วิจารณ์หนัง ความจำสั้น...แต่รักฉันยาว
"บางสิ่งที่อยากจำมันกลับลืม บางสิ่งที่อยากลืมมันกลับจำ คนเรานี้คิดให้ดีก็น่าขำ อยากจำกลับลืม อยากลืมกลับจำ"
ประโยคเด็ดๆ ในหนังเรื่องนี้ ที่เอาความจำและลืมของคนเรามาเป็นประเด็นหลัก
ผมติดตามผลงานของ คุณสิน (ยงยุทธ ทองกองทุน) มาตั้งแต่เรื่อง "สตรีเหล็ก" ทั้งภาค 1 และภาค 2 รวมถึงเรื่อง "แจ๋ว" และเรื่อง "แก๊งชะนีกับอีแอบ" ด้วย เคยมีโอกาสพูดคุยกับคุณสินบ้างก็หลายครั้งตามงานเปิดตัวหนังเรื่องต่างๆ ของทาง GTH จึงทำให้รู้ว่าคุณสินเป็นผู้กำกับหนังที่อารมณ์ดีมาก ผู้ร่วมงานทุกคนบอกเป็นเสียงเดียวกันเลยว่า ทำงานด้วยแล้วสนุก จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่า คุณสินจะเป็นผู้กำกับในดวงใจของใครต่อใครอีกหลายคน รวมทั้งตัวผมด้วย
ตอนได้ข่าวครั้งแรกว่าคุณสินจะมากำกับหนังสั้นเรื่อง "กลัว" (เป็น 1 ใน 4 หนังสั้นของภาพยนตร์เรื่อง 4 แพร่ง) ซึ่งเป็น "หนังผี" ผมก็คิดเหมือนกันว่า คุณสินจะกำกับได้ดีเท่าหนังตลกเท่าที่เคยทำหรือเปล่า เพราะคุณสินติดภาพ "ผู้กำกับหนังตลก" ไปแล้วเต็มตัว และหนังทั้ง 4 เรื่องที่คุณสินกำกับมาก็ประสบผลสำเร็จ 4 เรื่อง พอหนังเรื่อง "4 แพร่ง" เข้าฉาย ผู้ชมก็ได้เข้าไปพิสูจน์ฝีมือการกำกับหนังผีของคุณสิน และผลออกมาก็แสดงให้เห็นว่า คุณสินนั้นนอกจากจะทำหนังตลกได้ดีแล้ว ยังทำหนังผีได้ดีไม่แพ้กันอีกด้วย สมแล้วที่เป็นผู้กำกับอันดับมือต้นๆ ของเมืองไทย
และผมต้องแปลกใจอีกครั้ง เมื่อโปรเจคท์เรื่อง "ความจำสั้น แต่รักฉันยาว" ของคุณสินออกมา เพราะว่าก่อนหน้านั้น คุณสินเคยประกาศไว้ว่า จะทำหนังเรื่อง "เมื่อสวรรค์ให้รางวัลผม" ซึ่งเป็นเรื่องแปลมาจากวรรณกรรมเยาวชนของประเทศญี่ปุ่น และเป็นวรรณกรรมที่ได้รับรางวัลซังเค จากประเทศญี่ปุ่นมาแล้ว (เป็นรางวัลเกี่ยวกับหนังสือของวัยรุ่นญี่ปุ่นยอดเยี่ยม)
ความจำสั้น แต่รักฉันยาว จึงเป็น หนังรัก เรื่องแรกที่คุณสินกำกับ และจะเป็นอีกแนวทางหนึ่งที่ถูกส่งมาพิสูจน์ว่า ผู้กำกับคนนี้ไม่ธรรมดา นอกจากจะกำกับหนังตลกได้โดนใจ กำกับหนังผีได้น่ากลัวแล้ว ยังสามารถกำกับหนังรักที่ทำให้ทุกคนซึ้งกินใจได้ไม่ลืมอีก
ความจำสั้น แต่รักฉันยาว เป็นการชูประเด็นความรักที่เกี่ยวกับความจำ เป็นเรื่องราวของความรักของคน 2 คู่ คือคู่ของหนุ่มสาว (เป็นรักที่อยากลืมกลับจำ) และคู่ของคนสูงอายุ (รักที่อยากจำกลับลืม) ความรักของทั้ง 2 คู่ที่บางครั้งเจอในสิ่งที่ไม่สมหวังในรักก็อยากจะลืมช่วงนั้นไป แต่กลับจำ แต่บางสิ่งที่ดีๆ ในชีวิตที่เราอยากจำ กลับลืม โดยเอาปลาเงินปลาทองมาเป็นสัญลักษณ์ของหนังเรื่องนี้ (เพราะเชื่อว่า ปลาทอง เป็นปลาที่มีความจำสั้นที่สุด จำได้แค่ 3 วินาที)
"รักที่อยากลืมกลับจำ"
สำหรับการแสดงของคู่นี้ เก่ง (อารักษ์ อมรศุภศิริ - เป้ วงสเลอ) และ ฝ้าย (ญารินดา บุนนาค) แม้ว่าในด้านการแสดงของทั้งคู่จะผ่านงานมาต่างกัน แต่เมื่อเล่นเข้าคู่กันแล้วก็สามารถไหลลื่นไปได้ด้วยดี ฉากที่แสดงฝีมือล้วนๆ ของคุณญารินดา ก็น่าจะเป็นฉากตอนที่อยู่ในเรือประมง เธอแสดงถึงอาการของคนเก็บกดได้ดีมาก แม้จะมีสัตว์เลื้อยคลานออกมาจากปากของเธอเต็ม 2 รูหูของผมบ้าง แต่ก็เข้าใจว่ามันเป็นอาการของคนเก็บกดที่อยากจะระบายออกมาอย่างแรง ผมเคยนึกเสมอว่า ทำไมหนังไทยถึงทำไม่ได้นะที่ เอาคนๆ เดียวกันมาเล่นต่างเรื่องกัน แล้วให้คาแร็คเตอร์นักแสดงคนๆ นั้นแตกต่างกันไปอย่างสิ้นเชิงเลย (ตัวอย่างเช่น คุณเป้จากเรื่อง บอร์ดี้ศพ19 กับคุณเป้จากเรื่อง รักสามเศร้า ดูยังไงก็ยังเป็นคุณเป้คนเดียวกัน) พอมาถึงเรื่องนี้คุณเป้ก็ทำได้จริงๆ (ไม่สิ ผู้กำกับสามารถสั่งให้ทำได้) คุณเป้สามารถเปลี่ยนลุคไปได้ถนัดตา แต่มีสิ่งหนึ่งที่ยังขัดหูขัดตาอยู่บ้างเล็กๆ ก็คงเป็นเรื่องของทรงผมที่เปลี่ยนไปของเป้ (เข้าใจว่าน่าจะเป็นวิกผม) หัวมันสูงๆ ยังไงไม่รู้ เส้นผมก็แข็งกระด้าง ดูแล้วไม่เหมือนผมธรรมชาติเลย เดี๋ยวหัวสูง เดี๋ยวหัวแฟบ ยังมีนักแสดงอีกตัวหนึ่งที่ต้องขอชม ก็ "น้องสะพานลอย" นั้นแหละ ชอบมุขหมาพันปลั๊กมาก คิดได้ไง
"รักที่อยากจำกลับลืม"
สำหรับอีกคู่หนึ่ง น่าจะเป็นคู่ที่ดูแล้วดีที่สุดก็ว่าได้คือ คู่ของ ป้าสมพิศ (ศันสนีย์ วัฒนานุกูล) กับ ลุงจำรัส (กฤษณ เศรษฐธำรงค์) คู่นี้เรียกว่าการแสดงระดับขั้นเทพแล้ว ลุงและป้าเล่นกันแบบเนียนมาก คู่นี้มีอะไรกุ๊กกิ๊กกันมากว่าคู่ของหนุ่มสาวด้วยซ้ำ รัก ซึ้ง กินใจ ก็อยู่ที่คู่นี้แหละ ผู้กำกับเข้าใจที่จะเอาเรื่องแบบวัยรุ่นมาใส่ในตัวผู้สูงอายุ อย่างเช่น โดดเรียน หนีเที่ยว ขออนุญาตผู้ปกครอง ฯลฯ ดูแล้วให้ความรู้สึกที่ดี และไม่น่าแปลกใจที่จะมีประโยคเด็ดๆ ออกมาจากคู่นี้เยอะมาก เหมือนจะย้ำให้เรารู้ว่า "เป็นผู้ใหญ่ที่อาบน้ำร้อนมาก่อน" เรียกว่ารู้หมดว่า ความรักคืออะไร และคุณค่าของความรักคืออะไร ดูความรักของคู่นี้แล้วอบอุ่นและอิจฉายังไงบอกไม่ถูก ทั้งคู่แสดงให้เห็นว่า พร้อมที่จะร่วมทุกข์และร่วมสุขกันตลอดเวลา เป็นความรักที่น่าอิจฉามาก ใครที่มีความรักเช่นคุณลุงและคุณป้าคู่นี้จริงๆ ผมบอกได้คำเดียวเลยว่า อิจฉาๆ แต่กาลเวลาและสังขารก็เป็นตัวแปรที่จะทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้เปลี่ยนแปลงไปทั้งในทางที่ดีและไม่ดีที่ไม่มีใครสามารถหลีกเลี่ยงได้ " ไม่ลืม ไม่มีหรอก มีแต่ลืมช้า หรือลืมเร็วเท่านั้น" เมื่อดูคู่นี้จบแล้วทำให้เรารู้อะไรต่างๆ มากมายในเรื่องของความรัก อิจฉาชมพู่มะเหมี่ยวลูกนั้น ที่ป้าสมพิศบอกว่า "เป็นชมพู่ที่อร่อยที่สุดในโลก" (ฉากนี้ซึ้งมาก) ผมว่าความรักในคู่ของป้าสมพิศและลุงจำรัสนั้นให้อะไรดีๆ กับคู่หนุ่มสาวและคู่รักอื่นๆ ที่ต้องอยู่ร่วมกันตลอดชีวิตได้ดีเลยทีเดียว
ส่วนเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่องนี้ จะได้ไม่ลืมกัน ก็ได้เสียงร้องของ พี่เบิร์ด (ธงไชย แมคอินไตย์) โหมโรงให้เราฟังกันตั้งแต่หนังยังไม่เข้าฉายด้วยซ้ำ ก็ถือว่าเป็นเพลงที่ไพเราะอีกเพลงหนึ่งครับ (แต่งโดย คุณสีฟ้า) มีอีกเพลงหนึ่งที่เข้ากับเนื้อเรื่องได้ดี คือเพลงของคุณสวีทนุช สุดยอด!
การถ่ายภาพเรื่องนี้ก็ดูแบบธรรมดาที่ไม่ธรรมดา ฉากต่างๆดูเหมือนถ่ายดิบๆ แบบไม่ต้องใช้ CG ช่วย เหมือนหนังบางเรื่อง แต่มุมกล้องออกมาดูดี สวยบ้างธรรมดาบ้างแต่ก็ไม่สะดุดอะไรมาก ก็ถือว่าใช้ได้เลย
แล้วก็เป็นเรื่องธรรมดาของค่ายหนัง GTH ที่มักเอาดาราในสังกัดข้ามาเป็นตัวแสดงรับเชิญในแต่ละฉาก คนละฉากสองฉากที่เห็นๆ ก็หลายคนอยู่ มีใครกันบ้างนั้นคงต้องให้ไปดูกันเอาเอง แต่ที่ผมเห็นหน้าแล้วก็ฮาคือ นายแจ๊ค แฟนฉัน นั่นเอง
สรุปแล้ว หนังเรื่องนี้เป็นหนังรักที่น่าดูอีกเรื่องหนึ่ง แม้ว่าจะเป็นหนังรักที่ดูได้เรื่อยๆ ไม่ถึงกับทำให้น่าเบื่อ ไม่มีฉากที่ต้องเสียน้ำตาฟูมฟาย แต่มีฉากที่ดูแล้วให้จดจำในเรื่องของความรักมากมายเลยทีเดียว ดูไปยิ้มไป เป็นหนังที่ดูดีตั้งแต่ต้นเรื่อง และจบลงอย่างสมเหตุสมผลที่ดี คุณลูกที่กำลังมีความรัก ก็สามารถชวนคุณพ่อคุณแม่เข้าไปดูด้วยกันได้ และทั้งหมดก็คงต้องยกความดีให้ผู้กำกับเรื่องนี้ที่สามารถดึงเอา ความจำ ของคนมาเล่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ให้ 9 เต็ม 10 เลยครับ.....
TCK Email : TCK05@sanook.com