วิจารณ์หนัง Indiana Jones 4
อะแฮ่มๆ สวัสดีครับเพื่อนๆ คอหนังที่รักของ ข้าพเจ้า นาย Tendama ก่อนจะขึ้นสู่เดือน มิถุนายน ที่จะเข้าหน้าฝนแบบเต็มๆแล้วนั้น จึงอยากเชิญชวนเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ทุกท่านได้ไปร่วมผจญภัยไปกลับ Indiana Jones And The kingdom of the crystal skull หรือชื่อไทยว่า อินเดียน่าโจนส์ ขุมทรัพย์สุดขอบฟ้า 4: อาณาจักรกะโหลกแก้ว หรือหลายคนเรียกสั้นๆว่า Indiana Jones 4
ซึ่งภาคนี้ก็เกือบ 20 ปีแล้ว ที่เราไม่ได้เห็น Indiana Jones ออกมาโลดเล่นบนจอภาพยนตร์ และเมื่อกลับมา คงต้องทำให้ หลายๆคนรอที่จะชม คาดหวังถึงความบันเทิง ดังเช่นที่เคยได้ดูดังเมื่อวันวาน เสน่ห์ของหนังชุดนี้คือการผจญภัยที่น่าสนุกสนาน เนื้อเรื่องมีชั้นเชิงและมีหลายๆอย่างแทรกมากกว่าแค่การผจญภัย และฉากตลกเล็กๆน้อยผสมผสานกันไป จนกลายเป็นความลงตัว
ผมจะพูดถึงคอหนังรุ่นใหม่กันก่อนเลยนะครับว่าหนัง Indiana Jones เอาเข้าจริงๆแล้วเป็นหนังภาคต่อที่เว้นวรรคมานานมากๆ ภาคแรกเล่นเอาผมยังลืมตาดูโลกได้ไม่นานมาเอง ต้องหาเช่าตาม ร้านวีซีดี ดีวีดี แถวบ้านมาดูจนจับใจความว่าอะไรเป็นอะไร จนไปดูภาค 4 นี้ แต่ถ้าใครมาดูภาค 4 เลยนั้น ผมมั่นใจว่า ตอนแรกอาจจะ งงนิดหน่อย แต่รับรองว่าหนังนั้นไม่ได้ทำให้เรา งงเลย เนื้อเรื่องไหลลื่นจนเราจับใจความของหนังได้เอง
ผมว่า กับภาคใหม่ภาคที่ 4 นี้ แน่นอนว่าไม่สามารถที่คิดจะเทียบกับหนังต้นฉบับภาคแรกๆ ได้เลย ซึ่งกลายเป็นความคลาสสิคไปแล้ว แต่ทางทีมผู้สร้างเฉลียวฉลาดและเก่งกาจมากๆในการนำเสนอภาคใหม่นี้เป็นเหมือนภาคก่อนๆ เพราะการใช้ฉาก แสงสี บรรยากาศ เก่าๆ และใช้ ภาพสี เป็นซีเปีย การเฟ้นหายานพาหนะ ทำให้เราหลงไปในยุคในปีเก่าๆได้อย่างดี ซึ่งถ้ามอง จาก ภาคก่อนเหมือนเวลาทั้ง 4 ภาคนั้นไม่ได้ต่างกันมากเลย แถม้งแต่งานด้านภาพ เสียงเอฟเฟกซ์ และองค์ประกอบต่างๆ ที่แค่ได้ฟังและชมก็รู้สึกใช่เลย ซึ่งขอบอกตรงๆเลยว่า ถ้านำภาค 1 - 4 มาชมพร้อมกันจะรู้สึกถึงความต่อเนื่องสบายๆเลยครับ
หนังสามารถสร้างความสนุกสนานได้ดีมาก เรียกว่า เร้าอารมณ์ น่าติดตามตลอดเวลา ฉากผจญภัย เสี่ยงภัย ทำให้ลุ้นๆได้บ้าง แต่ก็อย่างว่า ถ้าคุณมีโอกาสได้ชมภาคเก่าๆ และยิ่งเป็นคอหนังเก่าๆ อาจจะชอบภาคนี้ แต่ไม่ถึงกลับขั้นปลื้ม มากนักเพราะว่า การแทรกความเกินจริงเข้าไปในแบบมนุษย์ต่างดาว หรือเราเรียกว่า Sci fi ทำให้ผมตะหงิดใจว่ามันไม่ใช่ Indiana Jones ในแบบคราสสิคที่ผ่านมาทั้ง สามภาคที่จะเล่าถึงพวก ขุมทรัพย์ เผ่ามายา หรือพวก ดารายันต์ ต่างๆในสมัยนั้น ซึ่งจะเป็นแบบนั้นหรือไม่ คงขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลและครับ
การแสดง ทุกตัวละครแสดงได้ดีตามมาตรฐาน จะขอชมก็คงเป็น Shia LaBeouf ถ้าผ่านตาอย่างสดๆร้อนๆก็หนังฟอร์มยักษ์ใหญ่ของปีที่แล้วจาก Transformers ที่แสดงฉากแอ็คชั่น และซีนอารมณ์ได้น่าเชื่อถือและน่ายกย่อง และอีกคนที่คงข้ามไปไม่ได้ก็คือ Cate Blanchett จาก หนัง Elizabeth ที่ได้รับรางวัลออสการ์ ไปหยกๆ โดยการแสดงของเธอทั้งสำเนียงท่าทางต่างๆช่างดูสมจริง และเขาถึงบทได้อย่างไร้ที่ติจริงๆ
ข้อดีก็มีเพียบ ข้อเสียจะไม่มีเลยก็ไม่ได้ ข้อเสียของหนังเรื่องนี้ คือการใส่เอฟเฟ็กต์ที่เล่นจนใช้เวลาเนิ่นนานหรือ เรียกว่า ยืดเกินไปนิดหน่อยในฉากสุดท้าย ทำให้เปลืองเวลามากไป แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้หลายคนติดใจหรอกครับ มันเป็นตัวผมมองซะมากกว่า และการใช้ Sci fi ทำให้ผมตะหงิดใจว่ามันไม่ใช่ Indiana Jones ในแบบคราสสิคที่ผ่านมา เลยคิดว่าตรงนี้น่าจะทำลายความเก่าและเก๋าของหนังไป
สรุปแล้วว่า Indiana Jones and the Kingdom of the Crystal Skull สามารถทำให้คอหนังเก่า และคอหนังใหม่ได้เพลินเพลินกับการผจญภัยที่อาจจะมีความล้ำสมัยทำให้ความคลาสสิคเก่าๆจางไป แต่ก็ไม่ได้เสียสมดุลในเรื่อง คุณภาพ ความแอ็คชั่นการผจญภัยที่ใน เนื้อเรื่อง เอฟเฟกต์ ความบันเทิง สนุกสนานกับฉากผจญภัย ไล่ล่า แบบเก่าๆที่คุ้นเคยได้อย่างยอดเยี่ยม
Indiana Jones 4 นี่แหละครับ หนังสำหรับคนรักการผจญภัยจริงๆ และจบแบบ แฮปปี้เอนดิ้งซะด้วย สวยหรู ลองไปชมดูแล้ว คุณจะรู้ว่าเป็นอย่างไร ถ้าอยามันแบบสุดกู่ล่ะก็ เช่า ภาค 1- 3 มาดู ก่อนไป ดู ภาค 4 คุณจะรู้ว่า โลกเราน่าค้นหาเพียงไหน ผมคงพูดได้ว่า 2 ชั่วโมงกับหนังเรื่องนี้ มันสนุกคุ้มค่าจริงๆ 5 ดาว เหนาะๆ เห็นแล้วอยากผจญภัยจริงๆ
" บทวิจารณ์ภาพยนตร์เป็นเพียงความเห็นส่วนบุคคล กรุณาตัดสินจากการชมภาพยนตร์ด้วยตัวเอง "
วิจารณ์ภาพยนตร์
โดย Tendama