วิจารณ์หนัง รักสามเศร้า

วิจารณ์หนัง รักสามเศร้า

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
สวัสดีครับ นาย Tendama มาแล้วอีกครั้งสำหรับครั้งนี้ที่พบกันอาจจะทำให้เศร้ากันซักนิดซักหน่อย เพราะเกือบปล่อยน้ำตาไหลพรากๆ กับหนังที่มีชื่อว่า รักสามเศร้า ของค่ายหนัง อย่าง GTH ไปซะแล้ว หลังจากไปดูรอบแรกมาไม่นานกับความมีอารมณ์ร่วมกับหนัง รักสามเศร้า ทำให้ผมถึงกับตีตั๋วรอบสองไปดูอีกครั้ง 2 รอบครับพี่น้อง 2 รอบ ที่ไปดูเพราะไม่ได้ชอบนักแสดงหรืออะไรเป็นพิเศษ แต่ชอบ วาทศิลป์ในการใช้ในบทสนทนา ซะมากกว่ามันลึกซึ้งตรึงหัวใจวัยรุ่นยิ่งนัก หนังรักสามเศร้า จากชื่อเรื่อง ก็คงรู้กัน ว่าเรื่องนี้ต้องเน้นไปที่อารมณ์เศร้า โดยเริ่มเรื่อง หนังปูตัวละครคร่าวๆ ถึงบุคลิกของฟ้า พายุ และน้ำ รวมทั้งเรื่องโรคร้ายของฟ้า เรื่องที่ยุ แอบรักฟ้า และน้ำก็แอบชอบยุ ซึ่งถือว่าไม่ได้เศร้าที่หวังไว้เท่าไหร่ แต่หลังจากเข้าสู่ช่วงกลาง เนื้อหาของเรื่องก็เริ่มเข้มข้นขึ้น ซึ่งบทหลังจากนี้ ถือว่าร้อยเรียงออกมาได้ดีทะลุหัวอก วัยรุ่นไปหลายรายเลยทีเดียว ซึ่งถ่ายทอดอารมณ์ที่เราแอบชอบใครสักคนจนนำไปสู่ความทุกข์บนความรักได้ดี และสถานการณ์ต่างๆก็ค่อยๆบีบคั้นอารมณ์ผู้ชมมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นโรคร้ายที่ไม่มีทางรักษาของฟ้า ( ซึ่งตอนนี้ ผมยังไม่รู้เลยว่าตายเพราะเหตุอันใด โรคร้ายโรคนี้หมอรักษาไม่ได้อีกต่างหากหรือว่าผู้กำกับกำลังเล่นแง่ที่ว่าว่า แพทย์ไทยยังไม่มีความสามารถเพียงพอหรือป่าว ถ้าใครรู้ว่ามีเฉลยบอกผมที ) หรือลูกในท้องของน้ำ การตัดสินใจหาทางออกที่ทำร้ายตัวเอง เหล่านี้ล้วนถูกใส่มาอย่างดี ทำให้ช่วงหลังนี่ เรียกได้ว่าผู้ชมทั่วไปคงถูกบทของรักสามเศร้าเล่นงานจนน้ำตาคลอกันหลายฉาก หรือหลายคนอาจมองว่าโอเว่อร์ไปเหลือเกิน ก็แล้วแต่นานาจิตตังคนมองคนล่ะมุม หนังรู้จักหยิบจับสิ่งเล็กๆต่างๆมาใช้ในเชิงสัญลักษณ์ ซึ่งช่วยในการถ่ายทอดอารมณ์และเนื้อเรื่องได้ดีในอีกทางนึง ไม่ว่าจะเป็นอักษรบนเสื้อของทั้งสาม ชื่อตัวละคร ที่สื่อสัมพันธ์กัน และมีความเป็นธรรมชาติ และบางอย่างยังมีผลต่อเนื้อเรื่อง ช่วยในการปิดเรื่องของหนังด้วย ไม่ว่าจะเป็นซีดีเพลงที่น้ำให้ยุตั้งแต่ช่วงแรก ซึ่งนำมาเล่นเป็นเพลงประกอบภาพยนตร์ในช่วงสุดท้ายของเรื่องได้ดีมาก และจุดเด่นของหนัง รักสามเศร้า คือ บทสนทนาของผู้แต่งถ่ายทอดมุมมองของตัวละครต่างๆได้อย่างมีมิติ และมีบทพูดที่แทงอกแทงใจหลายประโยค ซึ่งผมชอบมาก แต่หลายคนกับวิจารณ์ มองว่าหยาบคายใช้ กู มึง เยอะมากๆ แต่ผมมองว่ามันเป็นความเป็นจริงที่กลุ่มเพื่อนเราใช้พูดกัน ไม่มีกลุ่มเพื่อนสนิทกลุ่มไหนหรอกครับจะมา เอ้อระเหยเรียกคุณ ผม ท่าน เธอ มันออกแนวจริตแตกไม่เหมาะหรอกครับ ซึ่งให้ผมพูดคงต้องให้พูดว่าเป็นความถ่อย แต่ความถ่อยนั้นมันเป็นแบบมีศิลปะ ไม่ใช่มาด่ามั่วซั่ว เหมือนกับหนังหลายเรื่องที่ผ่านมาจน จดจำไปใช้แบบเสียมนุษย์ พูดถึงโดยรวมตัวนักแสดงหลัก ต้องยอมรับ ก้อย รัชวิน ที่พึ่งเล่นหนังเรื่องนี้เป็นเรื่องแรก ก็โดนบท ดราม่า ใส่โครมแบบเต็มๆทั้งความกดดันของเรื่องหลายๆอย่าง จนทำให้เธอดูเป็นตัวละครที่น่าสงสารที่สุดในความคิดของผม ส่วน พีค ภัทรศยา นั้นแค่มีโรครุมเร้าแล้วใกล้ตายแต่ถ้ามาดูชีวิตจริงแล้ว คนเราเกิดมาก็ต้องตาย แต่การตายทั้งเป็นกับบทเรียนที่แสนโหดร้ายของก้อยนั้น มันน่าสงสารมากกว่าในส่วนตัวผม ตบมือให้คุณ ต้อม ยุทธเลิศ ที่ตีบทสังคมของคนไทยวัยรุ่นที่แตกกระเจิง อีกทั้งได้ความตลกผ่อนคลาย จากมุขเหล่าเพื่อนฝูงของเหล่านักแสดงหลักได้อีก ทำให้ มีการผ่อนคลายและน่าติดตามต่อ แต่ถึงกระนั้นแล้ว รักสามเศร้าที่คงความเป็นดราม่ามาตลอด แต่แล้วต้องสะดุด ที่ตอนสุดท้าย ผู้กำกับอาจจะใส่ความดราม่าให้เศร้าสุดซึ้งกินใจ ที่ต้องให้ พีคตายที่โขดหินกับมุมมองท้องฟ้าที่ตะวันลับไป จุดนี้เป็นการยัดเยียดความเศร้าเกินไปจนทำให้ผมว่าเป็นฉากที่เฉยๆ ไม่สุดใจเท่าไหร่ เป็นการเดาออกล่วงหน้าเหมือนเลียนแบบ หนังประเทศเพื่อนบ้านทำให้เหมือนขาดเอกลักษณ์ตัวเองไป ไม่ค่อยประทับใจกับส่วนตรงนี้ สรุป หนังรักสามเศร้า อาจจะไม่ได้เป็นหนังที่ทุกคนหวังว่าเศร้าน้ำตาไหล แต่มันทำให้เราซึ้งกินใจกับบทคำพูดที่ คัดสรรค์กลั่นกรองจากผู้สร้าง ที่ทำให้โดนใจกันไปทั่วหน้า เนื้อเรื่องการดำเนินเรื่องอาจจะไม่ได้ทำให้คุณมีความสุขนัก แต่ผมบอกได้เลยว่าหนังเรื่องนี้คุณดูแล้วมันไม่ทำให้คุณมีความทุกข์เพิ่มขึ้นแน่ ผมก็คนไทย ชอบเพลงไทยดูหนังไทย แล้วพวกเราล่ะ อุดหนุนหนังไทยดีๆแบบนี้แล้วหรือยัง สำหรับรักสามเศร้าเรื่องนี้ 4 ดาวเหนาะๆ วัยรุ่นควรดู..!! " บทวิจารณ์ภาพยนตร์เป็นเพียงความเห็นส่วนบุคคล กรุณาตัดสินจากการชมภาพยนตร์ด้วยตัวเอง " วิจารณ์ภาพยนตร์ โดย Tendama

อัลบั้มภาพ 5 ภาพ

อัลบั้มภาพ 5 ภาพ ของ วิจารณ์หนัง รักสามเศร้า

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook