วิจารณ์หนัง หนึ่งใจเดียวกัน
หนึ่งใจเดียวกัน ภาพยนตร์คุณภาพดีที่สุดแห่งปี
เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม ที่ผ่านมา ผมได้มีโอกาสไปชมภาพยนตร์รอบพิเศษเรื่อง หนึ่งใจเดียวกัน ภาพยนตร์ในทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี และเป็นครั้งแรกของผมที่เจอสิ่งที่ประทับใจที่สุดในชีวิตการชมภาพยนตร์ คือก่อนที่หนังจะฉายทางโรงภาพยนตร์จะต้องเปิดเพลงสรรเสริญพระบารมีก่อน จริงๆก็เป็นเรื่องปกติธรรมดาของการฉายภาพยนตร์ในโรงภาพยนตร์ทั่วไป
แต่กับวันนี้ผมมีความรู้สึกพิเศษหน่อยตรงที่ว่า พอขึ้น มีน้องๆตัวเล็กๆ กลุ่มหนึ่งประมาณ 10 กว่าคน ( น้องๆ กลุ่มนี้น่าจะเรียนอยู่สักประมาณ ป.5-ป.6 ) ร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีตามเสียงเพลงที่ขึ้นมา ไม่ใช่ร้องเบาๆ นะครับร้องดังๆ ด้วย ไม่มีใครบอกให้พวกเขาหยุดร้อง หรือห้ามไม่ให้ร้องเลยสักนิด แต่ตรงกันข้าม สักพักผมก็ได้ยิน เสียงผู้ใหญ่บางคนร้องตามอีกด้วย แม้จะเสียงดังไม่เท่าเสียงเด็กแต่ก็พอได้ยิน ผมจึงมีความรู้สึกตื้นตันเป็นพิเศษเรียกว่าขนลุกขึ้นมาเลยทีเดียว ซึ่งผมถือว่าเป็นเรื่องที่ดีเท่าที่ผมเคยดูหนังมา
สำหรับเรื่อง หนึ่งใจเดียวกัน ( Where The Miracle Happens ) ภาพยนตร์ในทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญาสิริวัฒนาพรรณวดี และทรงร่วมแสดงนำในภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วย หนึ่งใจเดียวกันดัดแปลงมาจากบทพระนิพนธ์ เรื่องสั้น...ที่ฉันคิด" และถูกถ่ายทอดออกมาเป็นภาพยนร์แนวดราม่าสร้างสรรค์สังคมในที่สุด และสามารถสร้างออกมาได้อย่างยอดเยี่ยมเลยทีเดียว ถูกใจผมมาก
หนึ่งใจเดียวกัน เป็นเรื่องของ พิมพ์ดาว นักธุรกิจหญิงที่ประสบความสำเร็จในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นหน้าที่การงาน เงินทองหรือแม้กระทั่งชื่อเสียงเกียรติยศ เธอมีพร้อมทุกอย่าง แต่ตรงกันข้าม เธอกับล้มเหลวกับการให้เวลาเลี้ยงดูบุตรสาว จนทำให้ลูกสาวต่อต้านเธอ และเมื่อต้องเสียลูกสาวอันเป็นสุดที่รักของเธอไป เธอจึงรู้ว่าความสุขที่แท้จริงนั้นไม่ได้วัดกันที่วัตถุรอบตัว แต่ทว่าการเสียสละและการให้โอกาสกับผู้อื่น คือสิ่งที่ทำให้เธอมีความสุขมากกว่า
นอกจากความสนุกของเนื้อเรื่องแล้ว การถ่ายภาพยังถ่ายได้สวยงามมากทุกฉากทุกตอนสวยงามจริงๆ (แว่วมาว่ามีทีมงานของ GTH ทำงานในส่วนนี้ด้วย ไม่ทราบว่าจริงหรือเปล่า) และสำหรับนักแสดงนำในเรื่อง ก็ล้วนแล้วแต่ถ่ายทอดอารมณ์ของตัวละครนั้นๆออกมาได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว
ไม่ว่าจะเป็นคุณนุ่น (ศิรพันธ์ วัฒนจินดา) ที่ในเรื่องนี้เล่นเป็น นิล ครูอาสาที่เข้ามาสอนหนังสือเด็กๆ บทที่คุณนุ่นได้รับ ผมว่าเธอแสดงได้ดี ดีกว่าเรื่องก่อนๆที่ผ่านมาดีแบบว่าไม่มีที่ติเลยก็ว่าได้ สำหรับคุณเวียร์ (ศุกลวัฒน์ คณารส) นั้นก็เล่นในบทหมออาสาได้ดีไม่แพ้กัน
แต่ที่ประทับใจสุดๆ ก็คงจะเป็นกลุ่มนักแสดงตัวเล็กๆ ทั้ง 6-7 คน แม้จะเป็นนักแสดงมือใหม่ (เป็นนักแสดงที่มาจากทางเหนือทั้งหมด) แต่ก็เล่นได้อย่างน่ารักและสมจริงไม่แพ้นักแสดงผู้ใหญ่เลย โดยเฉพาะบทเด่นๆ 3 คน อย่าง จ่อย สำคัญ และ ทองดำ โดยเฉพาะในฉากร้องไห้ พวกน้องๆก็ทำได้ยอดเยี่ยมมาก
ในฉากตอนที่สำคัญ โดนคุณพ่อตี เพราะเข้าใจผิดคิดว่า สำคัญเป็นคนทำให้โรงเรียนโดนไฟไหม้ น้องเขาร้องไห้เหมือนจริงมากเลย ทำให้คนดูร้องไห้ตามไปด้วยหลายคน (เพราะผมหันไปดู) สำหรับผมก็น้ำตาซึมๆเหมือนกัน ในบทของ จ่อยน้องเขาเล่นได้น่ารักดี ดูเป็นธรรมชาติ อย่างไม่มีที่ติเช่นกัน
หนังเรื่องนี้ เป็นหนังที่สะอาดมากๆ ไม่มีคำหยาบ ไม่มีมลพิษ ไม่มีสิ่งยั่วยุทางอารมณ์ มีแต่สาระสำคัญในการดำเนินเรื่องทุกฉากทุกตอน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ นักศึกษาออกค่ายพัฒนา, หมออาสา วิถีชีวิตเดิมๆของชุมชนชาวเขา ไม่ว่าจะเป็นการบายศรีสู่ขวัญ หรือการลอยโคมลอย เป็นต้น
และสาระสำคัญที่ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญาฯ ทรงเน้นมากที่สุดก็คงเป็นเรื่องของปัญหาการด้อยโอกาสทางการศึกษาของเด็กไทยในชนบทที่อยู่ห่างไกลความเจริญ เพราะยังมีเด็กๆ ที่ขาดโอกาสในการเล่าเรียนอยู่ในสังคมไทยของเราอีกเป็นจำนวนมาก
อีกเรื่องหนึ่งคือ ผมทราบมาว่า รายได้ส่วนหนึ่ง จากการซื้อบัตรชมภาพยนตร์เรื่องนี้ จะนำเข้าสู่ มูลนิธิ Miracle of Lifeเพื่อโครงการ หนึ่งใจให้ร้อยใจรับ และ หนึ่งใจสร้างโรงเรียนให้น้อง เรียกว่า ถ้าเราดูหนังเรื่องนี้ เท่ากับเราทำบุญไปในตัวด้วย นี่ผมก็กะว่าจะพาคุณแม่ไปดู ( ในวันแม่ ) อีกรอบ แล้วคงหาเวลาว่างๆ ไปดูกับเพื่อนอีกรอบเหมือนกัน ก็ถือว่าช่วยทำบุญและได้ช่วยน้องๆสร้างโรงเรียนอีกแรง
ไม่แน่นะสักวันหนึ่ง อาจจะมีโรงเรียน เพียงหลวง เกิดขึ้นมาจริงๆก็ได้นะ ลองดูนะครับ เราเคยเสียเวลาไปดูหนังที่ไร้สาระมามากแล้ว และถ้าเราจะเสียเงินสำหรับภาพยนตร์ที่มีสาระดีๆสักเรื่องอย่าง หนึ่งใจเดียวกัน ผมว่ามันคุ้มเกินคุ้มอีกนะครับแถมพวกคุณอาจจะน้ำตาซึม ก่อนออกจากโรงภาพยนตร์ก็ได้
วิจารณ์โดย TCK