วิจารณ์หนัง FRIENDSHIP เธอกับฉัน

วิจารณ์หนัง FRIENDSHIP เธอกับฉัน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
FRIENDSHIP เธอกับฉัน ( หนังที่โหดร้ายมากๆ ) FRIENDSHIP หนังรักโรแมนติคคอเมดี้ ของวัยรุ่นวัยใส หนังแห่งความผูกพันความรักระหว่างเพื่อนในสมัยมัธยมปลายที่ถูกถ่ายทอดผ่านทาง FRIENDSHIP นี่คือบางส่วนของคำโฆษณาที่หนังเรื่องนี้ปล่อยออกมา ก่อนหนังเรื่องนี้จะฉาย ผมทราบมาว่าคนเขียนบทเรื่องนี้คือคุณ เหมี่ยว ปวันรัตน์ นาคสุริยะ ตามปกติผมชื่นชอบในเรื่องการแสดงของคุณเหมี่ยวเป็นการส่วนตัวอยู่แล้ว และคุณเหมี่ยวนี่เอง ที่เป็นคนจุดประกายให้ผมอยากดูภาพยนตร์เรื่องนี้ ( ส่วนผู้กำกับก็ใช่ใครอื่นใดคือ น้องชายสุดที่รักของคุณเหมี่ยวนั้นเอง ( ฉัตรชัย นาคสุริยะ-เต๋) ซึ่งผลงานของผู้กำกับคนนี้เคยกำกับละครมาแล้วหลายเรื่อง และเคยกำกับหนังเรื่อง โบกี้เฮี้ยน มาแล้ว แต่หลังจากที่ผมเข้าไปชมหนังเรื่องนี้กับเพื่อนๆ ทันทีที่หนังจบ เราทุกคนต่างเดินออกมาอย่างเงียบๆ ผมเข้าใจว่าทุกคนกำลังคิดกันว่า นี่เรามาดูหนังรักโรแมนติคคอเมดี้เหมือนอย่างที่เขาโฆษณาไว้จริงๆหรือเปล่า ทำไมช่วงประมาณ 30 นาทีสุดท้ายของเรื่องมันถึงเป็นอย่างนี้ ทำไมถึงเป็นหนังที่หักมุมอย่างนี้ นี่มันหนังดราม่า ไม่ใช่โรแมนติคคอเมดี้? ตัวหนังยังไม่ดีในเรื่องของการตัดต่อ ความสมเหตุสมผลในตัวหนังยังไม่ค่อยชัดเจนเท่าที่ควร ซึ่งมีหลายจุดเลยทีเดียว ตัวอย่างเช่น ในตอนแรกที่พระเอกเข้าไปช่วยแม่นางเอกแล้วให้ดอกดาวเรืองกับแม่นางเอก ทำไมพระเอกต้องพกดอกดาวเรืองไปโรงเรียนด้วยมีเหตุผลอะไร จะบอกว่าพระเอกชอบเป็นการส่วนตัว แต่วัยอย่างนั้นนิสัยอย่างนั้น อย่างไงก็คงไม่พกดอกไม้ติดตัวไปโรงเรียนโดยไม่มีสาเหตุแน่ๆ ส่วนนางเอก ทำไมตอนแรกถึงไม่ยอมคุยกับพระเอก ทั้งที่ตัวเองชื่นชมเขาอยู่แล้วที่เห็นเขาช่วยแม่ตัวเอง แต่กลับไม่พูดกับเขาซะนี่ ( หรือโมโหที่พระเอกแซว ตอนแนะนำตัว) แต่นางเอก เดี๋ยวพูดเดี๋ยวไม่พูดเหมือนผีเข้าผีออก ทั้งๆที่ตัวเองก็ไม่ได้เป็นใบ้ สามารถพูดได้ ดูแล้วอึดอัดบอกไม่ถูก ในบทของแหลม ( พี่เป้า-สายัญ) ตอนแรกนึกว่าจะมีบทสำคัญกับเนื้อเรื่อง แต่ที่ไหนได้พอตายไปกลับหมดบทไปเลยเฉยๆ ไม่มีสาระสำคัญอะไรกับเนื้อเรื่องเลยแม้แต่นิด สำหรับเพื่อนที่บอกรักกันหนักหนา ก็เศร้าได้ประมาณ 3 นาทีเท่านั้น มันก็เลยทำให้ไม่ซึ้งเท่าที่ควร ตัวหนังก็พยายามยัดเยียดเพลงเก่าๆเปิดจนแทบไม่มีเวลาหายใจ แต่ดูแล้วมันยังไม่เนียน ไม่ใช่ไม่เข้ากับบรรยากาศในหนังหรอกนะแต่มันไม่กลมกลืนมากกว่า เพลงประกอบเป็นสตริงมาทั้งเรื่อง แต่พอฉากรอบกองไฟ กลับการเป็นเพลงลูกทุ่งไปซะนี่ เนียนไหมนี่ ? ไม่ใช่ว่าเพลงลูกทุ่งไม่ดี แต่ผมว่ามันไม่เข้ากับเนื้อเรื่องนะ สิ่งต่างๆที่ต้องการยัดเยียดเข้ามาเหมือนจงใจ ( ก็คงจงใจนั่นแหละ) ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของคุณปุ๋ย พรทิพย์,โลกดนตรี,หนังสือเธอกับฉัน,เกมอาตาริ หรือฉากตอนที่มีรายการเพชฌฆาตความเครียด พวกนั้นมันบ้าหรือเปล่า เขายังไม่ทันได้พูดอะไรเลย แค่กล่าวคำว่า สวัสดี ท่านผู้ชม เท่านั้นก็หัวเราะกันแล้วเหมือนคนบ้า บอกตามตรงคนในโรงหนังไม่มีใครหัวเราะฉากนี้กันเลย ยังมีอีกหลายฉากนะครับ ที่ดูแล้วยังไม่กลมกลืนเท่าไหร่หลายฉากจริงๆ ผมขอข้ามไปเลยก็แล้วกัน สำหรับในฉากสุดท้าย เข้าใจว่าทีมผู้สร้างที่ไม่ยอมเปลี่ยนตัวนักแสดง โดยเอาสายป่านมาเล่นตอนโตอีก ก็เพราะว่า ถ้าหากเราจากกันกับเพื่อนโดยไม่ได้พบกันเป็นเวลาหลายๆปี เมื่อเราพบกันอีกครั้ง สิ่งแรกที่เราจะนึกหน้าเพื่อนคนนั้นออก ก็น่าจะเป็นครั้งสุดท้ายที่เราพบเพื่อนคนนั้น ไม่เชื่อคุณลองหลับตา แล้วนึกถึงเพื่อนคุณสมัยเด็กดู เพื่อนคุณที่จากกันไปโดยไม่เคยได้เจอกันนานมากแล้ว คุณจะเห็นภาพเขาตอนไหน? ( ตอนที่เห็นเขาเป็นครั้งสุดท้าย ( ตอนเด็ก), ตอนโต, ตอนแก่ หรือจำไม่ได้นึกไม่ออก...อันหลังนี้ลองปรึกษาแพทย์ดู ฮิฮิ) อ้อ...พระเอกกับนางเอก จากกันไป15-20 ปี ทุกคนโตหมด จนอายุน่าจะขึ้นเลข 3 เลข 4 แล้ว ( ดูจากหน้าตาของนักแสดงตอนโตแต่ละคน) แต่แม่ของนางเอกยังเหมือนเดิมทุกประการ ไม่แก่ลงเลย ( ไม่รู้มียาอะไรดี-จะได้เอาไปให้แฟนผมกินบ้าง ฮิฮิ ) เห็นคำโฆษณาหนังบอกว่า หนังรักโรแมนติคคอเมดี้ ของวัยรุ่นวัยใส คิดว่าคนที่ได้ยินประโยคนี้คงต้องการความบันเทิงมากกว่าแต่กับฉากที่ใส่เข้ามา ดื่มเหล้าดื่มเบียร์, ดูดบุหรี่, อัพยา, ดูหนังโป๊, เที่ยวซ่อง, นักเรียนช่างตีกัน ใส่มาทำไมเพราะกลุ่มคนที่จะไปดูหนังเรื่องนี้ส่วนมาก น่าจะเป็นกลุ่มเด็กมัธยมหรือมหาวิทยาลัยตอนต้นมากกว่า เหมือนต้องการเสนอด้านมืดที่เกินกว่าเหตุ เข้าใจว่าผู้สร้างต้องการสื่อให้เห็นว่า สมัยนั้นมีแบบนี้จริงๆ แต่ผมว่ามันไม่เข้ากับฟอร์มของหนัง มันโหดร้ายเกินไปสำหรับเด็กกลุ่มนี้นะครับ เดี๋ยวเด็กไปพี้ยาตาม ทำไมล่ะที่พระเอกในเรื่องนี้ยังพี้ยาได้เลย ไม่เห็นเป็นไร จริงๆแล้วนำเสนอได้ แต่น่าจะมีด้านโทษของมันด้วยนะครับ แต่ตัวอย่างที่เป็นลานสเก็ตนั้นโอเคเข้ากับฟอร์มของหนังได้ดี สำหรับในเรื่องของนักแสดงนั้น ทั้งตัวพระเอก ( มาริโอ้ ) และนางเอก ( สายป่าน ) เพิ่งผ่านงานหนังมาไม่กี่เรื่อง โดยเฉพาะน้องมาริโอ้ ยังเล่นแข็งอยู่ แต่ก็ยอมรับว่าเล่นดีกว่าเรื่องที่แล้วขึ้นมาอีกระดับหนึ่ง ส่วนตัวละครที่ไม่มีบทบาทเลย คือน้องที่เล่นเป็น จุดเด่น ( ตอนเรียนมัธยม ) ดูแล้วไม่มีบทอะไรให้เขาเล่นเลย ส่วนคนที่เล่นได้ยอดเยี่ยมที่สุดในเรื่องนี้ น่าจะเป็นน้องแจ๊ค ( แฟนฉัน ) นะครับ เล่นได้เนียนมากไหลลื่นไปได้เรื่อยๆ ถ้าเรื่องนี้ไม่มีบทของแจ๊ก จะหมดสนุกไปอีกเยอะเลย สำหรับตอนจบนั้นผมไม่ขอพูดถึงก็แล้วกัน เพราะว่าอาจจะมีใครอีกหลายคนที่เข้ามาอ่านตรงนี้ แล้วยังไม่ได้ไปดู ก็ให้ไปลุ้นกันเอาเองดีกว่าว่าเกิดอะไรขึ้นหลังจากนี้ ผมว่าเป็นธรรมดานะครับกับสิ่งที่เราคาดหวังไว้ล่วงหน้าว่ามันจะต้องเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ แล้วพอมันไม่เป็นไปอย่างที่เราหวังไว้ เราย่อมรู้สึกไม่ดีกับสิ่งนั้นขึ้นมาทันที แต่ขอบอกก่อนนะครับว่าในตอนฉากจบของหนังเรื่องนี้บางครั้งอาจจะเกิดขึ้นกับใครบางคนในชีวิตจริงก็ได้ (ผมหมายถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสวนสาธารณะ นะ) มันก็จะเป็นเครื่องเตือนใจ ให้กับน้องๆที่เป็นผู้หญิงหลายๆคนให้ระวังตัวในเรื่องนี้ และผมก็ยอมรับอีกเรื่องคือ คุณเหมี่ยวกล้ามาก กล้าที่จะให้หนังจบแบบนี้ มันเหมือนเป็นดาบสองคม ที่มันพร้อมจะฟาดฟันสิ่งที่อยู่ด้านหน้า และย้อนกลับมาฟาดฟันตัวของมันเองได้ในทุกเมื่อ คราวนี้ก็แล้วแต่ผู้ชมแล้วครับจะชอบหรือไม่ชอบ? ก็ขึ้นอยู่ที่ความชอบของแต่ละบุคล แต่สำหรับผม ยังคงเป็นกำลังใจให้คุณเหมี่ยวอยู่เสมอครับ วิจารณ์ภาพยนตร์ โดย TCK

อัลบั้มภาพ 5 ภาพ

อัลบั้มภาพ 5 ภาพ ของ วิจารณ์หนัง FRIENDSHIP เธอกับฉัน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook