่งแดเนียลทำออกมาได้น่าประทับใจ
Shinjuku Incident เป็นความแปลกใหม่สำหรับการรับบทบาทของเฉินหลงก็จริง แต่ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่สำหรับหนังแนวแก็งสเตอร์ หากใครเป็นแฟนพันธุ์แท้หนังแนวนี้ คงเคยชมหนังเก่าเมื่อราวๆ 25 ปีก่อน เรื่อง Scarface ที่มีดาราใหญ่ระดับตำนานอย่าง อัล ปาชิโน่ รับบท โทนี่ มอนทาน่า หนุ่มหน้าบากต่างด้าวหนีเข้าประเทศ มาเป็นเด็กล้างจาน จากนั้นใจกล้าทำงานใหญ่ถูกใจนาย เรื่องราวการหักหลังแล้วเติบโตเป็นเจ้าพ่อทรงอิทธิพลในที่สุด อาจจะรู้สึกว่าทั้งสองเรื่องดังกล่าวมันมีอะไรหลายๆอย่างเหมือนกัน พล็อตเรื่องหลายจุดมีส่วนคล้ายคลึงกัน ชาวต่างด้าวอพยพเข้าเมือง รักเมียหัวหน้า หรือพัฒนาการตัวละครจากต้นสู่ท้าย เพียงแต่การทรยศหักหลังของเรื่องแรกตอนช่วงท้ายเรื่องดูไม่น่าเชื่อถือเอาเสียเลย มีตัวละครตัวหนึ่ง ที่มีคาแรคเตอร์ดูเป็นคนรักพวกพ้องตั้งแต่ต้น แล้วกลับตอนจบกลับเปลี่ยนนิสัยเอาซะดื้อๆให้หักมุมกันเสียเฉยๆโดยไม่วางช่วงให้แสดงถึงความร้ายของบทนั้น ส่งผลให้ตัวละครตัวนั้นเสียเลย
แม้หนังเรื่องนี้จะเดาและจับทางง่าย เพราะไม่ได้วางเรื่องหลุดจากกรอบเดิมๆเท่าไหร่ แต่กลับสร้างความตื่นเต้นให้เราลุ้นมีอารมณ์ร่วมไปกับหนัง ทั้งเศร้า มันและเสียวตามไปด้วย ซีนต่อสู้ที่ดูเป็นมนุษย์ปุถุชน ดิบเถื่อน ไม่โลดโผนอย่างเคย เหมือนเราหยิบจับสัมผัสได้จริงๆ หนังจึงน่าติดตามตลอดเรื่อง กระชับไม่น่าเบื่อ สมบูรณ์ครบรส ไม่ผิดหวังและเชื่อในชื่อเฉินหลงที่ยังรับประกันความบันเทิงได้เสมอ
บทวิจารณ์โดย ManasuK