วิจารณ์หนัง Before Valentine

ดั่งคำที่เคยมีคนกล่าวไว้ว่า "ความรักทำให้โลกดูสวยงาม" บางคนก็ว่า "มีรักที่ไหนมีทุกข์ที่นั่น" หรือไม่ก็บอกว่า "ความรักทำให้คนตาบอด" หรือนิยามความรักที่มีอีกมากมายร้อยแปดเจ็ดสิบเอ็ดแสนล้าน แล้วแต่ว่าใครจะพบความรักกันแบบไหน สำหรับเรื่อง Before Valentine ตอนแรกหลังจากที่ได้ดูตัวอย่างแล้ว ผมก็ไม่ได้คาดหวังอะไรมากนัก อาจจะเป็นเพราะว่าช่วงหลังๆ มานี้ มีหนังที่โฆษณาว่าเป็นหนังรักโรแมนติกหลายเรื่อง แต่พอไปดูแล้วผิดหวังออกมา มันไม่ได้เป็นหนังรักโรแมนติกอย่างที่คาดไว้ ออกทะเลไปก็หลายเรื่องด้วยกัน พอมาเจอเรื่องนี้ก็เลยเฉยๆ หนังเรื่อง Before Valentine กล่าวถึงความรักของคน 3 รุ่น คือ รุ่นแรกหรือแรกรุ่น น่าจะประมาณช่วงมัธยมปลาย รุ่นต่อมาคือรุ่นของคนวัยทำงาน และรุ่นสุดท้ายคือ รุ่นบั้นปลายของชีวิตแล้ว เหมือนดูคู่รัก 3 คู่ แต่สุดท้ายแล้ว เป็นเรื่องเดียวกัน หนังเรื่องนี้หลังจากดูเครดิตผู้กำกับแล้ว (มีด้วยกันถึง 3 คน) เรื่องที่ผมไม่คาดหวังก็เกิดคาดหวังขึ้นมาทันที คนแรกคือคุณทรงศักดิ์ มงคลทอง (วุ้น) คนนี้ผ่านงานด้านภาพยนตร์มาอย่างมากมาย ทั้งเป็นผู้กำกับและเขียนบทภาพยนตร์เอง อย่างเช่นกำกับเรื่อง ผีจ้างหนัง หรือเขียนบทให้หนังเรื่องเฮี้ยน และ ผีสามบาท มาแล้ว ผู้กำกับคนที่ 2 คือคุณพรชัย หงษ์รัตนาภรณ์(พิ้งค์) ผู้กำกับคนนี้เรียกว่าสุดยอดของผู้กำกับเลยก็ว่าได้ เป็นผู้กำกับที่มักมีความคิดแปลกใหม่อยู่เสมอ เคยกำกับหนังเรื่อง ทวานยังหวานอยู่ และเคยเป็นนักแสดงในเรื่อง นช.นักโทษชาย อีกด้วย ส่วนคนสุดท้าย คุณเสรี พงค์นิธิ (โหน่ง) ก็เคยมีผลงานการกำกับอย่างเรื่อง สะใภ้บรื๋อและลองของ การันตีมาแล้ว และอีกเรื่องที่ผู้กำกับทั้ง 3 คนมีเหมือนกันอีกคือ ยังไม่เคยมีใครได้กำกับหนังรักโรแมนติกซึ้งๆ กันเลยสักคน และเรื่อง Before Valentine คือเรื่องแรกที่เป็นหนังรักโรแมนติก ที่พวกเขาช่วยกันสร้างขึ้นมา

ในด้านการถ่ายภาพ ก็มีฉากที่สวยบ้างไม่สวยบ้างปนๆ กันไป แต่ฉากที่สวยยอมรับว่าสวยจริงๆ มีการใช้ฟิวเตอร์ปรับภาพให้ดูมีสีสันของความรักมากขึ้น ยามรักก็เป็นสีนึง ยามอกหักก็อีกสีนึง ดูดีครับ ฉากที่ผมคิดว่าสวยที่สุดของเรื่องนี้น่าจะเป็นฉากที่ ชิดชนก (ไดอาน่า จงจินตนาการ-ได๋) คุยกันกับสุธี (ธนกฤต พานิชวิทย์-ว่าน) ที่สุธีบอกว่า "ถ้าฉันคบคนอื่นและคบแกไปพร้อมๆ กันด้วยล่ะ" "ก็แสดงว่าแกกำลังกวน...ฉันอยู่" ประโยคเด็ดของเรื่องนี้เลยทีเดียว แบ็คกราวด์หลังสวยครับรู้สึกว่าจะเป็นที่สะพานปลาแห่งหนึ่ง ถ่ายออกมาสวยครับทั้งฉากกลางวันและกลางคืนเลย ยังมีอีกหลายฉากนะครับ ที่มีฉากสวยๆ ส่วนเรื่องเพลงประกอบ ดีนะครับ ดนตรีประกอบก็ให้อารมณ์ดีครับ ในเรื่องการแสดง คู่ของ โจ๊ก (ธนฉัตร ตุลยฉัตร-อาร์ตี้) กับจิ๊บ (เกล้าแก้ว สินเทพดล-จีน) แสดงได้น่ารักดีครับ โดยเฉพาะน้องจีน ถึงแม้ว่าหน้าจะออกหมวยๆ แต่ก็ดูน่ารักมาก แต่ตอนที่น้องเขาปล่อยผม ผมน้องเขาไม่ค่อยสวยนะครับ รู้สึกว่าผมจะแห้งไปหน่อย ไม่สลวยสวยเก๋ครับ แต่โดยรวมๆ แล้วก็ผ่านทุกอย่าง น้องจีนเคยออกเทปในนามวง GIRL TALK ในเครือมิวสิคบั๊ก มาแล้ว และก็เคยแสดงภาพยนตร์โฆษณามาแล้วก็หลายชิ้นคงจำกันได้นะครับ และเรื่องนี้เป็นเรื่องแรกของน้องจีนก็สอบผ่านเลยทีเดียว สำหรับ น้องอาร์ตี้ ก็สามารถสลัดคาบ บุญโชค จากเรื่องบุญชูได้โดยไม่มีเสียงเหน่อหรือเล่นแข็งเหมือนเรื่องแรกอีก ถือเป็นการพัตนาฝีมือด้านการแสดงอีกขั้นหนึ่ง มีเรื่องเกี่ยวกับความเชื่อเรื่องตั๋วรถเมล์ด้วย สมัยผมเรียนมัธยมก็เคยเชื่อ (เล่น) ทายดวงจากตั๋วรถเมล์เหมือนกัน ดูแล้วทำให้นึกถึงสมัยเรียนไปด้วย มีบางช่วงบางตอน ทำแบบการ์ตูน (ตอนคิด) ก็แปลกไปอีกแบบนะครับ แต่บางช่วงก็เหมือนซีรี่ส์หนังเกาหลีเลย สำหรับคู่ของ ชิดชนก (ไดอาน่า จงจินตนาการ-ได๋) ผู้หญิงที่เชื่อในเรื่องความรักเป็นอย่างมากและก็เชื่ออีกว่าความรักจะทำให้เธอมีความสุข กับสุธี (ธนกฤต พานิชวิทย์-ว่าน) ชายหนุ่มที่ยังโลเลกับความรัก ยากที่จะได้ตัดสินใจ นั้น บอกตามตรงนะครับว่า ผมรำคาญไอ้จิตใต้สำนึกของทั้งสองคนมาก ตามไปหลอกหลอนทุกทีเลย ดูแล้วรู้สึกรำคาญยังไงบอกไม่ถูก (แต่ก็เป็นความรู้สึกส่วนตัวของผมคนเดียวนะครับ)

ในส่วนของเนื้อเรื่องน่ะดีอยู่แล้วการแสดงก็ดีอยู่แล้วครับ การที่มีจิตใต้สำนึกของแต่ละคนออกมาคุยกับเราอยู่เรื่อยๆนั้น แสดงให้เราเห็นเลยว่าในยามที่เราว้าวุ่นหรือทุกข์ใจนั้น เราคิดถึงใครอยู่ อาจจะมีคำถามอะไรมากมายที่เราอยากรู้คำตอบจากจิตใต้สำนึกเรา อันนี้ดีไหม? ทำไปแล้วดีไหม? ดีแล้ว? หรือว่ายังไม่ดี? ฯลฯ ซึ่งผมก็เข้าใจว่า ช่วงที่เราทุกข์ใจอย่างนี้จะมีคำถามร้อยแปดพันเก้า เรียกว่าคิดกันจนหัวแทบระเบิด ผมว่าผู้กำกับที่กำกับคู่นี้เขาเก่งนะครับ(คุณพิ้งค์) ที่สามารถตีโจทย์ตรงนี้ออกมาได้ การที่มันเป็นสิ่งน่ารำคาญของผม มันกลับเป็นผลดีต่อเนื้อเรื่องและสะท้อนในชีวิตจริงได้ดีจริงๆ ครับ และคู่ของคุณ แจ๊ค (เปรม บุษราคัมวงษ์) กับ แหม่ม (สิตา ธนัญโชติการ-องุ่น) นั้นดูเหมือนคู่ส่วนประกอบไปเลย คู่นี้เป็นคู่ส่วนประกอบของคู่ระหว่าง เฮียกับเจ๊ ตัวคุณเปรมนั้นเล่นเรื่องนี้เรื่องแรก ก็เลยเหมือนตัวประกอบไปซะสนิท เพราะว่ามีออกมาไม่กี่ฉากเอง และเล่นได้แข็งมากคงต้องทำการบ้านอีกเยอะ (อาจจะเป็นเพราะเล่นเรื่องแรกมั้ง) ส่วนคุณองุ่นเล่นดีใช้ได้นะครับ แต่คู่นี้อาจจะเป็นคู่ที่ไม่ค่อยมีเหตุผลเท่าไหร่ แค่คนรักไม่ได้ซื้อดอกไม้ที่ตัวเองชอบ ก็หาว่าเขานอกใจแล้ว เรื่องของความรักมันก็เป็นอย่างนี้แหละ ส่วนคู่สุดท้าย เฮีย (จตุรงค์ พลบูรณ์-จตุรงค์ ม๊กจ๊ก) กับ เจ๊ (วราพรรณ หงุ่ยตระกูล-แจง) คู่นี้เป็นคู่ไคลแม็กซ์ของเรื่องเลย เป็นคู่ที่พิสูจน์ความรักที่ยั่งยืนมาถึงป่านนี้ คุณจตุรงค์ ผมว่าเล่นเรื่องนี้แกเล่นดีมากๆ เลยนะครับ จริงๆแล้วคุณจตุรงค์เป็นตลกอาชีพอยู่แล้ว แกเล่นหนังตลกมานับไม่ถ้วน แต่กับเรื่องนี้ แกเล่นไม่ตลกนะครับแต่แกเล่นได้น่ารักมาก ก็ต้องยกความดีนี้ให้กับผู้กำกับอีกล่ะครับ (คุณโหน่ง) ที่สามารถดึงเอาความสามารถของคุณจตุรงค์อีกมุมมองหนึ่งออกมาได้ ดูแล้วนึกถึงความอบอุ่นในครอบครัว ที่มีทะเละกันบ้าง ขัดกันบ้าง ตีกันบ้าง มีความสุขกับบ้าง ทั้งสองคนนี้เป็นนักแสดงอาชีพเรื่องการแสดงคงไม่ต้องอธิบายมาก สุดยอดอยู่แล้ว ตอนจบของเรื่องนี้ดีครับ ไม่คิดว่าจะจบได้อย่างนี้ มีจุดไคลแม็กซ์นิดหน่อย ที่จะทำให้รู้ว่า ที่แท้แล้วความรักที่ยั่งยืนของเฮียและเจ๊เริ่มต้นมาจากตรงไหน ตัวแทนความรักของคนทั้งสองเป็นมายังไง Before Valentine เป็นหนังที่ผมคิดว่า เป็นหนังรักโรแมนติกจริงๆ ไม่มีอะไรเจือปนเลยใสๆ สะอาด เป็นหนังที่เหมาะสำหรับคู่รักที่ต้องการพิสูจน์ความรักที่มีให้กัน เป็นหนังที่ดูแล้วจะได้รู้ว่า คู่รักของคุณนั้นเป็นตัวปลอมหรือตัวจริง ถ้าเป็นตัวจริง ผมก็ดีใจด้วยนะครับ แต่ถ้าเป็นตัวปลอม เกิดอกหักขึ้นมา ผมก็ว่าดีนะครับ อย่างน้อยๆ ก็ยังได้ชื่อว่า "อกหักดีกว่ารักไม่เป็น" แล้วผมคิดว่า ถ้าได้ดูเรื่อง Before Valentine จะทำให้ทุกคู่รักรู้จักคำว่า "รัก" มากขึ้น รู้จักวิธีดูใจกัน รู้จักวิธีที่จะถนอมน้ำใจและให้เกียรติซึ่งกันและกัน และที่สำคัญ ต้องเชื่อมั่นในคนที่เรารักด้วย แล้วโลกทั้งโลกก็จะมีแต่สีชมพูในที่สุด และใครจะรู้ล่ะว่า ก่อนวันวาเลนไทน์ 1 วันคุณจะโชคร้ายหรือโชคดีในเรื่องความรัก...

บทวิจารณ์โดย TCK Email : TCK05@sanook.com